Skip to main content

กาญจนบุรี - Day 1



A journey once again...


    การเดินทาง...
    แม้แตกต่างกลับเรียบง่าย
    มองผู้คนที่เรียงราย
    แสนสบายพักสายตา


    คงเป็นครั้งแรกกระมัง(เท่าที่จำความได้) ที่ฉันได้ลองนั่งรถไฟเป็นระยะเวลานานๆ (7:45 - 12:15) การผจญภัยด้วยวิถีทางที่ไม่เคยลองเป็นเรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นในชีวิตของฉันเสมอ เรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากน้องๆ ในแผนกชักชวนกันไปเที่ยวแบบลุยๆ ตัดสินใจเลือกที่วันพฤหัส จ่ายตังค์ค่าจองที่พักวันศุกร์ แล้ววันเสาร์เราก็มารวมตัวกัน


    หลากชีวิต...
    ต่างมีสิทธิคุณค่า
    ร้อยเรื่องราวเจ้าผ่านมา
    ให้ศึกษาพาเพลินใจ


    พวกเราเริ่มออกจากบ้านแถบย่านรังสิตกันตั้งแต่เช้ามืด และ ไปถึงสถานีธนบุรีซื้อตั๋วอะไรเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกมากโข จึงชักชวนกันเดินไปโรงพยาบาลศิริราชเพื่อไปลงนามถวายพระพร พอเดินกลับมาก็ยังพอมีเวลาแวะซื้อของกินน้ำดื่มแล้วสมทบกับเพื่อนอีกคณะเพื่อร่วมเดินทางต่อไป


    น่ายินดี...
    เมื่อยังมีเรื่องฝันใฝ่
    ทั่วทุกถิ่นแห่งหนใด
    ดั้นด้นไปจักพบพาน


    ขบวนรถไฟค่อนข้างว่างเดินไปเดินมาลุกนั่งกันตามสบายจนกระทั่งถึงกาญจนบุรี จึงเริ่มมีเพื่อนๆ ชาวต่างชาติขึ้นรถมามากขึ้น จนกระทั่งถึงสะพานข้ามแม้น้ำแควซึ่งฝรั่งหลายๆ คนขึ้นมายืนกันทีเดียว แต่ก็ดูเฮฮาสนุกสนานกันดี จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเห็นบรรยากาศสวยงามแบบนี้ในรถไฟไทย


    ความสุขเอย...
    มาเอื้อนเอ่ยเปรยคำหวาน
    ให้สุขซาบอาบดวงมาน
    แล้วก็ผ่านให้ทรงจำ


    จุดหมายปลายทางของเราคือ resort ที่ชื่อว่าสวนไทรโยค ที่สถานีถ้ำกระแซ พอมาถึงความประทับใจแรกคือ รถแสนเท่ห์ที่ขับมารับกระเป๋าเราสมบุกสมบันลงไป สถานที่นี้เป็นค่ายเชลยเก่าของพวกทหารต่างชาติที่ถูกคุมขังเพื่อเป็นแรงงานในสมัยสงครามโลก ในยุคปัจจุบันกลายมาเป็นที่พักนักท่องเที่ยวที่สวยงามพอดู


    โลกความจริง...
    แทบทุกสิ่งยากหวนซ้ำ
    เป็นธรรมสอนพอน้อมนำ
    ถึงถ้อยคำบุราณกาล


    แต่ก็มีเรื่องน่าเสียดายพอควรสำหรับ trip นี้คือ สถานที่พักเกิดน้ำท่วมทำให้การจัดกิจกรรมหลายๆ อย่างไม่เป็นไปตามแผน สถานที่ไม่ค่อยสะอาดนักในแง่ที่ว่ามีตัวอะไรเข้ามานอนในเตียงพอควร ทางเจ้าของกิจการที่นี่ก็ค่อนข้างเคี่ยวเรื่องเงิน และ อาหารทำให้มีบ้างที่ค่อนข้างอึดอัดบ้างในช่วงต้น


    อันความทุกข์...
    ยามโรมรุกเร้าเผาผลาญ
    ให้โศกเศร้าเฝ้าเนิ่นนาน
    แล้วก็ผ่านผันมันไป


    แต่โชคดีที่คนที่ดูแลสถานที่ค่อนข้างนิสัยดีทำให้อะไรๆ ดีขึ้น พอไปถึงพวกเราก็พักทานอาหารแล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปล่องแพ และ ว่ายน้ำ... แพที่นี่ลักษณะจะเป็นแพลูกบวบ คนที่นี่บอกว่าที่ resort นี้เป็นที่แรกที่คิดแพแบบนี้ขึ้นมา การล่องแพแบบนี้คือให้คนนั่งกันสองฝั่งแล้วก็มีเรือลากโยงเชือกผูกต่อกัน


    พอผ่านมา...
    จึงทราบค่าว่าสิ่งใกล้
    มีคุณค่าเกินอื่นไกล
    เพียงแค่ใจเข้าถึงมัน


    เรือลากพวกเราทวนน้ำไป 2 กิโล และก็มีคุณไกด์บรรยายบรรยากาศรอบตัวเป็นระยะๆ พอครบ แพ ก็แตก (คือเค้าปล่อยให้เราว่ายน้ำกลับ ตามน้ำ) งานนี้ยอมรับจริงๆ ว่าเหนื่อยพอควร น้ำไหลแรงแต่มักซัดเข้าหาฝั่งเลยต้องพยายามประคองตัวให้อยู่ใกล้กลางน้ำหรือแพ เพราะรอบข้างบางช่วงก็เป็นป่าไผ่


    ความเพลิดเพลิน...
    ใช่พาเดินถึงฝั่งฝัน
    อาจพลาดหลงในฉับพลัน
    หากใจหวั่นไม่มั่นคง


    พอกลับถึงที่พักพวกเราก็วนเวียนเล่นน้ำกันต่อ จนกระทั่งมีน้องในกลุ่มถูกอะไรซักอย่างที่พื้นข่วนเลือดไหลพวกเราจึงเลิกเล่นแล้วพาน้องไปทำแผลกัน ระหว่างเข้าคิวอาบน้ำ หลายๆ คนเอาปิงปอง และ แบดมินตั้นมาเล่นกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะตัดสินใจมาเล่นกีฬาในร่มรอเวลาอาหารเย็น


    โอ้อิ่มเอย...
    ยากจะเอ่ยเคยลุ่มหลง
    รสหอมหวานยากปล่อยปลง
    ดั่งรั้วกรงสร้างกักกัน


    เมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้วก็มีกิจกรรมรอบกองไฟ (ละลายพฤติกรรม) แรกๆ ก็ไม่ค่อยอยากเข้าร่วมเท่าไหร่ เพราะไม่อยากทำอะไรประหลาดๆ แต่พอเล่นๆ ไปก็โอเค (หรือเพราะมีของรางวัลแจกน้อ) พอกิจกรรมหมดก็มีเปิดให้เต้นรำ แต่พวกคณะเราก็รีบไปทานก๋วยเตี๋ยวรอบดึก แล้วก็ขอตัวกลับที่พัก


    คำคืนนี้...
    ลิ้มราตรีลองนับฝัน
    ดาราดาวพราวประชัน
    ชื่นชีวันปันอารมณ์

    จึงหยุดพัก...
    ยามตระหนักรู้ใจข่ม
    ยลฟ้างามตามชื่นชม
    แต่ไม่จมกับเงาจันทร์



Create Date : 04 สิงหาคม 2549

Comments

Popular posts from this blog

Dubai

  เมืองใน เขตร้อน ทะเลทราย สมัยก่อนเคยมา Dubai เร็วๆ แวะตอน Transit แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวละเอียด คราวนี้เลยลองมา Dubai แบบยาวๆ หน่อย เลยทำให้มีเวลาดูอะไรๆ มากขึ้น ภาพแรกด้านบนคือย่านตลาดเก่า Heritage Village ที่ขายของท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม ภาพที่สองด้านบนคือภาพสถานีรถไฟฟ้าทันสมัยที่สามารถเดินทางได้สบายด้วยบัตร Nol Card (ซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต) ส่วนภาพด้านล่างคือป้ายรถเมล์ทันสมัยติดแอร์เย็นๆ เดิดูปลอดภัยมากๆ สร้างจน กลับกลาย เป็นสวรรค์ ภาพข้างบนคือภาพข้างในรถเมล์ที่นอกจากจะนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำๆแล้ว ยังบอกละเอียดว่าตอนนี้อยู่ป้ายรถเมล์ไหน กำลังจะไปไหนและคาดว่าจะถึงที่ไหนในอีกกี่นาทีเป๊ะมากๆ (ยังไม่พอคือเชื่อมข้อมูลกับ App ได้เป๊ะมากๆ ดูรถเมล์รออะไรๆ คือเดินทางสบายระดับหนึ่ง) – ภาพข้างล่างคือไปเยี่ยมชม Museum of the future เมื่อคน ตั้งใจ ร่วมมือกัน ภาพข้างบนคือหุ่นยนต์ผลิตน้ำหอมใน Museum of the future / ส่วนข้างล่างคือลองแวะไปใช้บริการสปา ของ ร.ร. Armani ที่อยู่ข้างในตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสปาที่ หรูหราอลังการ สบายมากๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเพราะพอเข้าไปก็เอามือถือไปเก็บในล็...

ภูเก็ต - Day 1

ระยะทาง... เป็นห้วงห่างสร้างความหมาย ผ่อนอารมณ์พอระบาย จนยิ้มง่ายกับชีวิต วันหยุดอาทิตย์ก่อน ไปภูเก็ตมา นับเป็นการเดินทางไปเยี่ยมดินแดนไข่มุกอันดามันอันลือชื่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟังเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมาชื่นชมให้ฟังถึงความงดงามของที่นี่มานาน การเดินทางคราวนี้จุดหมายหลักคือมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย (ทั้งคู่) ทำให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันสมัยวิศวะเกษตรกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เสียดายที่หลายๆ คนมาไม่ได้จึงมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมขบวนการกันอยู่เพียง 4 คน... โชคชะตา... แม้ฝืนกล้าท้าลิขิต ลวงเวลามาเป็นมิตร ก็เพียงจิตคิดห่างไกล วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ลงขันเช่ารถกัน จุดหมายแรกคืออุทยานแห่งชาติสิรินาถแป๊บนึงแล้วก็ขับเข้าเมือง หลงทางกันพอควรทำให้พลาดสถานที่ที่ตั้งใจเที่ยวไป แล้วก็หิวตาลายหาข้าวเช้าติ่มซำกินกันแล้วก็เดินเล่นเล็กน้อยในตัวเมือง เสร็จแล้วก็ตรงไปยังที่พัก งานนี้ต้องขอบคุณติ๊ก เพื่อนผู้น่ารักที่เคยไปเรียนปริญญาโทที่เคมบริดจ์รุ่นเดียวกันกัน ที่เอื้อเฟื้อจัดหาสถานที่ให้ ที่พักเป็นโรงแรมสีขาวสะอาดสะอ้านชื่อ rawai beach resort ที่หาดราไวย์... สายลมร้อน... มิอาทรตอนอ่อ...

Rome

ภาพเก่าเงาสะท้อน ให้มองย้อนถึงวันวาน ความหลังอันหอมหวาน จึงจดจารลงทรงจำ กรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าจะได้มาซักครา และแล้วในที่สุดก็ได้มา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอะไรเยอะมาก ฉันถ่ายรูปมาหลายร้อย และคัดรูปมาลงเพียงสิบกว่าภาพ มีหลายภาพที่คัดมาแล้วตัดออกด้วยความเสียดาย -- เพราะก็ไม่อยากทำ blog ด้วยภาพเยอะนัก :) ภาพงามความตรึงใจ ยังสวยใสให้ดื่มด่ำ จนต้องมาเพ้อพร่ำ ใส่ถ้อยคำ... จารกวี ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวริมแม่น้ำไทเบอร์ตอนพระอาทิตย์ตก ภาพถัดลงมาเป็นอาหารเย็นของที่นี่ ภาพถัดลงมาเป็นวิวสระน้ำของโรงแรมที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง และภาพด้านบนคือ Colosseum หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากมากรุงโรม @^_^@ สูงส่งเกินบรรยาย สื่อความหมายสร้างศักดิ์ศรี สร้างสรรอย่างพอดี ให้คนมีความทรงจำ หินที่สร้างขึ้นมาเป็นโครงดูแล้วเริ่มผุกร่อนเป็นหลุมๆ ลงไป (ดั่งภาพด้านบน) มีการบูรณะก่อสร้างบ้าง แต่ก็ต้องทึ่งว่าสมัยก่อนชาวโรมันคงยิ่งใหญ่มาก ขนาดสร้างสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายที่อาณาจักรที่ยิ่งให...