Skip to main content

ไปรษณียบัตร...




ความคิดถึง
ส่งผ่านกระดาษเนื้อบางเบา
ในรูปแบบเส้นสายลายอักษร
ข้ามขอบฟ้า แผ่นน้ำ

คอยตามส่งสัญญาณ
ให้ผู้รับได้ทราบว่า
ยังมีคนคิดถึงเสมอ
ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนใด


งานอดิเรกของฉันทุกครั้งที่เดินทางไปที่ไหนๆ คือการส่งไปรษณียบัตร ทุกอย่างเริ่มขึ้นจาก Victor เพื่อนชาวอเมริกันที่จำไม่ได้ว่าเราเริ่มรู้จักกันได้อย่างไร คล้ายๆ กับว่าเริ่มเล่น ICQ แล้วเจอกัน เลยเมล์คุยกันโน่นนี่ เพราะเราก็อยากฝึกภาษาอังกฤษ มีครั้งนึงคุยกันเรื่อง Stanford ว่าเราชอบตึกของมหาวิทยาลัยเค้า Victor เลยส่ง postcard มาให้ และต่อๆ มาก็มักส่ง postcard มาให้เวลาไปเที่ยวไหนๆ ซึ่ง Victor เที่ยวเยอะมากและหลากหลาย เท่าที่จำได้ก็มี postcard จาก ลาสเวกัส ปารีส โรม อียิปต์ ทำให้เรารู้สึกชอบที่ได้เห็นรูปสวยๆ แสตมป์สวยๆ ของประเทศต่างๆ

ต่อมาพอไร้นามมีโอกาสได้เดินทางเลยเริ่มส่ง postcard ให้เพื่อนๆ บ้าง ปกติสมัยก่อนจะซื้อ 10-12 ใบ จำได้ว่าทำวีรกรรมมากมายในการวิ่งหา post office ตามประเทศต่างๆ แล้วก็พยายามส่งภาษา (มือ) ขอซื้อ stamp ส่ง postcard เช่นที่ประเทศโปแลนด์ ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส ที่คนเค้าไม่ค่อยชอบพูดภาษาอังกฤษนัก... แล้วเพื่อนๆ ที่ไร้นามชอบส่ง postcard ไปหาก็มักจะส่ง postcard กลับมาบ้าง ไร้นามก็เลยเริ่มเก็บ จำได้ว่าตอนเรียนปริญญาเอกปีสาม ได้ห้องใหม่ที่มีบอร์ดอันใหญ่เลยเอาไปรษณีย์บัตรสวยๆ ที่ได้มาจากเพื่อนและอื่นๆ (รูปภาพ, greeting cards, notes, etc.) มาแปะๆ พอสร้างบรรยากาศจอห้องดูอบอุ่นขึ้นมา (ดังภาพด้านบน)

ตอนเรียนจบแล้วอยู่ทำงานต่อ ไปพักกับ host ชาวอังกฤษ (คุณ Simon) ได้ห้องสีเหลืองสดใส แล้วคุณ host ใจดีก็อนุญาติให้แปะ โปสเตอร์ได้ตามสบายที่ฝาผนังด้านหนึ่ง ไร้นามเลยจัดการเอาโปสการ์ดจำนวนหนึ่งมาแปะเรียงกันเป็นแนวเฉียงๆ (เสียดายที่ลืมถ่ายภาพเก็บเอาไว้) คุณ host ใจดียังเคยแอบแวะมาดูแล้วชมว่าแต่งห้องได้เก๋ และดูอบอุ่นดีเหมือนกัน...

Postcard เป็นเหมือนเครื่องมือส่งผ่านความคิดถึงของคนๆ หนึ่งสู่คนอีกคนหนึ่ง ถึงแม้พื้นที่ในการเขียนจะน้อย แต่มันแสดงถึงความตั้งใจของคนส่ง บางทีแค่ข้อความสั้นๆ สองสามบรรทัด ก็ทำให้เรายิ้มได้... ทุกๆ ครั้งที่เหงาแค่มองเห็นไปรษณียบัตรเหล่านี้ ไม่ต้องพลิกมาอ่านก็อบอุ่นได้กับความตั้งใจของผู้ส่งแล้ว...
Create Date : 19 กรกฎาคม 2549

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห