Skip to main content

Posts

Showing posts from 2019

Halong - Hanoi

คลื่นลมห่มทะเล มิหันเหซึ่งหน้าที่ ทุ่มเททุกสิ่งมี ทำตรงนี้ให้งดงาม ช่วงก่อนพอมีเวลาเล็กน้อยเลยถือโอกาสไปเยื่อนถิ่นมรดกโลกอีกแห่งที่ไม่ไกลบ้านเรานัก คืออ่าวฮาลอง-มรดกโลกทางธรรมชาติในประเทศเวียดนาม อ่าวนี้มีภูเขาสูงกลางทะเลสลับซับซ้อนเหมือนเป็นเขาวงกต ตัวเมืองอยู่ห่างจากเมืองฮานอยโดยนั่งรถบัสช้าๆ ไปก็ประมาณสี่ชั่วโมง ธรรมชาติตระการตา สื่อคุณค่าสร้างนิยาม ให้คนรู้เกรงขาม เมื่ออยู่ท่ามกลางความจริง ที่อ่าวฮาลองมีถ้ำขนาดใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งที่เรียกว่าถ้ำสวรรค์ ที่น่าประทับใจคือทางการเวียดนามจัดระเบียบไว้อย่างดีจนน่าประทับใจ มีการเล่นไฟส่องหลายๆ สีส่องข้างในถ้ำอย่างสวยงาม และ มีการทำทางเดินให้เดินชมถ้ำได้อย่างสะดวกสบาย ข้างในถ้ำขนาดใหญ่นี้ก็มีแหล่งน้ำจืดทั้งน้ำตกและน้ำพุ ในมุมอันซับซ้อน ลักลั่นย้อนกันทุกสิ่ง กลับพบแหล่งพักพิง คือความนิ่งเป็นภาพธรรม บริเวณรอบๆ ถ้ำก็เป้นป่าเขียวๆ ที่ทำทางเดินอย่างดีให้เดินเรื่อยๆ เพื่อชมธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ ตอนไปเที่ยวก็สะท้อนใจเล็กน้อยว่าประเทศไทยน่าจะดูแลสถานที่ท่องเที่ยวของเราที่ได้มรดกโลกให้ดีแบบ

Kyoto #2

วิถีแบบโบราณ ตรึงจิตจารสลักใจ เรียนรู้จากข้างใน เกินคำใดจะบรรยาย การไปเกียวโตครั้งนี้ของฉันมีเพื่อนแนะนำว่าให้ลองไปใช้ชีวิตใน Ryokan ดู จะได้สัมผัสวิถีชีวิตโบราณของญี่ปุ่นจริงๆ ฉันเลยทุ่มทุนสร้างเพื่อให้ได้ประสบการณ์ ฉันเลยเลือกพักที่ Yuzuya Ryokan ที่ได้รับรีวิวห้าดาวกลางย่านเก่าแก่ของเกียวโต และก็ต้องยอมรับว่าฉันได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจริงๆ ความเรียบของวันวาน พอพบพานเปี่ยมความหมาย ความงามตามระบาย ให้ผ่อนคลายในอารมณ์ การมาพักแบบนี้พนักงานต้อนรับจะแต่งชุดกิโมโน พอเดินผ่าน Lobby ก็ต้องฝากรองเท้าเก็บเข้าตู้และเปลี่ยนรองเท้า (เดินเข้าไปจะมีหลายโซนให้เปลี่ยนรองเท้าหลายรูปแบบ เช่นถ้าจะเดินธรรมดาก็ใส่รองเท้านุ่มๆ เข้าห้องน้ำก็อีกรองเท้านึง ไปออนเซ็นก็ใส่คล้ายๆ เป็นเกี๊ยะ เดินยากๆ หน่อย) ห้องพักแบบญี่ปุ่นโบราณ ปูที่นอนบนพื้นอุ่นๆ บนเสื่อทาทามิ แล้วอาหารเค้าก็ตั้งใจทำใช้วัสดุคุณภาพดีมากๆ ดังภาพด้านบน ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่นฉันก็อยากหาโอกาสไปพักที่พักแนว Ryokan อีก ราตรีมิหลับไหล แสงสีไฟแต้มผสม เติมเต็มห้วงอารมณ์ ให้นิยมราตรีกาล ที่ข้างๆ Ryokan ที่ฉันพักคือ Yasaka Shrin

Kyoto #1

ประวัติศาสตร์... จารึกร้อยเรื่องราว ระบายจนพร่างพราว สกาวในใจชน ก่อนเดินทางกลับบ้าน ฉันตัดสินใจจับรถไฟชินคันเซ็นความเร็วสูงเดินทางจากเมืองที่ไปทำงานไปยังเกียวโต เมืองที่ฉันอยากไปมานาน ระยะทางประมาณหกร้อยกิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางเพียงสามชั่วโมง ประเพณี... ขัดเกลาเข้าฝึกฝน สร้างคนให้เป็นคน นำดลจนใจงาม ที่พักของฉันเป็นเรียงกังอยู่ย่าน Ginza ข้างๆ Yazaka Shrine เดี๋ยวค่อยเล่าเรื่องที่พักใน blog หน้า (เพราะตอนไปถึงก็เอากระเป๋าไปฝากแล้วออกเที่ยวเลย) จุดหมายแรกที่ไปก็คือปราสาท Nijo ความทรงจำ... ตรงดูไม่มองข้าม เพียงภาพเงาติดตาม นิยามแล้วผ่านไป Nijo Castle เป็นอีกที่หนึ่งที่ลูกค้าญี่ปุ่นแนะนำว่าห้ามพลาดถ้าฉันชอบอะไรที่เป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นจริงๆ ให้ไปให้ได้ และฉันก็ไม่ผิดหวัง ที่นี่ในปราสาทมีทางเดินเป็นพื้นเสียงนกไนติงเกลที่ฉันอยากได้ยินมานาน (ซึ่งเสียงเพราะเหมือนนกร้องจริงๆ) และได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี เสียงดนตรี... บทกวีอยู่ใกล้ใกล้ ยิ้มแย้มในฤทัย อิ่มใจกับอารมณ์ เสร็จจาก Nijo ฉันก็เดินทางต่อ ลองนั่งรถเมล์ในโตเกียวไปที่ปราสาท Kinkakuji ที่ๆ เป็นสัญลักษณ

Kawagoe

ซากุระ ผลิบาน งามงด ระหว่างวันหยุดในช่วงวันทำงาน ฉันค้นข้อมูลในอินเตอร์เนต เพื่อหาเมืองที่อยู่ไม่ไกลที่ฉันยังไม่เคยไป (พอดีมาทำงานคราวนี้มาพักย่านไม่ไกลนักจากที่ฉันเคยมาเมื่อสิบปีก่อน ทำให้เคยเที่ยวเมืองต่างๆ ในบริเวณนี้หลายที่แล้ว) และฉันก็ค้นเจอเมืองนี้ Kawagoe หรือที่ๆ มีคนเรียกว่าลิตเติ้ลเอโดะ... เกิดปรากฏ กลางห้วง แห่งฝัน ฉันดีใจที่ได้มาที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ (แม้ว่าฉันจะเป็นคนที่ตอนอยู่แถวยุโรปจะชอบฤดูใบไม้ร่วงมากกว่า แหะ แหะ < อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไปถึงอังกฤษครั้งแรกในฤดูใบไม้ร่วงตอนที่ต้นไม้เป็นสีแดงสีเหลืองตระการตา) แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่นฉันตกหลุมรักความงามของซากุระอย่างถอนตัวไม่ขึ้นทีเดียว (มาตั้งแต่สิบปีก่อน) และก็ดีใจที่ได้กลับมาเห็นอีกครั้งแบบที่ถ่ายรูปมานี้ พร้อมกลิ่นอาย ความหลัง คืนวัน เมืองคาวาโกเอะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่กว้างนัก ฉันเลยตัดสินใจเดินเล่นรอบเมืองไปเรื่อยๆ จะได้ดูโน่นดูนี่ละเอียดหน่อย (เพราะมีโอกาสเที่ยวคนเดียว) ก็เลยเดินเพลินตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น เจอร้านขนมน่ารักก็แวะนั่งกิน เจอดอกไม้สวยๆ ก็แวะถ่ายรูปแบบมีเวลาซูมๆ ให้ภาพสวย เจอพิพิธภัณฑ์ วัง