" The beginning is the most important part of the work. " -- Plato |
ท่องไปในแดนดิน
ยลยินถิ่นความฝัน
ซึ้งทราบอาบนิรันดร์
ผูกพันเพราะพบพา
เพิ่มมีเวลาว่างมานั่งทำรูปชุดที่ 3 ของ Singapore Trip เป็นการทำ Collection ท่องเที่ยวที่นานที่สุดก็ว่าได้เพราะโดนขัดจังหวะด้วยเรื่องราวหลายๆ อย่าง (ติดตามการเมือง, สอบนิติฯ, งานของที่ทำงาน, งานของสมาคมเคมบริดจ์ ฯลฯ) ซึ่งถ้ามีเวลาว่างจะมาค่อยๆ เล่าให้เพื่อนๆ ฟังว่าวันๆ ช่วงนี้ที่ผ่านมาไร้นามได้ทำอะไรไปบ้าง...
ชื่นชมภิรมย์ใจ
ฝันใดที่ใฝ่หา
เอื้อมหยิบไขว่คว้ามา
เพียงกล้าก็จักถึง
วันสุดท้ายของการท่องเที่ยวเป็นวัน freestyle ทีเดียวคนส่วนใหญ่ที่ไปด้วยกันเลือกเดินเข้าห้างไป shopping แต่ gang เรา (ซึ่งต้องถือเป็นคนส่วนน้อย) ก็เริ่มออกเดินทาง... เริ่มแรกพวกเราไปเดินเล่นตัดสวน Canning Walk (ภาพด้านบน) ซึ่งเป็นสวนที่ถือได้ว่าสวยร่มรื่นมากทีเดียวเพื่อจะไป National Museum of Singapore...
ด้วยเพียงในห้วงฝัน
สร้างฉันเป็นที่หนึ่ง
ยามตื่นพื้นคะนึง
รำพึงถึงความจริง
ออกจาก museum พวกเราก็เดินตัดลัดเลาะผ่านย่านมหาวิทยาลัยดูตึกสีสันสดสัยทันสมัยของ SMU (Singapore Management University) ทำให้นึกถึง The Judge ตึกที่คล้าย Lego สีสันสดในที่เคมบริดจ์ขึ้นมาจับใจ พวกคณะบริหารนี่ตึกเรียนมักจะสวยตระการตาทีเดียว เสร็จแล้วพวกเราก็มุ่งตรงไปยังย่าน Little India...
แต่หากคิดตรองดู
หยุดรู้ด้วยจิตนิ่ง
ภาพงามเชิญชวนชิง
เพียงสิ่งอนัตตา
ย่าน Little India เคยเป็นถิ่นที่ยากจนของชนชาวอินเดียในสิงค์โปร์ (เหมือนย่าน China Town ที่เคยเป็นถิ่นที่ยากจนของชาชาวจีน) แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นย่านที่คึกคักด้วยสีสันสดใส สิ่งที่น่าตรึงตราของย่านนี้คือสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่นับได้ว่าอลังการ นี่เป็นครั้งแรกที่ไร้นามได้มาเห็นวัดวาแบบ India สวยงามแบบนี้ ทำให้นึกถึงสมัยที่ไปเดินเล่นที่อิสตั้นบูลที่ตื่นตาตื่นใจไปกับภาพ Mosque และรู้สึกชื่นชมว่าทุกศาสนาทุกชนชาติต่างมีวิถีทางของตัวเองที่จะสรรสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสิ่งที่เค้าศรัทธา
ไขว่คว้าไปเถิดคน
สับสนด้วยค้นหา
จับยึดแน่นทุกครา
พบว่าพลันหายไป
ทุกงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา สุดท้ายก็ถึงเวลาเดินทางกลับหลายๆ ก่อนกลับพวกเราก็เตร่กันแถว Orchard Road (ย่านถนน shopping ให้บรรยากาศคล้ายๆ Oxford Street ที่ลอนดอนอย่างไรอย่างนั้น) แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะไม่ค่อยมีอะไรแปลกตา และไม่ได้ซื้ออะไรนักจากย่านนี้ยกเว้น postcards แล้ว พวกเราก็มุ่งหน้ากลับสนามบิน
ความคิดก็เฉกนั้น
เชื่อมั่นก็ฝักใฝ่
ยึดติดในสิ่งใด
อย่าให้ครอบงำตน
มาถึงร้านหนังสือที่สนามบิน ต้องตื่นตะลึงกับหนังสือแนะนำ "The Best of 2006" ที่วางโชว์อยู่ตรงทางเข้าหน้าร้านเพราะเป็นหนังสือเกี่ยวกับในหลวงของเราเอง (The King Never Smiles) เลยไปลองพลิกๆ คร่าวๆ ดู แต่ก็ไม่ได้ซื้อเพราะไม่มั่นใจว่าจะเป็นหนังสือห้ามนำเข้าประเทศไทยหรือเปล่า จริงๆ แล้วไม่ว่าหนังสือเล่มไหนจะเขียนด้วยฝรั่งคนใด ถ้าคนไทยจริงๆ อย่างเราได้อ่าน ก็ยากที่จะเชื่อในหลายๆ เรื่องเพราะบางทีก็เป็นการมองไทยแบบฝรั่งที่ไม่เข้าใจ การอ่านถ้าอ่านดีๆ จะทำให้เรารู้เขารู้เรา และสามารถเอาไปโต้แย้งถกวิจารณ์กับผู้ที่ไม่รู้ได้ ไร้นามเชื่อว่าไม่ว่าใครจะเขียนอะไร ความรักความศรัทธาต่อพ่อหลวงของคนไทยเรานั้นก็ไม่มีทางถูกสั่นคลอนไปได้
กางปีกแห่งเสรี
คลายคลี่สิ่งสับสน
ปล่อยวางกลางผู้คน
หลุดพ้นผองภัยพาล
Create Date : 23 กรกฎาคม 2550 |
Comments