Skip to main content

Hua Hin #2


A torch
which oughts
to glow



ช่วงนี้อารมณ์สุนทรีย์ เลยอยากแต่งกลอนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง (แต่งมาตั้งแต่ blog หัวหินที่แล้ว) เวลาทำ blog ไร้นามก็จะมั่วสดๆ ด้วยมีเวลาไม่มาก แต่จริงๆ แล้วถ้าย้อนกันไปดูจะทราบว่า จะพยายามทำให้คล้องจองกันและมีความหมายเกี่ยวกับภาพ


Should show
its great
power



งานคราวนี้ต้องขอชมแผนกทรัพยากรมนุษย์ว่าตั้งใจจัดได้อลังการงานสร้างทีเดียว มีการยึดหาดหัวหินจัดปาร์ตี้ส่วนตัว และจัดการแสดงแสนลงทุนให้ออกมาอย่างสวยมากมาย (เสียอย่างเดียวที่ไร้นามนั่งคำนวนเงินคร่าวๆ ดูแล้วรู้สึกเสียดายว่าสามารถเอามา upgrade servers ได้หลายเครื่องทีเดียว) แต่ก็นะ มีอย่างนี้นานๆ ครั้งก็ดีเหมือนกัน


Turns all
darkness
lighter



วันรุ่งขึ้นหลังจากงานเลี้ยงที่เลิกดึก ไร้นามก็ทุ่มทุนตื่นแต่ก่อนเช้า เพราะอยากมาดูพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล ด้วยตรงโรงแรมเป็นจุดที่เค้า(ว่ากันว่า) เป็นตรงที่ทำให้เค้าเรียกแถวนี้ว่าหัวหิน คือตรงชายหาดเป็นหินๆ (คมๆ) ที่เกิดจากซากเปลือกสัตว์ทะเลทับถมกัน ปรากฏว่าเลยตื่นเป็นคนแรกมาเดินเล่นรับบรรยากาศคนเดียวอยู่เกือบชั่วโมง


Over
the tide
of dreams



ไม่นานนักพวกเพื่อนๆ ที่นัดกันไว้ก็มาเจอกันตามเวลานัด ไร้นามเลยได้ตากล้องกับเค้าซะที (อิอิ) และด้วย... เนื่องจากหลังๆ ซึมซับกระแสน้องๆ ในแผนก ในตอนพาไปอเมริกาครั้งที่ผ่านมาว่า "ถ่ายรูปให้กล้าทำท่าไปเถอะ มีโอกาสแต่ล่ะแห่งแค่ครั้งเดียว เดี๋ยวต่อไปจะไม่ได้ทำ" (เสียดายเกรงใจน้องๆ ไม่งั้นจะเอาภาพ idea เก๋ๆ มาลงให้ชมกัน) งานนี้ก็เลยได้ท่าข้างล่างนี้...


I jump
up to
the air



จำได้ว่าเที่ยวทะเลคราก่อน แล้วเอาภาพมาลง blog มีเพื่อนแวะมาชมว่าถ่ายแมงกระพรุนสวย คราวนี้เลยเดินหาแมงกระพรุนถ่ายมั่ง แต่ไม่ยักกะสวยแบบคราวที่แล้วแฮะ (คราวที่แล้วตัวใสๆ กว่านี้ แต่คราวนี้เป็นน้องแมงกระพรุ่นเวอร์ชั่นมอมแมม <= ไร้นามก็กลัวแมงกระพรุนเลยไม่กล้าไปปัดๆ ทำความสะอาดทรายบนตัวมัน แหะ แหะ)


How flare
the fire
it seems



มางานนี้ไร้นามถือโอกาสพาน้องกระเป๋าน้อย Kipling สีแดงสดๆ มาเที่ยวด้วย (ปกติไม่ค่อยกล้าใช้ในชีวิตประจำวัน) และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศชิวๆ ริมทะเลในโรงแรม เลยจับน้องกระเป๋าทัดดอกลีลาวดีหน่อยเถอะ เพราะสีแดงขาวเหลืองตัดกันแล้วดูสวยดีเหลือเกิน (ชอบๆ)


Can I
reach for
extremes



Wake dreams
up once
again



Create Date : 25 สิงหาคม 2551

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...