Skip to main content

Posts

Showing posts from March, 2019

ฤดูใบไม้ร่วง...

บินข้ามขอบฟ้า เพื่อได้มาเห็น ถึงสิ่งที่เป็น เช่นภาพความจริง ใบไม้ใบบาง ทิ้งร้างก้านกิ่ง รวมตัวพักพิง งามยิ่งสิ่งใด ดั่งเช่นของขวัญ ที่สรรส่งไว้ ก่อนลมหนาวไล่ ตามใกล้เข้ามา เป็นภาพตราตรึง ให้ซึ้งใจว่า ภาพการจากลา มีค่าควรจำ

ธรรมชาติ...

ธรณี... อบอุ่นอยู่ใต้พื้น กระซิบให้ใจตื่น เพื่อฝืนหยัดยืนไป ท้องฟ้า... ก้มหน้าน้ำตาไหล สายฝนส่งคนไกล ด้วยไปไม่เห็นเงา สายลม... ส่งผ่านความเงียบเหงา หลายล้านพวกผองเรา หนักเบาต้องไตร่ตรอง ทะเล... เพียงขอบขั้นมวลผอง สิทธิที่เคยครอง ยลมองให้คะนึง หิมะ... หนาวเหน็บเจ็บจนถึง หยาดเลือดล้านหยดซึ่ง ติดตรึงถึงก่อนกาล ใบไม้... ใบบางเจ้าอ่อนหวาน ร่วงหล่นคนเดินผ่าน เนิ่นนานเคยเติบโต ดอกไม้... วางไว้ให้ดูโก้ ถูกริดปลิดออกโชว์ ล้อมโลห์คุณธรรม ดอกหญ้า... ไร้ค่าถูกเหยียบย่ำ ด้วยเติบโตต้อยต่ำ เจ็บช้ำก็ทำใจ ธรณี... ยังอยู่ไม่ไปไหน ฉ่ำฝนปนซากใบ รอให้ดอกหญ้าบาน  

เหยื่อ...

นี่หรือคือเมืองไทย มีหรือไม่หลักเหตุผล สิ่งใดบันดาลดล ให้ผู้คนเดียดฉันท์กัน ?  

นั่งพักกันเถิด...

ต่างชีวิต... ต่างมีเส้นทางของตนเอง แตกต่างกันไป... นั่งพักกันเถิด... ริมน้ำไหลเย็น ชมวิว ทิวทัศน์ หงขาวเริงร่าว่ายไปทางหนึ่ง เป็ดอ้วนสีสวยว่ายไปอีกทาง ต่างตัวต่างมีจุดหมาย เหตุใด... ผู้คนมากมาย พยายามมุ่งแสวงหา สิ่งต่างๆ ในทางเดียวกัน? มองดูเถิด... ธรรมชาติ สอนสิ่งใดให้เราบ้าง? -- 2549 ภาพ:  ริมน้ำรอบเมือง Winchester, UK  

ระรอกคลื่น...

จิตรกรรมใดจักสู้...........ธรรมชาติ ริ้วคลื่นบรรจงวาด..........สลักไว้ ระรอกดื่นระดาดาษ.......ปานภาพ ฝันเอย จนแทบเผลอลืมไซร้......ว่าไร้ความนิรันดร์ ฯ โอ้เพื่อนเอย... มาเถิดมาสังสรร ร้องร่ำพร่ำรำพัน ก่อนวันจะพ้นไป แสงแดดไล้แผ่นน้ำ.........งามใด สะท้อนส่องสว่างไสว......หยอกล้อ ระยิบระยับประทับใจ.......ดื่มด่ำ จนจิดคิดตัดพ้อ............. เพราะไร้ความนิรันดร์ ฯ  แล้วลืมตา... มองฟ้าที่เปลี่ยนผัน ยิ้มรับราตรีจันทร์ ขบขันกับภาพลวง -- 2549

ยามดาวพราวแสง

@}---,---'---- @}---,---'---- ราตรีที่เงียบเหงา ยามโลกเศร้าไร้ซึ่งแสง เมฆาเจ้าจำแลง เข้าแทรกแทรงแสงแห่งดาว ลมเอยรำเพยพัด โบกสะบัดบนห้วงหาว ปลดปล่อยมวลดาดาว ให้แสงพราวส่องต้องดิน นับแสนนับล้านดวง ให้โชติช่วงไม่มีสิ้น จนโลกงามเกินจินต์ ถ้วนทั่วถิ่นแดนดินไทย -- 2549 @}---,---'---- @}---,---'---- ราตรีเคยเงียบเหงา โลกเคยเศร้าไร้สิ้นแสง เมฆาเคยจำแลง เข้าแทรกแทรงบังแสงดาว พอลม...รำเพยพัด โบกสะบัดบนห้วงหาว ปลดปล่อยมวลดาดาว ให้แสงพราวส่องต้องดิน นับแสนนับล้านดวง จนโชติช่วงไม่มีสิ้น ส่องโลกงามเกินจินต์ ถ้วนทั่วถิ่นแดนดินไทย นี่เป็นปรากฎการณ์ หนึ่งตำนานของยุคใหม่ เมฆหมอกความมืดใด ไม่อาจใช้ปิดใจคน... -- 2562 @}---,---'---- @}---,---'----

ต้นกล้า...

~.~.~.~.~.~.~.~ ต้นเอยต้นกล้า ก้มหน้าให้ถูกย่ำ อ่อนน้อมถ่อมตนนำ มีธรรมข่มใจตน ฝนเอยฝนจ๋า พรมมาเถิดสักหน รดรื่นชื่นใจชน รู้ทนจนพบพาน เติบใหญ่โตไป พาไทยให้พ้นผ่าน กฏหมู่วิชามาร ก่อการก็หายไป สิทธิเสรี บานคลี่แผ่กิ่งใหญ่ เติบโตดุจร่มไทร ให้ไทยได้เท่าเทียม ~.~.~.~.~.~.~.~ แต่งปี 2549

ยามหนาว...

ปลายฤดูใบไม้ร่วง... ต้นไม้เริ่มอวดกิ่งก้านสาขา แสดงถึงตัวตนข้างใน ซึ่งเปี่ยมร่องรอยของกาลเวลา มิใช่การสร้างภาพสวยงามเช่นตอนดอกไม้บาน หรือตอนที่ออกผลอ้วนๆ ในฤดูร้อน แล้วฤดูหนาวก็เข้ามาเยือน ใบไม้กรอบแห้งอ่อนแอ... พร้อมจะปลิดปลิวยามลมหนาวพัดผ่าน ท้องฟ้ามืดมิดยาวนานกว่าปกติ... เวลากลางวันอันขมุกขมัวไอหมอก บดบังแสงแดดอุ่นจากฟากฟ้า หิมะตก... ถมความเหงาเศร้าด้วยสีขาว พาประกายดาวลงมาประดับไว้ เป็นเครื่องปลอบใจให้ได้ยิ้ม คอยเป็นเพื่อนกับกิ่งไม้ กระซิบว่า... เธอไม่ได้อยู่คนเดียว จวบจนลมอุ่นๆ แห่งฤดูใบไม้ผลิมาเยือน หิมะก็ละลายหายไป เหลือไว้แต่ต้นไม้ที่เข้มแข็ง เริ่มผลิดอกออกใบอีกครั้ง เพื่อประกาศศักดาโอ้อวดว่า ฉันได้ผ่านฤดูหนาวมาแล้วอย่างกล้าหาญ