Skip to main content

มาเลเซีย...



เยือนถิ่นดินแดนใด
ไม่สุขใจเท่าใกล้บ้าน
เก็บเกี่ยวประสบการณ์
เพื่อคิดอ่านทำการไกล




ช่วงที่ผ่านมาหายหน้าไปนานพอควร เป็นเพราะว่ามีภาระกิจการงานค่อนข้างมากขึ้น และอีกหนึ่งในงานคือการได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย...



เรียนรู้คือครูสอน
แม้จากจรไปถิ่นไหน
ซึบซับทุกสิ่งไป
ด้วยหัวใจที่ใฝ่ฝัน




จุดหมายแรกคือปีนัง... เป็นครั้งแรกที่ฉันได้บินด้วยสายการบินไทยจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ (ถึงแม้จะบินบ่อยๆ) เผลอคุยกับคุณแอร์ฯ เป็นภาษาอังกฤษด้วยความเคยชินตลกดี (ไม่ได้ตั้งใจ) ที่มาเลเซียค่าครองชีพค่อนข้างถูกทีเดียว แต่น่าแปลกที่เมืองเค้ากลับดูเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าบ้านเรา...



อยากเห็นถิ่นสยาม
ระบือนามจึงมุ่งมั่น
เอื้อมไขว่ไล่ให้ทัน
จับมือกันร่วมแรงใจ




ต่อมาพวกเราก็ย้ายเมืองมาเมือง Ipoh เป็นเมืองเล็กๆ อยู่กลางหุบเขา บรรยากาศสวยทีเดียว สิ่งที่ชอบมากๆ ก็คือสีเขียวขจีของต้นไม้ข้างทาง บ้านหลังใหญ่ๆ ที่เห็นแล้วน่าทึ่ง กับผู้คนที่ดูเป็นมิตร...



ให้คนประเทศเรา
รู้จักเขาเอาใจใส่
อย่ามัวปิดตาไป
แล้วเปิดใจใฝ่ตรองดู




ตกดึกของวันแรกที่เมือง Ipoh ฉันกับเพื่อนร่วมงานก็พากันออกท่องราตรี พวกเราเดินกันพอสมควร (จากชานเมืองถึงเกือบใจกลางเมือง) เพื่อจะหาร้านอาหารรอบดึก ในที่สุดพวกเราก็เจอแหล่ง แต่คนแถวนี้คุยภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง (แต่เก่งภาษาจีน) พวกเราเลยได้บริหารภาษามือกันพอควรและก็ได้ทานอาหารท้องถิ่นที่อร่อย ขนมอร่อยในราคาย่อมเยา...



ก้าวหน้าก็ยอมรับ
แล้วก็จับเอาความรู้
กลับมาสร้างสิ่งสู้
เพื่อเชิดชูสู่ชาติตน




มีสิ่งแปลกอันหนึ่งที่ไม่เคยเห็นที่อื่นแต่เหมือนเป็น common ของที่นี่คือการมีตู้เซฟ Digital ที่โรงแรม (ให้ตั้งรหัสเอง) ไม่ว่าไปพักที่โรงแรมไหนก็จะเจอ ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจดี อีกสิ่งที่พิเศษคือมีการบอกทิศทางของนครเมกกะ และ มีคัมภีร์อัลกุลอ่านให้อ่านในห้อง (เหมือนเวลาไปโรงแรมฝรั่งก็จะมีคัมภีร์ไบเบิ้ลให้อ่าน)...



คนเราจักไม่แพ้
หากไม่แย่ถอดใจหม่น
มีทางร้อยพันหน
เพื่อให้คนเราก้าวไป




การทำงานกับคนที่นี่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าคนไทยเราเก่งกว่าเค้าพอควร เสียดายที่คนมาเลเซียพูดจาภาษาอังกฤษเก่งกว่าเรา (และมีความกล้าในการแสดงความคิดเห็นมากกว่าคนไทย) คนที่นี่ส่วนใหญ่จะพูดได้อย่างน้อยสามภาษาให้น่าทึ่งนัก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษามาเลย์เอง และ ภาษาจีน (หลายคนพูดภาษาจีนได้หลายแบบอีกต่างหาก) เวลาคุยอะไรไม่ค่อยได้ก็มั่วๆ ภาษาจีนไปบ้างอาจจะเข้าใจกันได้บ้าง...



เลือกได้ตามที่คิด
หากดวงจิตยังสู้ไหว
เหนื่อยล้าสักเท่าใด
หากมีใจไม่ต้องกลัว




ที่น่าแปลกอีกอย่างคือ ตอนแรกนึกว่าคนที่นี่จะเคร่งศาสนาอิสลามมาก เช่นผู้หญิงก็คิดว่าจะคลุมผ้าโพกศรีษะ เคร่งครัดกันหมดปรากฏว่าเห็นคนที่คลุมผ้า และไม่คลุมผ้าจำนวนพอๆ กัน คนจีนในมาเลเซียพาวัฒนธรรมจีนเข้ามา มีวัดไทยในมาเลย์เยอะกว่าที่คิด และโดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าก็มีสาวๆ นุ่งสั้นๆ เสื้อเกาะอก สายเดี่ยวเดินกันทั่ว...



ท่องเที่ยวไปทั่วแดน
ทุกแว่นแคว้นมีดีชั่ว
รับรู้แต่พอตัว
สิ่งมืดมัวก็ทิ้งไป




ประเทศมาเลย์ร้อนกว่าเราพอควร เวลาแดดออกก็สดใส แต่เวลาฝนตกก็ขมุกขมัวพอดูเหมือนกัน นอกจากนี้ประเทศเค้าก็ค่อนข้างตื่นตัวกับบอลโลกเหมือนเรา (คงเป็นกันทั่วโลกยกเว้นอเมริกา) แต่คนที่นี่ดูเชียร์อังกฤษเยอะเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ หรือเพราะทีมอังกฤษมีดาราฟุตบอลชื่อดังอยู่เยอะ นอกจากนี้ลักษณะของเมืองอีกอย่างที่น่าสนใจคือจะมีร่องทางระบายน้ำลึก (มากๆ) อยู่ระหว่างถนน หรือ ฟุตบาท กับตัวอาคาร กว้างซักหนึ่งฟุตได้ (แล้วก็มักจะไม่ค่อยมีอะไรปิด) แรกๆ ไปเดินจะรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องคอยกระโดดข้าม มองลงไปก็เสียวๆ พอดูแต่พอข้ามบ่อยๆ ก็เริ่มชิน...



สั่งสมเพียงสิ่งดี
ก็พอที่มีวันใหม่
เรื่องราวร้ายแรงใด
คลี่คลายไปอย่างง่ายดาย




ที่น่าประทับใจมากๆ คือคนมาเลเซียรู้จักประเทศเราค่อนข้างมาก และมองเราเป็นมิตรพอควร (ต่างกับคนประเทศเราที่ชอบไปเที่ยวคิดว่าเพื่อนบ้านเป็นศัตรู) พอเค้าเห็นเราใส่สายรัดข้อมือสีเหลืองก็มาบอกว่า Long live the king ใช่ไหม เราก็บอกว่าใช่ เค้าก็บอกว่าเค้ารู้เรื่องในหลวงเราครองราชย์ครบ 60 ปี หรือคุยเรื่องโน่นเรื่องนี่ เค้าก็รู้เรื่องเมืองไทยกัน (แต่เราไม่ค่อยรู้เรื่องประเทศเค้านัก)...



หนึ่งดวงไฟสองแสง
พร้อมปั่นแบ่งบ่งความหมาย
ต่อเทียนเวียนพร่างพราย
สร้างสื่อสายส่งเสรี





Create Date : 25 มิถุนายน 2549

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห