Skip to main content

สะสมดอกไม้



ช่อคาร์เนชั่น: ถ่ายวันแรกที่ได้รับ


ดอกคาร์เนชั่น
แม้มันแบบบาง
ทำไมเจ้าช่าง
อยู่อย่างอดทน


สิ่งที่สะสมยากที่สุด ก็คือการสะสมดอกไม้ เวลาที่คุณได้รับดอกไม้สวยๆ มาสักช่อนึง หลายๆ ครั้งก็อยากจะเก็บมันไว้อย่างนั้นนานๆ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ จริงๆ แล้วสำหรับฉันเอง ฉันคิดว่าดอกไม้เปรียบเสมือนเป็นความรักหนุ่มสาวเลยนะ คือเป็นสิ่งบริสุทธิ์สวยงาม เบ่งบานได้อย่างน่าชม แต่ก็ไม่สามารถคงทน คงเป็นได้เพียงภาพประทับใจ ตรึงตราตรึงใจในยามหวนถึงเรื่องวันวาน และก็อยู่ที่คนที่เคยผ่านมันว่า คุณจะจำภาพยามที่มันสวยงามเอาไว้ หรือยามที่มันโรยรา ถ้าคนเราอยากอยู่อย่างมีความสุขในชีวิต ก็เลือกจำภาพยามที่มันเคยสวยงามเอาไว้เถิดว่าเป็นภาพหนึ่งในอดีตที่อย่างน้อยเราก็เคยได้ชื่นชม

ดอกไม้ที่ฉันชอบที่สุด คือดอกคาร์เนชั่นสีขาว ดอกไม้ในภาพชุดนี้เป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ คือนิสิตที่สอนทั้งรุ่นไปช่วยกันซื้อมาให้ในวันปิด class พวกนิสิตเหมือนมาค้นข้อมูลที่โพสใน web ว่าฉันชอบดอกคาร์เนชั่นสีขาว เลยไปซื้อมาทำ surprise ในวันสุดท้ายให้เป็นช่อได้อย่างน่าประทับใจ ที่ชื่นใจนั้นไม่ใช่เพียงแค่ดอกไม้แต่เป็นความพยายามในการสืบหาว่าอะไรเป็นของที่ฉันชอบต่างหาก ความรู้สึกดีๆ ว่ามีคนอยากจะทำให้เรารู้สึกดีๆ นั้นมันมีค่ามากกว่าช่อดอกไม้เสียอีก ความตั้งใจของผู้ให้นั่นคือความทรงจำ ที่เก็บไว้ได้แม้ในวันที่ดอกไม้โรยรา


คาร์เนชั่นในแจกัน: ถ่ายเมื่อผ่านมาเกือบอาทิตย์


สาเหตุที่ฉันชอบดอกคาร์เนชั่นที่สุด เป็นเพราะว่าฉันเคยได้ดอกไม้มากมายมาครั้งหนึ่ง แล้วฉันก็จัดและเลี้ยงดอกไม้อยู่พักใหญ่ สิ่งที่พบคือดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้เรียบๆ ที่ไม่เตะตาแต่อยู่อย่างอดทน ดอกคาร์เนชั่นนั้นเป็นดอกไม้เรียบร้อย ก้านอ้วนๆ ของมันไม่ได้มีหนามแหลมคมแบบดอกกุหลาบ กลีบบางๆ ของมันไม่ได้มีกลินหอมละมุนแบบดอกมะลิ หรือลวดลายของมันไม่ได้งดงามตระการตาแบบดอกลิลลี่ แต่ความ "พยายามที่จะมีชีวิต" ให้ยาวนานที่สุดและอย่างสวยงามของมันนั้นเป็นสิ่งที่ฉันประทับใจ (จริงๆ แล้วชอบพอๆ กับดอกหญ้า ซึ่งก็มีมาให้ในช่อเดียวกันพอดี)

แต่คนเราก็ไม่อาจฝืนโชคชะตาได้ ทุกๆ สิ่งก็มีกำหนดของมันที่จะต้องจากไปในวันใดวันหนึ่ง แต่สิ่งที่จะพิสูจน์คนเรานั้นก็คือว่าช่วงเวลาที่เคยมีโอกาสได้เบ่งบานนั้นได้สร้างคุณค่าเอาไว้ขนาดไหน ซึ่งถ้าจะเปรียบไปแล้วก็เหมือนกับชีวิตของคนเรา การที่คนเราเกิดมานั้นมีชีวิตอยู่เพียงสั้นๆ เท่านั้นเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์กาลเวลาที่ได้ล่วงผ่านมาและกำลังจะผ่านไป เราจะฝากชีวิตเราให้จารลงไปในรอยแห่งกาลเวลาอย่างไร? คุณเคยถามตัวเองเหมือนฉันไหม? เวลาไปเดินเล่นดูโบราณสถานหรืออ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ว่าต่อไปเมื่อชีวิตเราผ่านไป แล้วเราจะอยู่อย่างฝาก "จาร" อะไรลงไปในหน้าประวัติศาสตร์บ้างได้หรือไม่? หรือจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวธุลีดินของห้วงจักรวาลที่ลืมตาเกิดมาดูโลกเพื่อจะสั่นสะเทือนเพียงชั่วครู่แล้วก็เลือนหายไปตามกาลเวลา คนเราควรจะมีชีวิตที่งดงามและมีความหมายแม้จะมีเวลาเพียงน้อยนิดมิใช่หรือ

แม้ดอกไม้จะร่วงโรยลงไป เหมือนๆ กับความรักของหนุ่มสาว หรือช่วงชีวิตสั้นๆ ของคนในห้วงกาลเวลา แต่ฉันเชื่อว่าพวกมันได้ฝากรอยยิ้มไว้ได้ในวันก่อนจากลา ด้วยความภูมิใจที่ได้อยู่อย่างเต็มที่และสวยงาม... แล้วพวกเราล่ะ? ได้ทำวันนี้ ได้ทำชีวิตตอนนี้ อย่างสวยงามไม่แพ้ดอกไม้แล้วหรือยัง?... เรามาสะสมดอกไม้ให้บานสะพรั่งเต็มหัวใจของพวกเราและคนรอบข้างในยามที่พวกเรายังมีชีวิตอยู่กันดีไหม? @^_^@


ดอกคาร์เนชั่น: ในวันท้ายๆ ที่เหลือไม่กี่ดอกแต่ก็ยังยืนหยัดสวยงาม


ฝากภาพจารจำ
งามล้ำชวนยล
ดั่งสอนให้คน
อดทนงดงาม
 


Create Date : 18 กรกฎาคม 2552

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห