Skip to main content

สมการความรู้สึก

ไม่รู้ว่าทุกคนคิดเหมือนฉันไหม? ฉันคิดว่าเรื่องราวที่วุ่นวายอันหนึ่งของชีวิต ที่ยากกว่าตำราเรียน หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็คือเรื่อง "ความรู้สึกของคน" คือคนเราไม่สามารถใส่สมการ หรือ Inputs อะไรเข้าไปให้คนอื่น เพื่อให้คนอื่นทำ Outputs ตามที่เราต้องการได้ (หรือบางคนอาจจะทำได้... แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ)

มีตำราเล่มหนึ่งที่ฉันเคยอ่านเค้าเขียนเรียบง่ายแต่โดนใจว่า "คนเราจะไปควบคุมความรู้สึกคนอื่นได้อย่างไร ถ้ายังควบคุมความรู้สึกของตนเองไม่ได้" (จริงๆ เป็นหนังสือแนวตามรู้ดูจิต สอนง่ายๆ ประมาณว่า จิตมีไว้ให้รู้ อย่างถ้าจะไปบังคับมันให้นิ่งก็เป็นเรื่องไม่ถูกเพราะไม่ใช่ธรรมชาติของมัน... เพราะจะได้เห็นแค่สภาพจิตถูกบังคับให้นิ่งก็เท่านั้นเอง... อุ๊บส์ เริ่มเป็นแนวธรรมะ เดี๋ยวผู้อ่าน จะหลับเสียก่อน /เปลี่ยนแนวๆ)

กลับมาเป็นแนวทางโลกบ้าง ฉันสังเกตุมาหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่อง "สมการความรู้สึก"... คนเราหลายคนมักจะหลงเข้าใจผิดว่า สมการความรู้สึก (feeling) จะเป็นอะไรที่ง่ายๆ เหมือนสมการของแรง (force) ที่ว่าตามกฏของ Newton

Action=Re-action (ใน Domain ของ Force: สมการคือ f=-f หรือแปลเป็นไทยได้ว่า แรงกิริยา=แรงปฏิกิริยา)

แต่มันก็ดูจะเป็นไปไม่ได้กับ Feeling ไม่งั้นคงไม่เกิดสถานการณ์ที่เห็นได้โดยทั่วไปว่า บางคนทำดีกับอีกคน แต่กลับไม่ได้รับการทำดีตอบ หรือบางคนทำไม่ดีกับอีกคนแต่อีกคนก็ยังทำดีตอบ (โดยตัวแปรที่ทำให้ปฏิกิริยาเป็นอย่างนั้นคือความรู้สึกของแต่ละคนนะเอง) ดังนั้น:

Action <> Re-action (ใน Domain ของ Feeling)

สรุปได้ว่า (ตามแนววิทยาศาสตร์) Feeling <> Force นะเอง
แปลเป็นไทยได้ว่าความรู้สึกไม่ได้เป็นเหมือนแรง ไม่ได้เป็นอะไรที่คนเราจะมาบังคับให้มีปฏิกิริยาจากกิริยากันได้่ง่ายๆ

และฉันก็คิดเล่นๆ ว่าถ้าค้นพบสมการความรู้สึกได้ คนๆ นั้นคงได้ Nobel Prize กระมัง (อาจจะสาขา Peace ^^)...


ภาพประกอบ: ภาพกามเทพที่บังคับความรู้สึกคนได้ (งานศิลป์ผสม ดีด-สี-ตี-เป่า บนเพดานในพระราชวังพญาไท)

หากจะหาสมการแห่งความรัก
จารสลักสูตรใส่ไม่มีสิ้น
อาจพบเพียงสูตรลวงบ่วงคุ้นชิน
ต่างชีวินพบทักรู้จักเจอ

จนใจแกร่งแย้มยิ้มอิ่มใจอุ่น
รู้สร้างบุญหนุนตรงส่งเสมอ
ยามไม่หวังสิ่งลวงหลงปลงละเมอ
อาจพบเจอสิ่งดีงามยามสมควร


@^_^@ 


Create Date : 19 มีนาคม 2555

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห