Skip to main content

เมืองโบราณ 2008


ร่องรอยบุราณ
ปีผ่านเลยไป
รอยร้าวรานใด
ปลดใจให้ลืม



ผ่านไปหนึ่งปีไม่น่าเชื่อฉันได้กลับมาที่ "เมืองโบราณ" อีกครั้งอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว ภาพเก่าๆ ที่เคยมาที่นี่สองคนกับแฟนเก่าสมัยยังหวานๆ กันอยู่เมื่อปีที่แล้วก่อนที่ฉันจะทราบเรื่องน้องอีกคนก็ย้อนกลับมาทำให้คิดถึงวันคืนดีๆ ของพวกเราพอควรตลอดเวลาที่เที่ยวที่นั่น แต่งานนี้ก็ต้องขอบคุณเพื่อนแสนดี ที่ชวนไป เพราะจะทำให้ฉันไม่ต้องกลัวการมาเมืองโบราณในคราวหน้าเพราะต่อไปคงมีแต่ภาพขำๆ ของพวกเราเต็มไปหมดแทน (อิอิ)


ภาพเก่าเงาเอย
ที่เคยหลงปลื้ม
อาจหวานดูดดื่ม
เพียงยืมเงาลวง



บางทีคนเราก็ไม่ต้องการอะไรมากมายในชีวิต แค่เวลาพักผ่อนเล็กๆ กับงานอดิเรกที่ชอบ กับเพื่อนดีๆ ที่รู้ใจสักคน กับบรรยากาศสบายๆ ก็ทำให้มีความสุขได้ ฉันคิดว่าถ้าปีนี้ฉันต้องมากับแฟนเก่าสองต่อสองแบบปีที่แล้ว แทนที่จะสุขใจแบบปีที่แล้ว ฉันคงรู้สึกอึดอัดใจไปแทน ฉันมักจะโทษว่าเค้าเปลี่ยนไป แต่จริงๆ แล้วก็เป็นฉันเองที่เปลี่ยนไปเหมือนกัน ช่วงนี้ฉันเหมือนจะสะเทือนอารมณ์เล็กน้อยเพราะเห็นแฟนใหม่ของเค้าลืมตัวไปว่าได้ทำอะไรฉันมาบ้าง ถึงขนาดเที่ยวเล่าโน่นเล่านี่ให้คนในกลุ่มเพื่อนของฉันฟังแล้วย้อนกลับมาหาฉัน ทั้งๆ ที่เค้าน่าจะทราบดีว่าความสัมพันธ์ของพวกเค้านั้นสร้างขึ้นมาจากน้ำตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่เค้าทำลายความสัมพันธ์หกปีของพวกเราไป ฉันไม่ว่าอะไรที่เค้าแทรกเข้ามา ความรักมักทำให้คนเราทำอะไรไม่ยั้งคิด (รวมทั้งฉันเอง) แต่สิ่งที่ฉันเสียใจคือในฐานะคนที่ยังอยู่ในกลุ่มเพื่อนเดียวกันเค้าน่าจะเกรงใจกันบ้าง แต่นั่นแหล่ะ ถ้าฉันไม่เอามาใส่ใจหรือลืมเลือนเรื่องราวเลวร้ายเหล่านั้นไปได้ ฉันคงจะแข็งแกร่งดุจหินผา (เหมือนที่เค้าเข้าใจผิด ยังจำได้ไม่หายที่น้องใหม่ของเค้าเมล์มาหาฉันแบบใสซื่อตอนที่ผิดหวังอะไรเพียงเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันไม่เคยเข้าใจว่าจะเมล์มาปรึกษาฉันทำไมว่า "How can you get rid of the pain ka?" เค้าจะรู้ไหมว่าความเจ็บปวดที่เกิดจากเค้าทำฉันเองนั้นมันยังไม่หาย แล้วฉันก็ต้องนั่งกัดฟันเขียนเมล์ปลอบใจน้องเค้าไปด้วยความเป็นรุ่นพี่) ฉันไม่อยากให้มีอะไรมาสั่นคลอนอารมณ์ให้อ่อนไหว หวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้มแข็งพอเท่าตอนที่ตัดสินใจบอกเค้าว่าไม่ต้องโทรศัพท์มาหา... หวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้มเข็งพอเท่าตอนที่ตัดสินใจบอกเค้าว่าฉันจะไม่ขึ้นรถเค้า... หวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้มแข็งพอเท่าตอนที่ตัดสินใจบอกเค้าว่าให้ไปดูแลน้องคนใหม่ของเค้าดีๆ อย่าติดต่อฉันมาอีก... พรุ่งนี้... ฟ้าต้องสดใส!


คนเอยพอหลง
แสนปลงน่าห่วง
เริงโลกหลอกลวง
เย้ยช่วงชิงชัย

จึงควรจากมา
ถือสาหาไม่
ท่องไว้อภัย
ปล่อยใจเบาบาง

กางปีกออกบิน
ชมถิ่นโลกกว้าง
ปลดปล่อยทุกอย่าง
ทราบวางทุกข์คลาย



Create Date : 11 ธันวาคม 2551

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...