Skip to main content

ปราณบุรี - Day 3




    " Truth is what stands the test of experience. "

    -- Albert Einstein


อบอุ่น
ละมุน
กรุ่นฝัน



    วันที่สาม... บรรยากาศรอบตัวค่อนข้างรื่นรมย์ ด้วยไม่มีตารางอะไรให้เร่งรัดรีบร้อนอีกต่อไป ทุกสิ่งเหมือนเข้าสู่สภาวะสงบนิ่งตามธรรมชาติของมัน ชีวิตแบบนี้พอกลับไปสู่สภาวะปกติคงไม่ได้มาสัมผัสอีกเนื่องด้วยการงานความรับผิดชอบและอะไรหลายๆ อย่าง


แบ่งปัน
กำนัล
วันใหม่



    อากาศตอนเช้าเย็นสบายสดชื่นนัก ถึงแม้ทุกวันที่ไปทำงานไร้นามก็ตื่นแต่เช้า แต่ทว่าการที่ตื่นเช้าแล้วไปนั่งห้องแอร์ทำให้อากาศค่อนข้างปิด แม้จะเย็นสบายแต่ก็ไม่สดชื่น การมาท่องเที่ยวเป็นครั้งเป็นคราวก็ช่วยให้เราได้ re-charge battery ใหม่


ความจริง
งามยิ่ง
สิ่งใด



    วันนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวหนาตาขึ้นกว่าวันวาน คงเป็นเพราะว่าผู้บริหารในบริษัทหลายๆ ท่านได้เดินทางกลับไปตั้งแต่คืนก่อนทำให้มีห้องว่างพอสมควร แขกส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติ คงเป็นเพราะค่าที่พักที่ค่อนข้างแพงทำให้ไม่ค่อยพบเห็นคนไทยมาพักที่นี่กันมากนัก


แจ่มใส
ข้างใน
ใจตน



    กิจกรรมวันแรกที่ทำคือ การเดินไปเยี่ยมชมห้องระดับอื่นๆ ของผู้บริหารระดับต่างๆ มีห้องที่มีระเบียงกว้างและเตียงระบายตรงระเบียงไว้นอนพักอ่านหนังสือเวลากลางวัน ห้องที่มีทางเดินด้านหลังลงทะเลได้โดยในห้องมีอ่างอาบน้ำตั้งอยู่อย่างลงตัว และ ห้องที่มีสระว่ายน้ำในตัวเอง พร้อมโซนอาบน้ำแบบ open air


ผู้คน
สับสน
วนว่าย



    พอชมที่พักเสร็จก็ไปเดินลุยน้ำทะเล น้ำทะเลที่นี่ค่อนข้างใสแต่น่าเสียดายที่ทรายใต้น้ำสีค่อนข้างขุ่น ทำให้มองชมจากระยะทางไกลพบว่าไม่ใคร่จะสวยนัก แต่พอมามองใกล้ๆ ก็พบว่าสวยทีเดียว ความงามที่แท้จริงนั้นต้องใช้เวลาพิจารณาถึงจะค้นพบ


เสียดาย
มากมาย
พ่ายหน



    เม็ดทรายที่นี่ค่อนข้างละเอียด เป็นเม็ดสีเข้ม ตรงที่อยู่ริมหาดจะเรียบเนียน ตรงที่อยู่เลยไปและไร้ผู้คนรังควานจะมีน้องปูลมตัวเล็กๆ หลายๆ ตัวทำรังอยู่และม้วนจนเป็นก้อนกลมสวยงามละลานตายิ่งนั่ง (ภาพด้านล่างไร้นามถ่ายซูมเข้าไปไม่กล้าเหยียบบริเวณนั้น)


บางอย่าง
เพียงว่าง
พรางคน



    เดินไปเรื่อยๆ ก็จะพบเวิ้งทะเลที่ทำให้มองกลับมาเห็นวิวโรงแรมจากระยะไกล และบรรยากาศแบบที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังยืนอยู่ตรงกลางและมีทะเลล้อมรอบอยู่ (เสียดายน้องกล้องไร้นามไม่สามารถเก็บภาพบรรยากาศทั้งหมดมาแบ่งให้เพื่อนๆ ได้ชมได้)


ปล่อยพ้น
วังวน
กลลวง



    ไม่รู้อีกนานเท่าไร จึงจะได้มาพักแบบนี้อีก หลายๆ ครั้งที่ไร้นามไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด แต่เป็นการไปทำอะไรๆ แบบรีบร้อน รีบๆ ชม รีบๆ ดูสิ่งนั้นสิ่งนี้ การพักเฉยๆ เดินเล่นรอบโรงแรมก็เป็นอะไรที่สบายดีเหมือนกัน


อบอุ่น
ละมุน
กรุ่นฝัน

สิ่งอัน
นิรันดร์
เพียงช่วง

โชติดับ
แล้วลับ
กลับสรวง

ทราบลวง
ปล่อยห่วง
บ่วงคลาย





Create Date : 23 สิงหาคม 2549

Comments

Popular posts from this blog

Dubai

  เมืองใน เขตร้อน ทะเลทราย สมัยก่อนเคยมา Dubai เร็วๆ แวะตอน Transit แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวละเอียด คราวนี้เลยลองมา Dubai แบบยาวๆ หน่อย เลยทำให้มีเวลาดูอะไรๆ มากขึ้น ภาพแรกด้านบนคือย่านตลาดเก่า Heritage Village ที่ขายของท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม ภาพที่สองด้านบนคือภาพสถานีรถไฟฟ้าทันสมัยที่สามารถเดินทางได้สบายด้วยบัตร Nol Card (ซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต) ส่วนภาพด้านล่างคือป้ายรถเมล์ทันสมัยติดแอร์เย็นๆ เดิดูปลอดภัยมากๆ สร้างจน กลับกลาย เป็นสวรรค์ ภาพข้างบนคือภาพข้างในรถเมล์ที่นอกจากจะนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำๆแล้ว ยังบอกละเอียดว่าตอนนี้อยู่ป้ายรถเมล์ไหน กำลังจะไปไหนและคาดว่าจะถึงที่ไหนในอีกกี่นาทีเป๊ะมากๆ (ยังไม่พอคือเชื่อมข้อมูลกับ App ได้เป๊ะมากๆ ดูรถเมล์รออะไรๆ คือเดินทางสบายระดับหนึ่ง) – ภาพข้างล่างคือไปเยี่ยมชม Museum of the future เมื่อคน ตั้งใจ ร่วมมือกัน ภาพข้างบนคือหุ่นยนต์ผลิตน้ำหอมใน Museum of the future / ส่วนข้างล่างคือลองแวะไปใช้บริการสปา ของ ร.ร. Armani ที่อยู่ข้างในตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสปาที่ หรูหราอลังการ สบายมากๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเพราะพอเข้าไปก็เอามือถือไปเก็บในล็...

ภูเก็ต - Day 1

ระยะทาง... เป็นห้วงห่างสร้างความหมาย ผ่อนอารมณ์พอระบาย จนยิ้มง่ายกับชีวิต วันหยุดอาทิตย์ก่อน ไปภูเก็ตมา นับเป็นการเดินทางไปเยี่ยมดินแดนไข่มุกอันดามันอันลือชื่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟังเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมาชื่นชมให้ฟังถึงความงดงามของที่นี่มานาน การเดินทางคราวนี้จุดหมายหลักคือมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย (ทั้งคู่) ทำให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันสมัยวิศวะเกษตรกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เสียดายที่หลายๆ คนมาไม่ได้จึงมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมขบวนการกันอยู่เพียง 4 คน... โชคชะตา... แม้ฝืนกล้าท้าลิขิต ลวงเวลามาเป็นมิตร ก็เพียงจิตคิดห่างไกล วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ลงขันเช่ารถกัน จุดหมายแรกคืออุทยานแห่งชาติสิรินาถแป๊บนึงแล้วก็ขับเข้าเมือง หลงทางกันพอควรทำให้พลาดสถานที่ที่ตั้งใจเที่ยวไป แล้วก็หิวตาลายหาข้าวเช้าติ่มซำกินกันแล้วก็เดินเล่นเล็กน้อยในตัวเมือง เสร็จแล้วก็ตรงไปยังที่พัก งานนี้ต้องขอบคุณติ๊ก เพื่อนผู้น่ารักที่เคยไปเรียนปริญญาโทที่เคมบริดจ์รุ่นเดียวกันกัน ที่เอื้อเฟื้อจัดหาสถานที่ให้ ที่พักเป็นโรงแรมสีขาวสะอาดสะอ้านชื่อ rawai beach resort ที่หาดราไวย์... สายลมร้อน... มิอาทรตอนอ่อ...

Rome

ภาพเก่าเงาสะท้อน ให้มองย้อนถึงวันวาน ความหลังอันหอมหวาน จึงจดจารลงทรงจำ กรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าจะได้มาซักครา และแล้วในที่สุดก็ได้มา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอะไรเยอะมาก ฉันถ่ายรูปมาหลายร้อย และคัดรูปมาลงเพียงสิบกว่าภาพ มีหลายภาพที่คัดมาแล้วตัดออกด้วยความเสียดาย -- เพราะก็ไม่อยากทำ blog ด้วยภาพเยอะนัก :) ภาพงามความตรึงใจ ยังสวยใสให้ดื่มด่ำ จนต้องมาเพ้อพร่ำ ใส่ถ้อยคำ... จารกวี ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวริมแม่น้ำไทเบอร์ตอนพระอาทิตย์ตก ภาพถัดลงมาเป็นอาหารเย็นของที่นี่ ภาพถัดลงมาเป็นวิวสระน้ำของโรงแรมที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง และภาพด้านบนคือ Colosseum หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากมากรุงโรม @^_^@ สูงส่งเกินบรรยาย สื่อความหมายสร้างศักดิ์ศรี สร้างสรรอย่างพอดี ให้คนมีความทรงจำ หินที่สร้างขึ้นมาเป็นโครงดูแล้วเริ่มผุกร่อนเป็นหลุมๆ ลงไป (ดั่งภาพด้านบน) มีการบูรณะก่อสร้างบ้าง แต่ก็ต้องทึ่งว่าสมัยก่อนชาวโรมันคงยิ่งใหญ่มาก ขนาดสร้างสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายที่อาณาจักรที่ยิ่งให...