Skip to main content

Bern



มรดกของโลกรักษาไว้
สถิตให้คงอยู่อย่างสร้างสรร
จากรุ่นก่อนสู่รุ่นใหม่ด้วยมุ่งมั่น
เป็นการปันปัญญาค่าควรเมือง




เมืองหนึ่งในประเทศสวิสที่ข้าพเจ้าตั้งใจไปเยี่ยมชมคือเมือง Bern เพราะตัวเมืองเก่าของที่นี่ได้เป็นมรดกโลกของ UNESCO World Heritage ครั้งนี้โชคดีมากๆ คือไม่ต้องมาเดินชมผิดๆ ถูกๆ คนเดียว แต่ได้น้องเดียร์ผู้เชี่ยวชาญพาเดินเที่ยว ทำให้เป็นการเดินชมมรดกโลกที่สนุกสนานมากๆ



สลักลายเส้นสายเรียงรายหิน
บนแผ่นดินถิ่นทางวางต่อเนื่อง
ค่อยค่อยสร้างจนเติบใหญ่จนรุ่งเรือง
สะท้อนภาพความปราดเปรื่องปราชญ์บุราณ




ตัวเมืองเก่าของ Bern เป็นเมืองที่ดูเคร่งขรึมระดับหนึ่ง อาจจะเพราะอยู๋โซนเยอรมันสวิสและสถาปัตยกรรมเป็นหินๆ ที่วางเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนเมืองเก่าเป็นเส้นตรงสานกันเป็นตารางตาข่ายเป๊ะๆ ถนนกว้างขวางแบบรถรางวิ่งสวนได้สบายๆ แสดงถึงความเจริญที่สร้างบนการออกแบบที่วางแผนมาดี แต่ส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าชอบเมืองเก่าที่ถนนเหมือนมีประวัติค่อยๆ ขึ้นแบบไม่มีแบบแผนมากกว่าก็เลยชอบ Fribourg มากกว่า Bern นิดนึง



สมศักดิ์ศรีเมืองเก่าเฝ้าดูเถิด
ทุกสิ่งสร้างอย่างประเสริฐจากรากฐาน
จารจารึกผ่านคืนวันย้ำตำนาน
ของก่อนกาลให้ได้เห็นจนรุ่นนี้




จุดที่สำคัญของเมือง Bern นอกจากตัวเมืองเก่าแล้วก็คือการมาดู "น้องหมี" ภาพข้างบนคือสวนริมแม่น้ำที่น้องหมีอยู่ สวนนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามจากตัวเมืองเก่า การเดินไปก็จะข้ามสะพานแล้วอาจจะได้เห็นน้องหมีอยู่ไกลๆ (ซึ่งมีในภาพตัวเล็กๆ เวลาดูไกลๆ) พอเดินไปดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าตัวใหญ่เลยตามภาพข้างล่าง



เมืองน้องหมีที่ผู้คนอนุรักษ์
คอยปกปักษ์พิทักษ์ไว้ในถิ่นที่
สร้างกำแพงกว้างใหญ่อย่างเข้าที
ทุกสิ่งดีมอบไว้ให้ด้วยใจ




จากบ่อหมี (Bear Pit หรือภาษาเยอรมันเรียกว่า Bärengraben) น้องเดียร์ชวนเดินออกกำลังกายอีกครั้ง เดินต่อข้ามถนนไปขึ้นเขาไปชมวิวเมืองเก่าทั้งเมืองจาก Rose garden โดยจังหวะที่ไปคือใกล้ๆ ตอนเย็นเลยได้เจอผู้คนมากมายขึ้นมาชมวิวพระอาทิตย์ตกพอดี



อากาศใสท้องฟ้าโปร่งโชคดีนัก
ถึงเดินไกลก็ไม่พักอดทนไหว
ค่อยๆ เดินขึ้นเขาเราก้าวไป
จนสูงได้เห็นวิวเมืองประเทืองจินต์




บน Rose Garden มีกุหลาบเยอะมาก (ตามภาพข้างบน) ทำให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่ในบรรยากาศ ที่สำคัญคือสามารถขึ้นมาชมได้ฟรี เป็นจุดที่ถ้าใครไปเมือง Bern แนะนำเลยนะคะ ที่นี่มีร้านอาหารด้วย แต่คนเยอะเลย ด้วยความที่เดี๋ยวต้องเดินทางไปเมือง Interlaken ต่อเลยไม่ได้กินที่นี่



สนธยามาเยือนอีกคราหนึ่ง
สร้างภาพงามตราตรึงซึ้งทั่วถิ่น
ให้ได้เห็นเช่นสวรรค์บนผืนดิน
แต้มประทินประทับไว้ในทรงจำ




ทริปนี้ถ่ายภาพคนเยอะ เลยหาภาพวิวมาทำ blog ยากหน่อย (คือตัวเมืองมีจุดให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ) ภาพนี้เป็นจังหวะที่เดินเรียบทางริมน้ำเผื่อชมวิวและถ่ายรูปกัน และก็ต้องพยายามหาจุดที่ไม่ค่อยมีคนถ่ายรูปหน่อย (ด้านหลังจะเป็นสวนแล้วคนเยอะมาก ออกมา drink กันในสวน)



ราตรีแล้วฟ้าสีฟ้าเข้มงามงด
ภาพสีสดจนชวนให้ดื่มด่ำ
เสียดายหนอมิได้มีสุราร่ำ
ได้แต่พร่ำกวีไว้ให้จรดจาร




ช่วงที่มาสวิสนี้เป็นช่วงที่พระอาทิตย์ตกประมาณทุ่ม-สองทุ่ม ก่อนจะมืดท้องฟ้าจะสวยทีเดียว (ดังภาพข้างบนและข้างล่าง) ที่ Bern มีการส่องไฟตามตึกสถาปัตยกรรมที่สำคัญ ข้าพเจ้ากับน้องเดียร์รีบวิ่งไปดูนาฬิกา (ภาพบนสุด) ตอนทุ่มนึงว่าจะมีอะไรแสดงบ้าง ก็มีเล็กน้อยเห็นตุ๊กตาออกมาตีนาฬิกาข้างบนกับผู้คนยืนรอถ่ายรูปเต็มไปหมด 555



อำลาแล้วกรุงเบิร์น ณ ครานี้
แสนยินดีที่ด้วยความฝันนั้นทอสาน
ทั้งได้เที่ยวกับเพื่อนเก่าในวันวาร
ทั้งได้มองย้อนห้วงกาลผ่านภาพจริง





Create Date : 05 ธันวาคม 2561

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห