Skip to main content

Brunei


อัศจรรย์ความงาม
เพียงตามมองยล
พบภาพดอกผล
ที่ดลบันดาล


ตอนแรกจินตนาการไว้ว่าบรูไนจะร่ำรวยหรูหรา พอไปถึงก็พบว่าเค้ากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วอยู่ต่างหาก (เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่า) อธิบายภาพบนสุดก่อนคือมุมโปสการ์ดที่มัสยิดทองคำ Omar Ali Saiffuddien ส่วนภาพข้างบนและภาพข้างล่างคือประตูทางเข้าพระราชวังถ่ายจากซ้ายไปขวา ที่นี่จะมีทั้งหมดสามประตูที่แบ่งไว้สำหรับประชาชนคนธรรมดา แขก VIP หรือราชนิกูลเข้าแยกกันไป


ร่ำรวยน้ำมัน
รู้กลั่นเจือจาน
แบ่งปันชาวบ้าน
พบผ่านชื่นชม


มีโอกาสเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง (เสียดายส่วนใหญ่เค้าห้ามถ่ายรูป) เลยได้รู้ว่าประเทศนี้สมัยก่อนยากจนมาก แต่ไม่กี่สิบปีก่อนเพิ่งขุดเจอน้ำมันประเทศก็เลยเปลี่ยนไป ตอนนี้กลายเป็นประเทศพัฒนาทันสมัยมีสวัสดิการรัฐสนับสนุนมากมาย อย่างเช่นนโยบาย หนึ่งดอลล์บรูไน (ประมาณสามสิบบาท) รักษาทุกโรค ของเค้ารักษาแบบจริงจังถ้ารักษาในประเทศไม่ได้ก็ให้เบิกค่าตั๋วเครื่องบินไปรักษาที่สิงค์โปร์ หรือ มาเลเซีย พร้อมทั้งค่าเครื่องบิน โรงแรม ของคนติดตามทุกอย่างเหรียญเดียว


ผลิกฟื้นผืนดิน
ประทินเหมาะสม
ทุกอย่างเกลียวกลม
รื่นรมย์งดงาม


ภาพด้านบนเป็นภาพริมสระน้ำของโรงแรมหรูหราในบรูไน บรรยากาศดี-อาหารอร่อย มีฝรั่งมาเที่ยวเยอะพอสมควร ภาพข้างล่างเป็นภาพท่าเรือที่เตรียมขึ้นเรือเพื่อไปเยี่ยมชมบ้านบนน้ำกัน คนท้องถิ่นที่นั่นเล่าให้ฟังว่าคนที่อยู่บนน้ำไม่ใช่ยากจน ส่วนใหญ่จะร่ำรวยแต่ชอบวิถีชีวิตแบบนั้น


ล่องเรือเพลิดเพลิน
ชวนเชิญติดตาม
ให้ถึงนิยาม
ของความเป็นจริง


หมู่บ้านกลางน้ำ Kampong Ayer เป็นหมู่บ้านกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคนอาศัยบนนี้ต่อเนื่องยาวนานมากว่า 1,300 ปี มีสะพานต่อเชื่อมกัน นอกจากบ้านคนแล้ว ยังมีมัสยิด โรงเรียน สถานีตำรวจ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล มีประชากรอยู่ในหมู่บ้านกว่าสามหมื่นคน


สร้างประเพณี
ที่ดีอย่างยิ่ง
ต้อนรับพักพิง
ไม่ทิ้งน้ำใจ


สิ่งที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้คือ คนบรูไนที่บ้านกลางน้ำต้อนรับดีมาก ขึ้นเรือไปเยี่ยมชมบ้านเค้าก็เอาขนมอร่อยๆ น้ำชามาเลี้ยง (ภาพข้างบนคือ น้องไกร คุณแม่ แฟนน้องไกร/น้องขวัญ) และก็มีมุมชุดแต่งกายท้องถิ่นให้แต่งตัวถ่ายรูปเล่น โดยเค้าไม่ได้คิดเงินหรือคิดจะขายอะไรเลย เป็นนโยบายของคนพื้นบ้านที่พอมีคนมาเที่ยวเค้าก็อยากต้อนรับให้นักท่องเที่ยวประทับใจ


วิถีทางน้ำ
นิยามแปลกใหม่
พบเห็นตรึงใจ
ที่ไปเยี่ยมชม


อีกที่ ที่ประทับใจคือ Royal Regalia เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของหรูหราจากหลายๆ ประเทศมากมายที่ทางราชวงค์บรูไนได้รับเป็นของขวัญ (รวมทั้งของที่ส่งมาให้จากประเทศไทย) และเสื้อที่ทำด้วยทองกระดุมฝังเพชร ฯลฯ แต่เค้าห้ามถ่ายภาพข้างในเลยได้แต่ถ่ายรูปในห้องโถงกลางก่อนจุดฝากของ คือได้ถ่ายแต่เพดานและโถงราชรถในประราชพิธี ดังสองภาพข้างล่าง


แสนตระการตา
เลอค่ารื่นรมย์
เปิดคลังให้ชม
นิยมชอบใจ


ภาพข้างล่างเป็นมัสยิด Jame Asr Hassanil Bolkiah เป็นมัสยิดแห่งชาติของบรูไน ทองคำที่เห็นเป็นทองคำแท้มีโดมทองคำทั้งหมด 29 อัน ตอนเข้าไปเยี่ยมชมข้างในเค้าไม่ให้ถ่ายภาพเลยถ่ายมาให้ชมได้แต่ด้านนอก (ต้องใส่ชุดคลุมเดินข้างใน) ภาพข้างล่างนี้จะเห็นว่าข้าพเจ้าใช้นิวโป้งชี้ไปที่มัสยิด เป็นเพราะว่าที่บรูไนเค้าไม่ให้ชี้ของด้วยนิ้วชี้ แต่ต้องชี้ของด้วยนิ้วโป้งถึงจะถูกต้อง


ต่างประเพณี
ในที่ไม่ไกล
แวะชมทราบไว้
พอให้ตราตรึง




Create Date : 28 ตุลาคม 2557

Comments

Popular posts from this blog

Dubai

  เมืองใน เขตร้อน ทะเลทราย สมัยก่อนเคยมา Dubai เร็วๆ แวะตอน Transit แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวละเอียด คราวนี้เลยลองมา Dubai แบบยาวๆ หน่อย เลยทำให้มีเวลาดูอะไรๆ มากขึ้น ภาพแรกด้านบนคือย่านตลาดเก่า Heritage Village ที่ขายของท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม ภาพที่สองด้านบนคือภาพสถานีรถไฟฟ้าทันสมัยที่สามารถเดินทางได้สบายด้วยบัตร Nol Card (ซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต) ส่วนภาพด้านล่างคือป้ายรถเมล์ทันสมัยติดแอร์เย็นๆ เดิดูปลอดภัยมากๆ สร้างจน กลับกลาย เป็นสวรรค์ ภาพข้างบนคือภาพข้างในรถเมล์ที่นอกจากจะนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำๆแล้ว ยังบอกละเอียดว่าตอนนี้อยู่ป้ายรถเมล์ไหน กำลังจะไปไหนและคาดว่าจะถึงที่ไหนในอีกกี่นาทีเป๊ะมากๆ (ยังไม่พอคือเชื่อมข้อมูลกับ App ได้เป๊ะมากๆ ดูรถเมล์รออะไรๆ คือเดินทางสบายระดับหนึ่ง) – ภาพข้างล่างคือไปเยี่ยมชม Museum of the future เมื่อคน ตั้งใจ ร่วมมือกัน ภาพข้างบนคือหุ่นยนต์ผลิตน้ำหอมใน Museum of the future / ส่วนข้างล่างคือลองแวะไปใช้บริการสปา ของ ร.ร. Armani ที่อยู่ข้างในตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสปาที่ หรูหราอลังการ สบายมากๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเพราะพอเข้าไปก็เอามือถือไปเก็บในล็...

ภูเก็ต - Day 1

ระยะทาง... เป็นห้วงห่างสร้างความหมาย ผ่อนอารมณ์พอระบาย จนยิ้มง่ายกับชีวิต วันหยุดอาทิตย์ก่อน ไปภูเก็ตมา นับเป็นการเดินทางไปเยี่ยมดินแดนไข่มุกอันดามันอันลือชื่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟังเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมาชื่นชมให้ฟังถึงความงดงามของที่นี่มานาน การเดินทางคราวนี้จุดหมายหลักคือมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย (ทั้งคู่) ทำให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันสมัยวิศวะเกษตรกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เสียดายที่หลายๆ คนมาไม่ได้จึงมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมขบวนการกันอยู่เพียง 4 คน... โชคชะตา... แม้ฝืนกล้าท้าลิขิต ลวงเวลามาเป็นมิตร ก็เพียงจิตคิดห่างไกล วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ลงขันเช่ารถกัน จุดหมายแรกคืออุทยานแห่งชาติสิรินาถแป๊บนึงแล้วก็ขับเข้าเมือง หลงทางกันพอควรทำให้พลาดสถานที่ที่ตั้งใจเที่ยวไป แล้วก็หิวตาลายหาข้าวเช้าติ่มซำกินกันแล้วก็เดินเล่นเล็กน้อยในตัวเมือง เสร็จแล้วก็ตรงไปยังที่พัก งานนี้ต้องขอบคุณติ๊ก เพื่อนผู้น่ารักที่เคยไปเรียนปริญญาโทที่เคมบริดจ์รุ่นเดียวกันกัน ที่เอื้อเฟื้อจัดหาสถานที่ให้ ที่พักเป็นโรงแรมสีขาวสะอาดสะอ้านชื่อ rawai beach resort ที่หาดราไวย์... สายลมร้อน... มิอาทรตอนอ่อ...

Rome

ภาพเก่าเงาสะท้อน ให้มองย้อนถึงวันวาน ความหลังอันหอมหวาน จึงจดจารลงทรงจำ กรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าจะได้มาซักครา และแล้วในที่สุดก็ได้มา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอะไรเยอะมาก ฉันถ่ายรูปมาหลายร้อย และคัดรูปมาลงเพียงสิบกว่าภาพ มีหลายภาพที่คัดมาแล้วตัดออกด้วยความเสียดาย -- เพราะก็ไม่อยากทำ blog ด้วยภาพเยอะนัก :) ภาพงามความตรึงใจ ยังสวยใสให้ดื่มด่ำ จนต้องมาเพ้อพร่ำ ใส่ถ้อยคำ... จารกวี ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวริมแม่น้ำไทเบอร์ตอนพระอาทิตย์ตก ภาพถัดลงมาเป็นอาหารเย็นของที่นี่ ภาพถัดลงมาเป็นวิวสระน้ำของโรงแรมที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง และภาพด้านบนคือ Colosseum หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากมากรุงโรม @^_^@ สูงส่งเกินบรรยาย สื่อความหมายสร้างศักดิ์ศรี สร้างสรรอย่างพอดี ให้คนมีความทรงจำ หินที่สร้างขึ้นมาเป็นโครงดูแล้วเริ่มผุกร่อนเป็นหลุมๆ ลงไป (ดั่งภาพด้านบน) มีการบูรณะก่อสร้างบ้าง แต่ก็ต้องทึ่งว่าสมัยก่อนชาวโรมันคงยิ่งใหญ่มาก ขนาดสร้างสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายที่อาณาจักรที่ยิ่งให...