Skip to main content

Fuzhou Trip #1

" Hope is a waking dream. "
  -- Aristotle


ยินดี
ปรีดา
เกินค่า
หาเท่า


เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โชคชะตาพัดพาให้ได้ไปทำงานที่เมืองจีน (เมือง Fuzhou) ซึ่งจริงๆ ต้องนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยือนแผ่นดินเกิดของอากง นึกถึงสมัยเด็กๆ ที่ไร้นามโตมาในสังคมคนจีนในแผ่นดินไทย แต่ด้วยความที่เมืองไทยเป็นประเทศเสรีทำให้โตมาโดยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไทยตลอดมา ยิ่งนานๆ เพราะกงเสียตั้งแต่ยังเด็กและได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่กรุงเทพฯ ยิ่งทำให้ไร้นามค่อยๆ ลืมภาษาจีนที่เคยคุยได้ตอนเล็กๆ กับกงและค่อยๆ เริ่มลืมอะไรๆ ไปเรื่อยๆ

สรวงสรร
บรรเทา
ทุเลา
เบาใจ


แล้ววันหนึ่งก็ได้มีโอกาสได้เยือนเมืองจีน คราวนี้เป็นครั้งแรกที่ได้บินกับสายการบินคาเธย์ แปซิฟิค เลยได้มีโอกาสไปเที่ยว Lounge ของสายการบินแห่งนี้ที่สุวรรณภูมิ ด้วยความที่เป็นสายการบินของฮ่องกงอาหารว่างที่อร่อยของที่นี่ต้องยกให้ติ่มซำ แต่เสียดายที่ Lounge นี้ไม่ค่อยมีอะไรให้เล่นมากเหมือนของ EVA Air จำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยใช้บัตร Diners ไปเข้า Lounge ของคาเธย์ที่สนามบินดอนเมืองประทับใจมากเลยแอบผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีอะไรต่างกันนัก

กางปีก
หลีกบิน
โผผิน
จินต์ไหว


แต่ไม่นานก็ต้องมาตะลึงกับ Lounge ของสายการบินนี้ที่ฮ่องกง เพราะใหญ่โตโอ่อ่า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณคอมพิวเตอร์ ห้องอาบน้ำ Noodle, Coffee bars สร้างได้น่าประทับใจทำให้เวลาแห่งการรอเครื่องบินถึงแม้จะ delay ก็ผ่านไปรวดเร็วไม่น่าเบื่อเลย

ขอบฟ้า
คว้าไกล
กลับใกล้
ไขว่ถึง


ที่ชอบใจที่สุดคือระบบการสั่ง "บะหมี่" ที่พอไปสั่งแล้วเค้าก็ให้เครื่องมือกลมๆ ขนาดฝ่ามือมาพร้อมกับบอกว่าถ้าเครื่องสั่น & มีไฟสีแดงวิ่งแสดงว่า อาหารที่เราสั่งนั้นทำเสร็จแล้วให้มารับที่ counter ได้ แล้วก็ถือเจ้าเครื่องนี้ไปเดินเล่นใน Lounge ได้ตามสบายไม่ต้องคอยนั่งรอ ถือว่าเป็นการใช้ technology ให้คนประทับใจได้อย่างเก๋ไก๋ทีเดียว

ลมหนาว
พราวห่ม
พอข่ม
ชมชื่น


โลกมักจะกลมเสมอสำหรับคนในวงการธุรกิจ น่าแปลกที่การเดินทางครานี้ให้บังเอิญเจอต้องคนรู้จักได้ทั้งตอนอยู่สนามบิน ใน Lounge และแม้กระทั่งตอนถึงโรงแรมที่พักอย่างไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน นึกแล้วแปลกยิ่งถ้าเทียบกับสมัยเป็นเด็กๆ นักเรียน ไร้นามบินไปบินมามากมายแทบไม่เคยเจอคนรู้จักซักครั้ง

ยามหลับ
กลับตื่น
พักพื้น
คืนหนึ่ง


ความทรงจำก้าวแรกในแผ่นดินจีนนั้นไม่ค่อยดีนัก เพราะจากสนามบินขับไปตัวเมืองใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ สิ่งที่น่ากลัวคือการขับรถแบบไม่ยอมกัน ใครแย่งทางได้ก่อนก็ได้ไปก่อน การขับรถปาดหน้ากลายเป็นเรื่องธรรมดา การเดินข้ามถนนตรงไหนก็ได้ การที่คนหยุดยืนดื้อๆ กลางถนน หรือแม้กระทั่งการไม่สนใจสัญญาณไฟ ทำให้พบว่าเทียบกับเมืองไทยแล้วคนไทยเราขับรถเรียบร้อยไปเลย (หลังจากนั้นหลายวันไร้นามจึงทำใจได้ว่าการขับรถแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่นี่)

ไออุ่น
คุณคำ
ชวนพร่ำ
คำนึง


โรงแรมที่มาพักครานี้คือโรงแรมแชงกรีล่าซึ่งถือได้ว่า เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างสวยงามในเมืองนี้ทีเดียว เจ้าหน้าที่พนักงานยิ้มแย้มช่วยเหลือทักทายได้ดี แต่น่าแปลกที่ทุกคนที่เจอกับไร้นามจะทักด้วยภาษาจีนก่อน (ค่านิยมนี้ไม่เหมือนเมืองไทยที่โรงแรมหรูๆ มักจะทักไร้นามด้วยภาษาอังกฤษก่อน ทำให้รู้สึกไม่ได้ว่าประเทศเค้าชาตินิยมดีกว่าเรา)

ท้องฟ้า
ตราตรึง
พาซึ้ง
พึงใจ


ช่วงที่ไปถือว่าโชคดีคือเพิ่งผ่านปีใหม่มาได้ไม่นาน และก็กำลังใกล้ช่วงตรุษจีนเลยได้ชมบรรยากาศการตกแต่งรับเทศกาลรอบๆ ตัว อากาศตอนที่ไปถึงถือว่าเย็นพอควรคืออุณหภูมิประมาณ 9 องศา แต่พวกเราก็ไม่หวั่นออกไปเดินชมเมืองท่องราตรีกันเล็กน้อย จุดหมายเพื่อลองไปหาอาหารท้องถิ่นกินกัน

งามเอย
เผยภาพ
พาทราบ
อาบจินต์


อิ่มเอม
เปรมถิ่น
แผ่นดิน
ชินใกล้


หวนคืน
ผืนฝัน
คืนวัน
อันใด


ยาวนาน
ปานไหน
มิได้
ไกลเกิน



Create Date : 28 มกราคม 2551

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห