Skip to main content

Singapore Trip #2

" Once we accept our limits,
  we go beyond them. "

-- Albert Einstein



ขอบเขต
ขีดขั้น
ขัดขวาง




ห่างหายไปนานกว่าจะได้มีเวลามา update หน้านี้ เพื่อนที่ไป Singapore ด้วยกันคงรอจนลืม (พร้อมโทรมาไถ่ถามบ่อยๆ และก็คอยห้ามไม่ให้ไปทำอะไรเสี่ยงๆ ที่สนามหลวง) วันนี้ขอเปลี่ยน theme blog กลับมาเป็นแบบเดิม ก่อนที่จะร้อนไปด้วยการเมืองอย่างเดียว ใช่ว่าเพราะทิ้งร้างบ้านเมือง แต่ด้วยเพราะถ้าทิ้งไว้ไม่เขียนต่อก็รู้สึกคาใจว่ายังทำ blog เรื่อง Singapore trip ไม่เสร็จสักที



เคว้งคว้าง
ค้นค่า
คราครั้ง




ก่อนอื่นต้องขอบรรยายภาพ ภาพบนสุดเป็นภาพสระน้ำที่ดาดฟ้าของโรงแรม Changi Village ที่พักอยู่สวยงามมาก (เป็นกระจกเห็นวิวทะเล) ถัดมาเป็นน้อง Merlion พ่นน้ำลงทะเลดูเหงาๆ (จริงๆ รอบๆ มีคนถ่ายรูปกันเพียบ) แล้วก็ภาพสะพาน Classic (Anderson Bridge) แล้วก็วิวงานปะติมากรรมริมน้ำที่ต้องใช้กล้องซูมแต่ไกล



ชาติเชื้อ
ชนชั้น
ใช่ชัง




สายหน่อยพวกเราก็ไปเดินเล่นย่าน China town ย่านนี้เป็นย่านที่สมัยก่อนเคยแออัด แต่ปัจจุบันสวยงามน่ารักถูกจัดจนเป็นระเบียบสวยงาม ตอนมาที่นี่นึกย้อนกลับไปที่ตลาดเก่าที่ลำปางที่ไร้นามเติบโตมา ตึกมอๆ ซอๆ แต่พอกลับไปเยี่ยมคราก่อนกลับกลายเป็นถนนคนเดินกาดตองก้า อันสวยงามไปซะแล้ว การเวลาพาสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปจริงๆ



พลาดพลั้ง
พาพบ
พาลภัย




เสร็จจากย่าน China Town เราก็กลับไปเดินแถว Albert Mall (Waterloo Street) ถนนคนเดินที่คึกคักพอควร เพื่อไปไหว้พระทั้งวัดแบบอินเดีย (Sri Krishnan) และวัดเจ้าแม่กวนอิม (Goddess of Mercy) ที่ห้ามถ่ายภาพเลยไม่มีภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ชม พิธีการไหว้ที่วัดนี้แปลกพอควรคือต้องหันหน้าเข้าหากำแพงแล้วไหว้ (ที่กำแพงมีภาพปูนปั้นนูนต่ำรูปเจ้าแม่กวนอิมสวยงามมากๆ เสียดายที่มิอาจเก็บภาพมาให้ชมได้)



กาลกลาย
กลับกล้า
กีดกั้น




ภาพสองอันบนเป็นวิวรอบๆ ที่พบเห็นได้ในสิงค์โปร์ ดูไปรษณีย์ Artๆ ที่ดูแทบไม่ออกเข้ากับการเล่นสีสันของตึกในเมืองที่สดใสตัดกันไปมา และก็สาวๆ ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นขาสั้นเสื้อสายเดี่ยว/แขนกุด เพราะสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวกว่าบ้านเรานัก ภาพด้านล่างเป็นชายหาดเทียมที่ทางรัฐบาลสิงค์โปร์สร้างเงินด้วยอำนาจเงิน ด้วยสิงค์โปร์เป็นเกาะที่ชายฝั่งเป็นทะเลน้ำลึก (สังเกตจะเห็นเรือลำใหญ่อยู่เต็มรอบเกาะ)



งงงัน
เงินงาม
งานง่าย




ตกบ่ายพวกเราก็ไปเกาะ Sentosa กัน ขาไปพวกเราไปกันทาง Cable Car หวาดเสียวทีเดียว (ตอนออก) เป็น Cable Car ที่ยาวมากจนรู้สึกได้ว่าประเทศเค้านี่ช่างรวยจริงๆ สร้างอะไรๆ ขึ้นมาก็ได้ทั้งๆ ที่ประเทศก็เล็กนิดเดียว ไปถึงก็ไปดู 4D ตามด้วยไปนั่ง tower หมุนๆ 360 องศาชมวิวประเทศสิงค์โปรซึ่งถือว่าคุ้มทีเดียวเพราะมีเสียงบรรยายทิวทัศน์ได้ละเอียดเห็นหลายๆ อย่างน่าสนใจดี



โดดเด่น
ดุจดาว
เดียวดาย




สินค้าที่นี่ค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับบ้านเรา (ค่าครองชีพสูงกว่า) จำได้ว่าตอนจบปริญญาโทใหม่ๆ มีบริษัทที่สิงค์โปร์พยายามตามตัวไร้นามมาทำงานที่นี่ จำได้ว่าหัวหน้าที่สัมภาษณ์งานแสนใจดีบอกว่าถ้ามาก็อย่าเบื่อนะประเทศสิงค์โปร์น่ะเล็กๆ แต่ก็มีอะไรให้ทำเยอะแล้วก็ส่ง Link websites ท่องเที่ยวสิงค์โปร์มาให้อ่านใหญ่น่ารักทีเดียว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปทำงานกับเค้าเพราะตัดสินใจเรียนต่อปริญญาเอก (ตอนจบเอกก็ไม่ได้ติดต่อไปเพราะทำงานต่อที่อังกฤษเลย แหะ แหะ)



ทิ้งท้าย
ท้อแท้
ทุกข์ทน




แล้วก็เที่ยว Underwater World ดูการให้อาหารปลาฉลาม จับปลาเล่น ฯลฯ แต่โดยรวมถือว่ายังไม่ค่อยประทับใจด้วยคาดหวังมากไป เด็กๆ ไร้นามเคยไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ Montarey แล้วประทับใจมาก โดยเฉพาะห้องแมงกระพรุนเรืองแสงมากมายว่ายไปมาพบเพดานเต็มห้องที่เป็นภาพอันตรึงตรา ตั้งแต่นั้นมาถ้ามีโอกาสก็จะแวะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีที่ไหนประทับเท่า Montarey เลย (วันก่อนเจอรุ่นน้องที่รู้จักกันที่ฮ่องกงมากระซิบว่าที่ Montarey น่ะสวยจริงๆ เค้าก็เที่ยวมาหลายที่แล้ว ^^') หลังจากนั้นพอคล้อยเย็นพวกเราก็ไปชมการแสดง Song of the Sea อันตระการตาน่าประทับใจทีเดียว...



จริงจัง
เจตน์จาร
จากใจ




สวยใส
สรรเสก
สรวงสน




รื่นเริง
เรื่องราว
ร้าวรน


ปล่อยปรน
ปลดเปลื้อง
เป็นไป



Create Date : 25 มิถุนายน 2550

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค...

Bhutan #1

ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ลมหายใจฟาดผ่านท้องนภา สร้างเมฆาลงมาปกพื้นดิน ให้จิตจินต์เกินกว่าพร่ำรำพัน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ฉันเลยชวนคุณแม่ไปหาที่พักผ่อนร่างกายในดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า (ประเทศภูฏาน) ที่ๆ อากาศน่าจะดีกับสุขภาพเพราะอยู่ในปุยเมฆที่ศาสตร์ทางจีนเชื่อว่าเป็นลมหายใจมังกร เมื่อนกยักษ์บินโฉบผ่านเทือกเขา ก็เห็นเงาสะท้อนภาพสุขสันต์ เทือกเขาเขียวหมอกสีขาวนับอนันต์ เป็นของขวัญธรรมชาติในแดนดิน สนามบินแห่งชาติพาโร เป็นสนามบินที่ได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุด ตอนแรกฉันแปลกใจที่คุณกัปตันจอดเครื่องบินรออยู่ที่ประเทศบังคลาเทศอยู่นานหลายชั่วโมง แต่แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อเครื่องบินกำลังจะบินลงสนามบินและเห็นปีกเครื่องบินเฉียดเทือกเขาหิมะลัยฝ่ามวลเมฆลงจอดในพื้นที่เล็กๆ ที่เค้าบอกว่าเป็นที่กว้างที่สุดในภูฏาน (เลยมาทำสนามบินนานาชาติ) ดังภาพประกอบด้านบนๆ สายน้ำสีมรกตระรินไหล ผ่านพงไพรก่อเริ่มเกิดทรัพย์สิน ให้ผู้คนบนเขาเข้าทำกิน ตั้งฐานถิ่นนานมาจนน่าชม ประเทศภูฏานมีภูเขาสีเขียวๆ ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมดเยอะมาก ภาพด้านบนๆ ที่ไม่ค่อยมีต้นไม้คือบริ...