Skip to main content

Siem Reap

กลิ่นอายอารยะ
ศิลปะประสมประสาน
สร้างร้อยรอยตำนาน
ให้กล่าวขานถึงรุ่นหลัง

เมื่อสองเดือนก่อนฉันมีโอกาสพาที่บ้านไปเสียมราฐ เพื่อไปดูมรดกโลกในภูมิภาคนี้อีกแห่งหนึ่งนั่นก็คือ นครวัด-นครธม และเนื่องจากทริปนี้มีผู้ใหญ่ไปด้วยเราก็เลยเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน ภาพด้านบนและด้านล่างเป็นสนามบินเสียมราฐที่ออกแบบได้เก๋ๆ ให้อารมณ์คล้ายสนามบินสมุย

ดินแดนประวัติศาสตร์
ขีดเขียนวาดเปี่ยมความหลัง
ยิ่งใหญ่ในคราครั้ง
เป็นความหลังอันพร่างพราย

เมืองเสียมราฐนี้ดูจากโบราณสถาน นครวัด-นครธม จะพบว่าเป็นเมืองที่เคยเจริญมากๆ ในอดีต (ประมาณแปดร้อยปีที่แล้ว) แต่ในปัจจุบันกลายเป็นเมืองที่คล้ายๆ อยุธยาบ้านเราคืออนุรักษ์ไว้ให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ข้อดีคือผู้คนอัธยาศัยดีกับนักท่องเที่ยวมาก แทบไม่มีปัญหาอาชญากรรมอะไร

ราตรีก็มาเยือน
คอยย้ำเตือนให้ใจหาย
ทอดถอนใจเสียดาย
ว่าสุดท้ายก็ผ่านวัน

ภาพด้านบนทั้งสองภาพเป็นภาพ Night Market กลางเมืองของที่นี่ บรรยากาศคล้ายสวนจตุจักร รับเงินไทย แต่ถ้าใช้จ่ายด้วยเงินดอลล่าห์จะได้ราคาดีกว่า (ป.ล.ทริปนี้ไม่ได้แลกเงินท้องถิ่นเลยเพราะเมืองนี้เป็นอินเตอร์ รับเงินแทบทุกสกุล ประชากรเค้าแทบทุกคนคิดอัตราแลกเปลี่ยนเก่งมาก)

ผู้คนดิ้นรนไป
ด้วยมีไฟจึงสร้างสรร
จุดเด่นแต่งแต้มพลัน
จนมีวันที่ฟื้นตัว

เขมรเป็นประเทศที่น่าสงสารเพราะผ่านสงครามหนักๆ มาหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ฝรั่งเศสเข้ามาล่าอาณานิคม จนกระทั่งถึงยุคเขมรแดงที่เอาคนไปฆ่ากันเป็นท้องทุ่ง (ไปดูทุ่งสังหารมาด้วย แต่ขอไม่เอาภาพมาลงเพราะเป็นฉากน่าเศร้าเกินไป) จากเดิมเคยเป็นอาณาจักรใหญ่ก็เลยตกต่ำลงไปมาก

ซากเก่าหมู่ปราสาท
วิจิตรวาดเงาสลัว
มองไปหาได้ทั่ว
ผูกพันพัวถึงบุราณ

ภาพด้านบนที่มีต้นไม้ใหญ่ๆ ขึ้นบนปราสาทคือปราสาทตาพรม ที่หนังฮอลิวู้ดชอบมาฉายหนัง (อยู่ด้านนอกนครวัด-นครธม) กำลังถูกบูรณะขนาดใหญ่และมีช่างศิลป์มาวาดรูปขายนักท่องเที่ยว สมัยก่อนช่างฝีมือจะสลักภาพลงบนหินทำให้ยังสวยงามและทนทานผ่านอายุมาได้หลายร้อยปี
ยิ้มแย้มกับเงาเย้ย
ดั่งว่าเคยสนุกสนาน
วันคืนผันเปลี่ยนผ่าน
ก็ชื่นบานตามทรงจำ

ภาพด้านบนเป็นภาพหน้ายิ้ม ซึ่งมีหลายๆ หน้าที่ปราสาทบายน หนึ่งในปราสาทหลักๆ ในนครธม (นครธมเป็นเหมือนเมืองๆ นึงขนาดใหญ่มากๆ และสร้างไว้เป็นศาสนสถาน) ภาพด้านล่างเป็นภาพนางอัปสราที่มีแกะสลักอยู่รอบๆ ปราสาทนครวัด (ภาพนครวัดเต็มๆ คือภาพด้านบนสุดของ blog นี้) ส่วนภาพล่างสุดของ blog นี้คือภาพบาราย อ่างเก็บน้ำจืดขนาดใหญ่มากๆ ที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์ ใหญ่ขนาดมีเกาะตรงกลางให้พายเรือเข้าไปและในเกาะมีวัดตั้งอยู่ (หลายตารางกิโลเมตร)

เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง
สืบสำเนียงการกระทำ
แสนคล้ายเมื่อน้อมนำ
ผ่านเพ้อพร่ำวันเวลา

ด้านบนเป็นไหมของกัมพูชา กรรมวิธีการผลิดและการทอเหมือนการทำในประเทศไทย และประเทศลาวที่เคยไปดู บางทีก็สะท้อนใจว่าประเทศแถบเรามีศิลปะวัฒนธรรมรวม หลายๆ อย่างคล้ายกันมาก ถ้าเป็นเพื่อนบ้านสามัคคีกันดีก็จะเข้มแข็งเลยทีเดียว ในภาพบนกำแพงนครวัดมีภาพจารึกไว้ว่าสยามเราเองกับเขมรเมื่อแปดร้อยปีก่อนเคยรวมกองทัพร่วมมือกัน ช่วยกันไปรบกับชนชาติอื่นที่มารุกราน

เปลี่ยนยุคทันสมัย
สิ่งใหม่ๆ แทรกเข้ามา
คงเหลือเพียงคุณค่า
ที่ตรึงตราให้ได้ยล




Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2557

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห