Skip to main content

Nara


เมื่อโลก
เป็นมิตร
ก็เปิดกว้าง...


เมืองนารา (สังเกตุว่าคนญี่ปุ่นจะออกเสียงว่านาระมากกว่าแต่ขอเขียนตามที่คนไทยเรียก) เป็นเมืองที่พิเศษอย่างหนึ่งคือให้กวางอยู่อย่างอิสระและห้ามทำร้ายกวาง เวลาเดินเล่นจะเห็นน้องกวางอยู่เต็มไปหมดตรงโน้นตรงนี้พร้อมป้ายเตือนเล็กน้อยว่าน้องกวางเป็นสัตว์ป่าให้ระมัดระวัง แต่น้องๆ หน้าตาใสซื่อมากๆ และถ้าเรามีขนมน้องกวางก็จะพากันเดินมามองตาแป๋วน่ารักเลย



ที่แตกต่าง
ก็อยู่ร่วม
อย่างอบอุ่น



ทริปคราวนี้บินข้ามฟากจากโตเกียวมาฝั่งนี้เลย เพราะอยากมาเมืองนาราด้วย เพราะเป็นเมืองมรดกโลกเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้มรดกโลกทางวัฒนธรรมหลายจุดไม่ว่าจะเป็นวัดโฮเรียวจิ (ภาพด้านบนก่อนบทกวีท่อนที่สอง) ที่เป็นสถานที่ ที่ได้มรดกโลกแห่งแรกที่ญี่ปุ่นหรือโซนเมืองโบราณทั้งเมืองของนารารวมทั้งฝืนป่าอุทยานแห่งชาติที่ร่มรื่นใกล้ตัวเมืองมากๆ วันที่ไปเที่ยวนาระ (2 วัน 1 คืน) คือได้พบทั้งอากาศสดชื่นและช่วงฝนตกที่มีบรรยากาศแตกต่าง (ภาพข้างบนถ่ายตอนฝนตก)



ความเรียบง่าย
และงดงาม
เป็นต้นทุน




การมาพักที่นาราคราวนี้มาพักที่เรียวกังอีกเช่นเคยด้วยเคยประทับใจการไปพักเรียวกันที่เมืองเกียวโต และก็ไม่ผิดหวัง ประทับใจอีกครั้งกับการพักแนววัฒนธรรมห้องแบบญี่ปุ่นโบราณ มีชุดแนวญี่ปุ่นให้ใส่ มีอ่างน้ำร้อนออนเซ็น มีอาหารมื้อเย็น และ มื้อเช้าแบบญี่ปุ่นที่ค่อยๆ เอามาเสริฟอย่างตั้งใจให้ได้ทาน ถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นก็แนะนำว่าอย่าพลาดประสบการณ์พักที่เรียวกังนะคะ



คอยเกื้อหนุน
ให้กลมเกลียว
เกินบรรยาย



อาหารของเรียวกังที่นี่มีอันนึงที่ประทับใจในความแปลกคือ ชาบูในหม้อกระดาษที่ต้มน้ำซุปด้วยเปลวไฟอยู่ข้างใต้ ตามรูปข้างบน อาหารเสริฟหลายอย่างมากจนบรรยายไม่หมดเลยเอาแค่บางส่วนมาลง เรียวกังที่พักอัทยาศัยดีมากอยู่บนเขาในอุทยานแล้วมีรถมาคอยรับ-ส่งเข้าตัวเมือง



สิ่งที่เห็น
ช่างสวย
ดั่งภาพวาด



ด้วยความที่มีเวลา เลยตัดสินใจเดินรอบๆ ย่านเก่าๆ ของเมืองนารา ขึ้นเขาไปดูวิวบนวัดมรดกโลกต่างๆ เดินตามตรอกซอกซอยจนได้เจอคนนั่งวาดรูปสวยมาก ตามภาพด้านบน เมืองนี้เงียบๆ เรียบร้อยกว่าเกียวโต และ ที่น่ารักเลยคือมีน้องกวางให้เห็นเป็นระยะๆ ภาพข้างล่างคือน้องกวางแม่-ลูกแต่ไม่ได้เข้าไปใกล้เพราะน้องกวางจะระแวดระวังให้น้องกวางน้อยเลยถ่ายภาพจากใกล้ๆ




...

แต้มแต่งชาติ
จากบุราณ
สร้างความหมาย

ผ่านคืนวัน
ยังคงค่า
ด้วยเรียบง่าย

สานสืบสาย
ดั่งร่ายมนต์
ให้คนมอง


 

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห