ปล่อยใจไปตามกระแสโลก
ทุกข์โศกร้องไห้ให้ใครเห็น
แล้วหยุดเพื่อจบอย่างควรเป็น
ดั่งเช่นชีวิตที่ผ่านมา
เมื่ออาทิตย์ก่อนมีโอกาสได้ไปงาน Rally การกุศลของสมาคมฯ นับเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว พวกเราเริ่มออกสตาร์ทกันจากสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ และไปหยุดเล่นกิจกรรม(วิชาการ)ฐานแรก ที่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ (บางปะอิน)
เพียงพบเรื่องร้ายอีกคราหนึ่ง
ได้ซึ้งถึงธรรมไร้กังขา
ทุกสิ่งแปรผันตามเวลา
น้ำตาหยาดหยดเพราะพบจริง
ฐานที่สองคือ Tesco ปากช่อง (ทำกิจกรรมไม่ค่อยทันเลยไม่มีเวลาถ่ายรูป) แล้วก็ต่อด้วยโรงเรียนบ้านคลองดินดำ (ที่ๆ พวกเรานำเงินไปบริจาคแห่งแรก /trip นี้มาเพื่อบริจาคเงินช่วยสองโรงเรียน)
แปลกหนอโลกเราเป็นเฉกนี้
ทำดีไม่ได้ดีเป็นบางสิ่ง
ผลกรรมคงมีอย่างว่าจริง
จึ่งนิ่งลองตรองมองโลกดู
เสร็จจากภาระกิจบริจาคเงินให้กับโรงเรียน พวกเราก็เดินทางต่อไปเพื่อไปที่พักที่บริเวณวังน้ำเขียว ชื่อรีสอร์ทคือบ้านไร่คุณนาย ที่พักสวยงาม อากาศดีมากๆ ทีเดียว และมีของเล่นให้เราได้เพลิดเพลินพอดู (ดังภาพที่ถ่ายมาให้ชม)
ท้องฟ้าก็ยังเป็นท้องฟ้า
แดดจ้าทอแสงอย่างเลิศหรู
สีสันเปลี่ยนสวยทุกฤดู
คงอยู่เวียนวนจนเห็นชิน
สิ่งที่ชอบอีกอย่างของ resort นี้คือ เจ้าดอกกระเจียวนี่แหล่ะ ที่ทำให้ถ่ายภาพกันเพลินเชียว ทำให้นึกถึงสมัยกลับจากอังกฤษใหม่ๆ แล้วพยายามไปดูทุ่งดอกกระเจียว เพื่อนฉันบอกว่ามันถูกเรียกว่า Siam Tulip ฟังแล้วน่าภาคภูมิใจนัก
ทุกสิ่งก็เป็นเฉกเช่นนั้น
เปลี่ยนผันพบเห็นในทุกถิ่น
จะอยู่จุดไหนในแดนดิน
มิสิ้นวังวนของกลลวง
สรุปแล้วน้องๆ ดอกกระเจียวเลยกลายมาเป็นนางแบบ นายแบบ ของฉันกับน้องชาย (แข่งกันถ่ายว่าใครจะได้มุมสวยกว่ากัน) ไม่น่าเชื่อว่าการถ่ายรูปดอกไม้ สามารถทำเอาพวกเราหมดเวลากับมันไปเป็นชั่วโมงๆ ทีเดียว
ชีวิตเกิดมาทำไมหนอ
เพียงรอวันตายอย่างห่วงหวง
หรือเพื่อรอรับชะตาดวง
หรือเพื่อปลดบ่วงผูกพันตน?
การถ่ายภาพดอกไม้นั้น ทำให้เห็นมีหลายๆ step ของมันเอง ตั้งแต่เริ่มผลิออกมาน่ารักน่าชัง จนกระทั่งบานสวยเต็มที่ตระการตา และเริ่มโรยรากันไป ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนๆ กันกับชีวิตคนเรานี่เอง
หยุดเถิดเกิดรู้ดูดวงจิต
ยามคิดก็ฟุ้งปรุงสับสน
ปรุงทุกข์ปรุงโศกเกินจะทน
ร้อนรนจากไฟในใจตัว
ตกเย็นพวกเราก็มีกิจกรรมชิมไวน์กัน (ทำให้หวนถึงคืนวันเก่าๆ สมัยอยู่อังกฤษ) มีไวน์หลากหลายชนิดทีเดียวแต่ฉันก็ยังไงๆ ไม่ว่าจะยี่ห้อดีขนาดไหนก็ยังไม่สามารถรู้สึกชอบรสฝาดๆ ของไวน์ได้ซักที (เหมือนกับที่ไม่ชอบรสขมๆ ของกาแฟ)
ตามเถิดตามรู้ภาวะจิต
สร้างคิดแต่งปรุงจนชวนหัว
เกิดดับปรุงใหม่ให้พันพัว
เห็นทั่วจักซึ้งซึ่งรสธรรม
เวลาชิมไวน์ต้องเริ่มจากไวน์ขาวรสอ่อนๆ ก่อน แล้วไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงไวน์แดงรสเข้มๆ มีพิธีการมากมายในการชิมไวน์จนสามารถเขียนกันเป็นตำรากันได้ทีเดียว
ทุกสิ่งนั้นเป็นเช่นไตรลักษณ์
ประจักษ์เห็นง่ายอย่างน่าขำ
หากรู้ในตนจนทราบจำ
จักนำพาใจให้ปล่อยวาง
วันรุ่งขึ้นพวกเราก็พากันไปบริจาคอีกโรงเรียน (รร. บ้านไทยสามัคคี) แล้วก็เที่ยวกันรอบๆ บริเวณนั้น เช่นฟาร์มเห็ด สวนเกษตรไร้สารพิษ และ ไร่องุ่น ก่อนแยกย้ายกันกลับ
Create Date : 05 กรกฎาคม 2551 |
Comments