Skip to main content

Fribourg



เดินทางไกล
ไปตามฝัน
อีกครั้งหนึ่ง




ปีนี้ตัดสินใจบินเดี่ยวไป Switzerland ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนๆ หลายๆ คน (รายละเอียดว่าไปเยี่ยมใครบ้างลงไว้ใน facebook นะคะ) ทริปนี้มีเมืองหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในแผนแต่ต้นแต่มีลูกน้องเก่าอยู่เลยลองแวะไปดูคือเมือง Fribourg ซึ่งกลายเป็นเมืองที่ชอบที่สุดของทริปนี้



เพื่อให้ถึง
ซึ่งที่หวัง
ครั้งวันเก่า




ตอนแรกนึงว่าเมือง Fribourg จะเป็นเมืองเล็กๆ ปรากฏว่าเป็นเมืองใหญ่มากๆ ขนาด Visitor Center ที่ๆ นัดเจอน้อง (ภาพด้านบน) ก็ทั้งใหญ่โต ทั้งอลังการ ข้างในมีเอกสาร แผนที่ฟรีแจกเต็มไปหมด ประทับใจตั้งแต่ก่อนเที่ยวเลยทีเดียว



ย้อนรำลึก
ที่นึกไว้
ใช่เพียงเงา




ภาพข้างบนเป็นภาพจาก The Cathedral of St. Nicholas พอไปถึงปุ๊บน้องชวนเดินขึ้นไปชมวิว บรรไดสามร้อยกว่าขั้นเอง เดินขึ้นหอบแฮกๆ (ข้าพเจ้าไม่ฟิต) พอไปถึงข้างบนพบว่า... สวยๆ มากๆ คุ้มค่าที่เดินขึ้นมา ที่สำคัญคือมาเที่ยวเมืองนี้เมืองแรกๆ หลังจากนั้นรู้สึกสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาทันที



กำนัลเข้า
ความทรงจำ
นำรื่นรมย์




วันที่เดินทางมาโชคดีมากที่อากาศดี ท้องฟ้าเปิด (ก่อนหน้านี้หนึ่งวันคือวันที่บินมาถึงใจหายเพราะเจอฝนตกพรำๆ) ถือว่าโชคดีทีเดียว ทำให้เห็นวิวเมืองสวยๆ ดังภาพที่ถ่ายมาทำ blog อารมณ์เมืองนี้ตอนเดินเที่ยวแล้วคล้ายๆ สมัยอยู่เคมบริดจ์ สถาปัตยกรรม Gothic ตึกเป็นหิน ถนนตัวเมืองเก่าก็เป็นหินๆ ชอบมากมาย



แล้วอิ่มเอม
เปรมอิ่มใจ
ใส่ความสุข




พอเดินเสร็จเหนื่อยๆ น้องเดียร์ ก็ชวนข้าพเจ้ามากินอาหารท้องถิ่นสวิสแท้ๆ ที่ร้าน Traditional: Café Du Gothard คือ... ฟองดูว์ อารมณ์คือเอาโน่น-นี่จุ่มชีสอร่อยมากๆ ปิดท้ายด้วยขนมท้องถิ่นอีกอันจำชื่อไม่ได้แต่เป็นขนมที่อร่อยมากๆๆๆ ถ้าไม่อิ่มคงเบิ้ลอีกจาน มาเที่ยวกับเจ้าถิ่นนี่เป็นเรื่องดีจริงๆ



สิ่งสนุก
ทุกทุกอย่าง
ช่างสุขสม




พอทานของคาวเสร็จ เดินเล่นในย่านเมืองเก่าอีกนิด น้องเดียร์ก็พาไปทานกาแฟร้านดัง Café Belvedere ทางเข้าหน้าร้านอยู่ในซอนถนนเลขๆ อันนี้ พอเข้าไปพบว่า มีระเบียงเปิดขนาดใหญ่ โต๊ะเต็มไม่มีที่นั่ง ต้องขอไปนั่งกับคนอื่นก่อนรอจนได้โต๊ะว่าง เพราะวิวสวยมากๆ คือวิวเป็นไปตามภาพข้างล่างเลย บรรยากาศดีมาก



ดั่งรวมเอา
คลุกเคล้าเข้า
จนกล่อมกลม




มาสวิสแล้วอยากมาเดินสะพานไม้ตามภาพข้างบน จริงๆ อยากไป Luzern เพิ่อไปดูสะพานไม้แบบนี้แต่จัดตารางไม่ลงตัว ปรากฏว่าได้มาเห็นสะพานไม้แบบนี้ที่ Fribourg เห็นเค้าบอกว่ามีแบบนี้สามเมืองเท่านั้นโชคดีจัง สะพานใหญ่พอสมควรรถวิ่งข้างได้ ข้างล่างเป็นภาพตาน้ำที่มีเป็นระยะ ทั่วเมือง อันนี้ตอนรอขึ้นรถบัสเห็นอยู่ใกล้ๆ เลยถ่ายรูปรอ



ขอชื่นชม
ถิ่นเมืองเก่า
เคล้าตำนาน





Create Date : 26 พฤศจิกายน 2561

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห