Skip to main content

โลกไอที...

ความเชี่ยวชาญของฉันจริงๆ แล้วเป็นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือที่ใครๆ มักจะเรียกย่อๆ ว่าไอที เมื่อปีก่อนฉันมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการอบรม CIO และทำให้ได้ไปดูระบบ IT ที่สถานที่สำคัญต่างๆ ที่ปกติคงไม่ได้ให้ใครเยี่ยมชมบ่อยนัก เช่นระบบไอทีที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือระบบที่บริษัทชั้นนำหลายๆ บริษัทที่อเมริกา (พอดีของอเมริกาเซ็นต์สัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลเลยมาเล่าให้ฟังไม่ได้)



ภาพ: สนามบินสุวรรณภูมิแสนสวย จากหอคอยบังคับการบิน

ระบบไอทีที่สนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นแกนหลักทำได้ดีมาก ฉันประทับใจห้องฝึกเจ้าหน้าที่บนหอบังคับการการบินที่เป็นภาพ 3 มิติ (ฉาย Projector รอบห้อง) มีจำลองสภาพอากาศ กลางคืน กลางวัน ฝนตก ลูกเห็บตก ฯลฯ ให้ทดลองกัน ที่นี่ต้องฝึกคนเป็นปีๆ เพื่อนให้ออกไปทำงานได้ไม่ผิดพลาด (เพราะถ้าผิดพลาดก็หมายถึงชีวิตคนมากมาย) ภาพจำลองการบินของเครื่องบิน และอื่นๆ ทำให้ฉันได้เห็นถึงความพยายามของผู้คน... เท่าที่ฉันได้คุย คนไอทีของสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะหน่วยงานวิทยุการบินนั้นมีความสามารถมาก (ถึงขนาดช่วยไปออกแบบเครื่องเลือกตั้งอัตโนมัติให้หน่วยงานอื่นได้) ดังนั้นถ้ามีคนให้ Direction ที่ดีกับคนที่มีศักยภาพ ประเทศของเราคงเยี่ยมยอดทีเดียว

แต่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดเมื่อมีระบบไอทีเข้ามา ว่าระบบต้องทำทุกอย่างให้ จริงๆ แล้ว ระบบจะดี หรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับคนออกแบบว่าจะนำระบบดีๆ เหล่านั้นไปใช้ทำอะไร "วิศวกรไม่สามารถสร้างตึกได้สวยงามมหัศจรรย์ถ้าสถาปนิกที่ออกแบบไม่ได้วาดเค้าโครงของความมหัศจรรย์เหล่านั้นมา"... ฉันมักจะชอบกับคำบอกของอาจารย์สมัยเรียนเอก ว่าพวกเราไม่ควรจะเรียนเป็น Computer Engineer (วิศวกรคอมพ์) แต่ควรจะเป็น Computer Architect (ผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์) คำพูดนี้ทำให้ฉันหลงต้องมนต์ไปทำปริญญาเอกในวงการ Computer Arcchitecture คือออกแบบหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processor Unit: CPU) อยู่ถึงสามปี

แต่นั่นแหล่ะข้อเสียของวงการไอที คือเป็นวงการที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และใช้งบประมาณกันค่อยข้างแพง โดยที่ราคาข้าวของไม่ค่อยมีมาตรฐาน มี key players ผูกขาดตลาดอยู่ไม่กี่เจ้า การดำเนินการขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกเยอะ และก็มีกฏเกณฑ์ใหม่ๆ มาตลอดเวลา ทำให้ต้องคอยติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ สิ่งที่คุณรู้เมื่อสามปีก่อน แป๊บเดียวก็ล้าสมัย สิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาทันสมัยมากๆ ในวันนี้ อีกไม่นานก็จะกลับกลายเป็นของเก่าๆ เชยๆ ไป คนที่จบมา >5 ปี หลายๆ คนมักจะเริ่มรู้สึกแปลกใจเมื่อพบว่า... เด็กรุ่นใหม่ๆ ที่จบมาจะรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากกว่าเรา

ส่วนข้อดีของวงการนี้คือมันทำให้ระบบ "ความคิด" ของคุณไม่หยุดนิ่งและก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ @^_^@

@---,---'-----
ทำงานไปเถิด
จักเกิดคุณค่า
เพราะกาลเวลา
ช่วยพาเติบโต

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห