Skip to main content

Verona


เรื่องราวของความรัก
จารสลักไม่รู้สิ้น
ยามที่เอกกวินทร์
ปรุงประทินแต่งเรื่องราว

คราวนี้ถึงเวลาพาเที่่ยวเมืองเวโรน่ากันบ้าง เมืองเวโรน่ามีชื่อเสียงเพราะเป็นเมืองต้นตำรับที่เป็นแรงบันดาลใจให้เช็คสเปียร์กวีเอกชาวอังกฤษ มาเขียนบทกวีตอนเดินทางมาพักอยู่ที่นี่จนกลายเป็นบทละครอมตะของโลกในเรื่องความรัก คือเรื่อง "โรมิโอ แอนด์ จูเลียส"


จึงเศร้าเคล้ากวี
สร้างชีวีจนพร่างพราว
งามงดดวงดาดาว
แม้แตกร้าวจับต้องใจ


เวโรน่าเป็นเมืองมรดกโลกอีกเมืองหนึ่ง มีย่านเมืองเก่า ถนนคนเดินที่ประกอบไปด้วยตึกโบราณสูงๆ สองข้างทาง (แต่ที่นี่ดูจะบูรณะทาสีสันกันระดับหนึ่ง)  และก็งานศิลปะสวยๆ ตามทางเดิน วันที่ฉันมาเที่ยวเมืองนี้ แสงแดดดีมากทีเดียวเลยถ่ายรูปเล่นกับแสงได้สวยพอสมควร

เงาลวงบ่วงความรัก
ยามจิตภักดิ์จักสั่นไหว
จบสิ้นจินต์แกว่งไกว
ให้ใครใครหวั่นไหวตาม

ด้านบนเป็นภาพกำแพงทางเดินเข้าไปในที่ๆ เค้าว่ากันว่าเป็นจุดที่สร้างจินตนาการว่าเป็นระเบียงหน้าต่างของจูเลียส (ที่โรมิโอมาปีน) ดังนั้นผู้คนมากมายจึงมาสลักชื่อเขียนความรักกันไว้ที่นี่ ด้านในมีกรงเหล็กคล้องกุญแจหลายๆ ดอกคล้ายกับที่เกาหลีตามความเชื่อว่าเพื่อให้สมหวังในความรัก

ปลดปล่อยกลับผ่อนคลาย
รู้สบายไร้รูปนาม
เพียงทราบสิ่งนิยาม
ก็ก้าวข้ามพ้นวังวน

เมืองเวโรน่ามีสิ่งที่น่ารักอีกอย่างคือการให้บริการสาธารณะ ภาพด้านบนเป็นภาพจุดจอดจักรยานให้เช่าของเมืองที่ทำเป็นระเบียบเรียบร้อย และดูดีมีศิลปะ ส่วนภาพด้านล่างเป็นทางเข้าห้องสมุดที่มีให้บริการประชาชน นำตึกเก่ามาดัดแปลงด้านในให้ทันสมัยอย่างดี (แต่ไม่กล้าถ่ายภาพด้านในมา)

พรมพร่างนิรันดร์พราว
หยุดเรื่องราวที่ทุกข์ทน
ตื่นรู้ดูทราบตน
ก็จะพ้นวังวนลวง

ภาพด้านบนเป็นภาพที่ว่าการของเมืองประดับด้วยธงอิตาลี ส่วนภาพด้านล่างคือกำแพงยักษ์ (สูงมากๆ ภาพนี้เลยถ่ายเทียบกับรถบัสคันใหญ่ๆ ให้เห็นว่ารถบัสเหลือคันนิดเดียวไปเลย) กำแพงนี้ล้อมรอบตัวเมืองเก่าของเวโรน่าและส่วนใหญ่เท่าที่เห็นก็ยังคงสภาพดีอยู่ บ่งบอกให้ทราบว่าอิตาลี (ที่เคยเป็นโรมันในยุคอดีต) นั้นเคยรุ่งเรืองยิ่งใหญ่เพียงใด




Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2556

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห