Skip to main content

Posts

Showing posts from November, 2019

Bhutan #4

ถิ่นพยัคฆ์ ริมผา อิงฟ้า วันที่สี่ของการเดินทาง พวกเราตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปขึ้นเขาทักซัง (Tiger's nest) จุดหมายปลายทางที่ฉันอยากไปในทริปนี้ (ดั่งภาพแรกด้านบนสุด) ตอนขาขึ้นพวกเราขี่ม้าขึ้นเขา น้องม้าดูท่าทางจะชอบเดินริมหน้าผาทีเดียว แล้วถึงจุดหนึ่งก็เดินทางกันเองต่อเพื่อเดินบันไดยาวมากๆ ขึ้นๆ ลงๆ ข้ามจากเขาลูกหนึ่งไปเขาอีกลูกหนึ่งที่ทักซังตั้งอยู่ เหนือเมฆา สูงสุดหล้า แดนฝัน พวกเราแวะพักทานอาหารเช้าที่ร้านระหว่างทาง (ร้านใจดีมากๆ) เสร็จแล้วก็เดินต่อ ชมวิวสวยๆ ดูน้ำตกสายเล็กๆ ระหว่างภูเขา (ภาพข้างล่าง) แล้วก็ค่อยๆ เดินขึนเขาไปทักซัง เสียดายที่ทางวัดมีกฏห้ามถ่ายรูปด้านใน (ต้องฝากกล้องไว้ที่ป้อมข้างหน้า) เลยไม่มีภาพมาฝากเพื่อนๆ แดนบุญ หนุนส่ง กำนัล ระหว่างทางเดินลงก็เจอน้องม้าเดินตัวปลิวลงเขาเป็นเพื่อน (ตอนขาลงก็ยังชอบเดินริมๆ หน้าผาเหมือนเคย) ถ้าเดินมาได้ครึ่งทางก็จะถึงจุดพักม้าตามภาพข้างล่างและเห็นวิวทักซังที่เพิ่งเดินจากมาอยู่ข้างหลังเป็นหมู่ตึกสีขาวๆ ริมหน้าผา ความเหนื่อยตอนลงก็พอๆ กับน้องๆ ภูกระดึงทีเดียว สานฝัน วันวาน จา

Bhutan #3

สายน้ำ สองนที มาบรรจบ วันที่สามของการเดินทางมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม Punakha Dzong ที่ประทับของพระสังฆราชในฤดูหนาว ที่ตั้งระหว่างแม่น้ำโพ (Po Chu) และแม่น้ำโม (Mo Chu) มาบรรจบกันพอดี ภาพด้านบนสุดเป็นมุมที่เห็นแม่น้ำสองสาย (สองสี) ไหลมาเจอกัน ส่วนภาพด้านบนเป็นภาพถ่ายพูนาคาซองด้านข้างระหว่างเดินข้ามเข้าไปจากหน้าต่างของสะพานข้ามแม่น้ำ น่าเคารพ ความงดงาม ตามที่เห็น ที่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานมงคลสมรสของพระราชาจิกมี่ การได้เห็นคนภูฏานแต่งชุดประจำชาติเข้ามาสักการะบูชาด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเคารพสถานที่ ทำให้รู้สึกประทับใจกับภาพที่เห็นพอสมควรเลยทีเดียว (อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้บ้าง) สิ่งเรียบง่าย สร้างความหมาย เกินที่เป็น จากเมืองพูนาคาพวกเราก็เดินทางกลับไปยังเมืองพาโร (เส้นทางจะผ่านเมืองทิมพูก่อน) ระหว่างทางได้มีโอกาสแวะวัดของแม่ชี (แต่เกรงใจไม่กล้าถ่ายภาพคุณแม่ชี) ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญวันวิสาขบูชาพอดีฟังการสวดมนต์ที่มีเอกลักษณ์ของภูฏานและได้ทานขนมอร่อยๆ ภาพรอบๆ ด้านบนด้านล่างของข้อความนี้เป็นภาพถ่ายวิวบริเวณของวัดแม่ชีแห่งนี้ เพียงรู้เน

Bhutan #2

พฤกษา พันธุ์ไม้ สะพรั่งพร้อม วันที่สองที่ภูฏานเป็นวันอาทิตย์ พวกเราเลยมีโอกาสได้ไปตลาดกัน ภาพสะพานด้านบนเป็นสะพานทางเดินข้ามแม่น้ำระหว่างตลาดอาหารสด กับตลาดงานฝีมือท้องถิ่น (สะพานข้ามแม่น้ำแบบนี้พบเห็นได้ทั่วไปในตัวเมือง ส่วนผ้าสีๆ ที่อยู่ด้านข้างๆ คือธงมนต์) วิถี ผู้คนน้อม- นำจิตนิ่ง เดินตลาดเสร็จพวกเราก็เริ่มเที่ยววัดเก่าแก่ของเมืองทิมพู วัดที่ภูฏานห้ามถ่ายรูปด้านใน ค่อนข้างสงบเป็นระเบียบทีเดียว (ห้ามจุดธูปด้านในด้วย) เลยได้แต่ถ่ายภาพรอบๆ เช่นงานปฏิมากรรม ภาพเขียนสี และ ผ้าหลายๆ สีที่ร้อยเป็นกลมๆ ลงจากเพดาน ปลดปล่อย เรื่องราว หลายสิ่ง ที่ภูฏานศิลปะจะเป็นแนวเล่นสีสันสดใส แดงสด น้ำเงินสด เหลืองสด เขียวสด สลับกันไป ศิลปะจะผสมๆ ระหว่างจีน กับ อินเดีย เพราะมีประเทศเพื่อนบ้านสองประเทศคือจีน(ทิเบต)กับอินเดีย รู้จริง เพียงสิ่ง ลวงตน ที่นี่เคยมีสงครามใหญ่ครั้งหนึ่งกับแคว้นอัสสัม(อินเดีย) ภาพด้านบนเป็นสถูปร้อยแปดอันที่สร้างรำลึกวีรกรรมของบรรพบุรุษ ณ.จุดยุทธศาสตร์ Dorchula Pass ที่ทำสงครามกับอัสสัมแล้วไม่เสียเอกราช (ชัยภูมิตร

Bhutan #1

ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ลมหายใจฟาดผ่านท้องนภา สร้างเมฆาลงมาปกพื้นดิน ให้จิตจินต์เกินกว่าพร่ำรำพัน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ฉันเลยชวนคุณแม่ไปหาที่พักผ่อนร่างกายในดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า (ประเทศภูฏาน) ที่ๆ อากาศน่าจะดีกับสุขภาพเพราะอยู่ในปุยเมฆที่ศาสตร์ทางจีนเชื่อว่าเป็นลมหายใจมังกร เมื่อนกยักษ์บินโฉบผ่านเทือกเขา ก็เห็นเงาสะท้อนภาพสุขสันต์ เทือกเขาเขียวหมอกสีขาวนับอนันต์ เป็นของขวัญธรรมชาติในแดนดิน สนามบินแห่งชาติพาโร เป็นสนามบินที่ได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุด ตอนแรกฉันแปลกใจที่คุณกัปตันจอดเครื่องบินรออยู่ที่ประเทศบังคลาเทศอยู่นานหลายชั่วโมง แต่แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อเครื่องบินกำลังจะบินลงสนามบินและเห็นปีกเครื่องบินเฉียดเทือกเขาหิมะลัยฝ่ามวลเมฆลงจอดในพื้นที่เล็กๆ ที่เค้าบอกว่าเป็นที่กว้างที่สุดในภูฏาน (เลยมาทำสนามบินนานาชาติ) ดังภาพประกอบด้านบนๆ สายน้ำสีมรกตระรินไหล ผ่านพงไพรก่อเริ่มเกิดทรัพย์สิน ให้ผู้คนบนเขาเข้าทำกิน ตั้งฐานถิ่นนานมาจนน่าชม ประเทศภูฏานมีภูเขาสีเขียวๆ ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมดเยอะมาก ภาพด้านบนๆ ที่ไม่ค่อยมีต้นไม้คือบริ