Skip to main content

Melbourne #1


วิจิตรงามงานศิลป์ช่างสรรสร้าง
เป็นรูปร่างประดิษฐ์อยู่คู่เมืองใหญ่
ให้จดจารสีสันบรรเจิดใจ
ด้วยได้ยิ้มพิมพ์ใจยามมองชม



เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนเคมบริดจ์แสนดีที่เมลเบิร์นเมืองสวยๆ อีกเมืองหนึ่งที่ออสเตรเลีย โชคดีมากๆ ที่วันที่ฉันเที่ยวเป็นวันที่ท้องฟ้ามีแดดสวยๆ ทำให้ถ่ายรูปได้สวยโดยไม่ต้องใช้น้อง GIMP แต่งสีอะไรนอกจากลงชื่อและทำกรอบ ^^


อุ่นไอแดดสาดแสงจากห้วงฟ้า
ปุยเมฆาลอยฟูคู่ห่อห่ม
สร้างภาพงามยามยลจนนิยม
น่ารื่นรมย์เกินกว่าจะบรรยาย



มาเริ่มบรรยายภาพกันดีกว่า ภาพด้านบนสุดเป็นภาพสถานีรถไฟ Flinders Street Station สีเหลืองๆ แดงๆ ตัดกันสดใสมากๆ กับท้องฟ้าสีฟ้า มุมที่ถ่ายภาพบนสุดเป็นมุมเงยหน้าถ่ายตอนกำลังเดินข้ามถนนเพราะเป็นจังหวะที่ภาพสวยมาก (ถ่ายแบบกดแชะแล้วเดินต่อ)


ขอเขียนบรรยายต่อแทนการสลับด้วยบทกวีหน่อยนะคะ เพราะเมลเบิร์นมีอะไรที่อยากบรรยายเยอะพอควร คือภาพที่สามจากข้างบนคือภาพบริเวณที่ทำงานเพื่อนซึ่งอยู่แถบ CBD: Central Business District ฉันชอบที่ Taxi จอดเรียงๆ กันหน้าตึกกับแดดสวยๆ เลยถ่ายภาพมาให้เพื่อนๆ ชมกันซักหน่อย


ภาพที่สี่จากข้างบน (คำบรรยายภาพอยู่ห่างจากภาพเล็กน้อย แต่การทำ blog จะสดๆ <= เจ้าของ blog ขี้เกียจแก้ ก็เอาแบบนี้ละกันนะคะ) ภาพที่สี่จากข้างบนเป็นภาพมื้อเช้ามื้อแรกที่ร้านอร่อยขนาดต้องยืนคิวรอของที่นี่ มีเพื่อนของเพื่อนมาช่วยยืนจองให้ทำให้ฉันรู้สึกซึ้งใจนัก การเที่ยวครั้งนี้ทำให้ฉันได้รู้จักคนเยอะมากๆ เพื่อนๆ ของเพื่อนๆ และน้ำใจของผู้คน


ในที่สุดก็เขียนคำบรรยายทัน เพราะภาพหลายๆ ภาพจากบริเวณข้างบนถึงตรงนี้คือภาพจาก Shrine of Remembrance ที่พวกเรานั่งรถรางกันไปตามถนนสายหลักที่ชื่อว่า St. Kilda Road สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานทหารผ่านศึกในสงครามต่างๆ ที่ออสเตรเลียส่งทหารเข้าไปช่วย ที่นี่จัดทำได้สวยงามสงบและมีวิวตัวเมืองเมลเบิร์นสวยๆ ให้พวกเราได้ตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ชม


ต่อจากนั้นพวกเราก็ไปเดินชมสวน Royal Botanic Garden ที่อยู่ใกล้ๆ สวนมีขนาดใหญ่ทีเดียว โชคดีที่วันที่ไปเที่ยวเป็นวันที่อากาศดี การเดินเล่นในสวนเลยทำให้ได้มีความทรงจำดีๆ กับท้องฟ้าสีฟ้า กลิ่นดินกลิ่นหญ้า อากาศเย็นๆ และไอแดดอุ่นๆ ทุกอย่างลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ


กลิ่นดินกลิ่นหญ้าพาใจชื่น
ระเริงรื่นตื่นตาเกินจิตหมาย
เกินจะเขียนบทกวีเข้าบรรยาย
ความสบายร่ายมนต์พ้นรสคำ



ตกบ่ายพวกเราก็เข้าไปเดินเล่นพร้อมหาอะไรอร่อยๆ ทานกันในเมือง ถนนคนเดินที่นี่น่ารักนักบรรยากาศทำให้ฉันหวนนึกถึงถนนคนเดินที่กรุงสต๊อกโฮมบอกไม่ถูก เจอนางแบบกำลังถ่ายแบบ เจอผู้คนนั่งทานโน่นทานนี่อยู่ริมทาง... ทำให้ฉันรู้สึกว่าเมืองนี้ "มีชีวิต"


เมื่อยลดูก็ทราบถึงชีวิต
ร้อยรวมจิตวิญญาณให้ดื่มด่ำ
ด้วยรอยยิ้มเสียงหัวเราะเสนาะจำ
พาน้อมนำให้ขับขานกานต์กวี



อาหารที่นี่อร่อยมากเพราะฉันมากับเพื่อนๆ ที่รู้ว่าร้านไหนอร่อย เพื่อนๆ พาฉันไปที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีคนแน่นขนัด ขนาดฉันเข้าไปนั่งดื่ม Hot Chocolate กับหม่ำ Cheesecake ยังประทับใจมากมาย ทั้งความประณีตบรรจงของร้านที่ตั้งใจทำมาและบรรยากาศสบายๆ ของสถานที่รอบๆ


ห้องสมุดประชาชนยลดูเถิด
สร้างประเสริฐเปิดความรู้คู่ศักดิ์ศรี
คนเนืองแน่นเข้าค้นคว้าหาใดมี
เป็นสิ่งดีที่ควรรักษ์สลักจาร



สิ่งที่ฉันประทับใจอีกอย่างในทริปนี้ก็คือห้องสมุด State Library of Victoria ที่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ในตัว (ดั่งรูปด้านบน) ห้องสมุดมีหลายโซนตั้งแต่งานแสดงตาม Event ด้านนอกที่ตอนไปเป็นงานแสดงภาพการ์ตูนเด็กๆ ลายน้องเป็ดที่คุ้นๆ ตา (แต่ลืมถ่ายภาพมา ^^') ส่วนด้านในโถงแรกเป็นห้องสมุด Electronics ที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งเต็มไปหมดพร้อม Free Internet 15 นาที (แต่ฉันไม่ได้ลองไปนั่งเล่นเพราะไม่มีเวลา) ชั้นบนเป็นห้องสมุดหลายๆ โซนที่โต๊ะอ่านหนังสือจะมีที่ให้ใช้ Notebook มีที่เสียบปลั๊กและโคมไฟอย่างดี ฉันเห็นทุกคนที่มาอ่านแทบจะมี Notebook หรือไม่ก็ iPad มาด้วย แล้วก็โซนข้างบนที่เป็นพิพิธภัณฑ์สวยๆ มีความรู้เก่าๆ มากมายจัดแสดงไว้ให้ได้เข้าชมกันฟรีๆ


วันอาทิตย์เพื่อนฉันและเพื่อนของเพื่อนช่วยกันพาฉันไปเที่ยวที่ St Kilda Beach ไปทานอาหารทะเล อร่อยๆ และสัมผัสกับกลิ่นอายของทะเล อากาศวันอาทิตย์ก็ดีเช่นเคยท้องฟ้าสีฟ้าสดใสกับอากาศเย็นๆ ทำให้เดินเที่ยวได้อย่างสบายใจ ภาพข้างล่างเป็นภาพชายหาดแห่งหนึ่ง (ที่ฉันลืมชื่อไปซะแล้ว) ที่มีบ้านเล็กๆ หลากสีสันราคาแพงเรียงตัวกันอยู่อย่างสวยงาม


ทริปนี้เน้นกิน-เที่ยว-ช้อปปิ้ง มากกว่าถ่ายรูปเพราะมีเพื่อนๆ เลยเฮฮามากกว่าทริปที่เที่ยวคนเดียว ฉันพบว่าตัวเองชอบทั้งสองแบบ ทั้งแบบเที่ยวคนเดียวดูโน่นดูนี่คิดโน่นคิดนี่เวลาดู หรือแบบที่มีเพื่อนๆ เฮฮาคุยกันชวนกันทำโน่นทำนี่ แต่ด้วยความเกรงใจเพื่อนๆ เลยไม่เอาภาพมาลง blog (ภาพเพื่อนๆ อยู่ใน facebook แทน ^^) ว่าแล้วก็บรรยายภาพข้างล่างต่อว่าเป็นตลาดชื่อดัง Queen Victoria Market


ทริปนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนแสนดีซะและ คุณ Q ที่ให้ที่อยู่อุ่นๆ ห้องน้ำดีๆ ชาอร่อยๆ และเป็นเพื่อนพาเที่ยวมากมายหลายที่อยู่หลายวัน กับเพื่อนของเพื่อนที่ได้ไปสนุกด้วยกัน โดยเฉพาะเจี๊ยบที่พาไปเที่ยวด้วยกันตลอดและแนะนำร้านอาหารอร่อยๆ และเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกมากมายหลายคน (ทอม ดั๊วะ ต่าย คุณพ่อคุณแม่่คุณ Q และ เพื่อนๆ ของดั๊วะอีกสามคน/อัญกับน้องชาย และคุณเชฟร้าน long grain ที่มาสมทบและไปเที่ยวผับด้วยกันคืนวันพฤหัสก่อนวัน Good Friday @^_^@)


อบอุ่นในน้ำใจของมวลมิตร
ให้ชื่นจิตติดตรึงถึงวันหวาน
ด้วยหยิบยื่นสิ่งดีสลักจาร
สร้างตำนานอีกบทลงทรงจำ





Create Date : 06 มิถุนายน 2554

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

หัวหิน

" The best way to predict the future is to invent it. " -- Alan Kay โปรยปรายพรายพร่างฟ้า พริ้มเพราตาเกินหาไหน แพร้วเพริศประเสริฐใจ งามวิไลใฝ่เย็นบุญ วันก่อนไปประชุมประจำปีกับบริษัทที่หัวหิน ระหว่างทางแวะไปทำบุญบริจากข้าวของ ปล่อยปลา ปลูกพืชสมุนไพร ฯลฯ กันที่โรงเรียนเล็กๆ แถบชะอำ ภาพด้านบนเป็นถ้วยไอติมเรียงราย ถ่ายเล่นๆ ระหว่างรอตักแจกเด็กๆ ตกเย็นก็มาถึงโรงแรม Central Sofitel หัวหินจุดหมาย โรงแรมน่ารักสบายๆ เป็นแบบไทยๆ ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ต่างไปจากการประชุมประจำปีที่แล้วที่ Evason ปราณบุรีที่ออกแนว Art แบบหมู่เกาะห่างไกลจากอะไรต่อมิอะไร ซึ่งมีข้อดีข้อเสียและบรรยากาศแตกต่างกันไป ร่มรื่นชื่นไทยแท้ ด้วยเก่าแก่แลเกื้อหนุน โอบล้อมห้อมการุณ จากวันวุ่นสังคมเมือง ห้องที่ได้พักเป็นห้องคู่แต่อยู่คนเดียว เสียดายที่ไม่ได้พาคุณแม่มาด้วย (เพราะเป็นวันเกิดคุณแม่) ด้วยความที่เข้าใจผิดว่าห้ามพาคุณพ่อ คุณแม่มาแบบปีที่แล้ว (ที่ให้มาคนเดียวหรือพาแฟน/ลูกมาได้ ซึ่งไร้นามยังไม่มีทั้งคู่เลยต้องฉายเดี่ยว) จริงๆ แล้ว อยากให้ที่บ้านได้มาพักผ่อนกันบ้างเหมือนกัน แต่ที่บ้านไร้นามไม่ค่อยชอบไปไห