Skip to main content

The Translations

Poetry for Concerto for Flute and Harp in C major k.299 

1. Allegro 

In the spring the sound of your music’s reverberating 
across the twinkling brooks to evergreen mountains 
As if your harp rustled , descending from heaven 
Along thy flute’s singing as lovely Larks 


พอไม้ ผลิ พิณเพลงบรรเลงผ่าน
ร่ายมนต์ธารสะท้อนร้อยดอยภููผา
เสียงขลุ่ยเลาเคล้าแว่วแผ่วเข้ามา
เรียงนภาล้ำค่าพาพรมใจ 



2. Andantino 

I can see the falling leaves writhe in the autumn 
But listen !! behind its cheerfulness ,there is also a chagrin 
Deep In your heart as the shadow of severe winter is beheld 
Life is always intolerable but simply God’s stolen blessing. 


ใบ ร่วง โรยโปรยปลิดพิศดูเถิด
แลสวยเลิศเกิดค่าพาหลงใหล
แต่ลึกลงปลงร้าวเหน็บ หนาว ใจ
ทนท้อไปใครหรือถือชะตา 



3. Rondo, allegro 

Now it is a good time for the vagabond like me to take a rest 
For a short breath , hypnotized in the reverie of scenery 
And then dance with the beauteous soul of your music. 
Along the midsummer night dream. 


ที่จากจรผ่อนพักหนักเหนื่อยหาย
ท้อจักคลายคล้ายเย้าเคล้าหรรษา
แทรกภาพเพริศเลิศลงตรงอุรา
ชวนวิญญา ร้อน ร่าท้าดนตรี 



-- K. กวีพเนจร(English version)
-- ไร้นาม (Thai version)


----------------------------------------------------------------------------------------------------


The Sindarin Hymn

A Elbereth Gilthoniel,
๏ โอ... เอลเบอร์เรธผู้จุดแสงดาว 

silivren penna miriel
ส่งผลึกแก้วพราวราวอัญมณี 

o menel aglar elenath!
จากห้วงสรวงงามจารฟ้าราตรี 

Na-chaered palan-diriel
มอบสู่แดนที่สุดหล้าสายตา ๚ 

o galadhremmin ennorath,
๏ ถิ่นกลางแดนเลยได้ทออาภรณ์ 

Fanuilos, le linnathon
ให้ฟานูย์ลอรส์ขาวงามสว่างหล้า
ข้าจึงร้องเพลงมอบท่านอภิญญา 


nef aear, si nef aearon!
จากอีกฝั่งฟ้าข้ามมหานที ๚ 

หมายเหตุ: แอบเปิดคำแปลภาคภาษาอังกฤษแบบธรรมดาของTolkien ช่วยอีกนิดหน่อย...
(แต่ ก็มีมั่วๆ อยู่บ้างเพราะแปลไม่กระจ่างและกลอนพาไป อิอิ)

Tolkien's own translation of "The Sindarin Hymn": 

[The hymn:] "O! Elbereth who lit the stars,
from glittering crystal slanting falls with light like jewels
from heaven on high the glory of the starry host.
To lands remote I have looked afar,
and now to thee, Fanuilos,
bright spirit clothed in ever-white,
I here will sing beyond the Sea,
beyond the wide and sundering Sea.

--------------------------------------------------------------------------------------------------

Love’s Philosophy (Original)


THE FOUNTAINS mingle with the river
And the rivers with the ocean,
The winds of heaven mix for ever
With a sweet emotion;
Nothing in the world is single, 5

All things by a law divine
In one another’s being mingle—
Why not I with thine?
See the mountains kiss high heaven
And the waves clasp one another; 10

No sister-flower would be forgiven
If it disdain’d its brother:
And the sunlight clasps the earth,
And the moonbeams kiss the sea—
What are all these kissings worth, 15

If thou kiss not me?


-- Percy Bysshe Shelley (1792–1822)


ปรัชญาของความรัก (กลอนแปด)

๏ เฉกสายธารผสานสมพรมสมุทร
มิสิ้นสุดดุจสายลมห่มสวรรค์
ใช่เอกา... ทั่วหล้าสองครองคู่กัน
ล้วนผูกพัน... แล้วใยฉันไม่เคียงเธอ ๚

๏ มองทิวลูบจูบฟ้ารื่นคลื่นกระทบ
ผกาคบนบเครือพันธุ์มิหวั่นเก้อ
แดดจูบดินวารินทราบอาบจันทร์เลอ
จูบควรเหรอ... หากเธอนั้นพลาดฉันไป ๚ะ๛

-- ผาณิต วัชรวิชญ์ (2004)



ปรัชญาของความรัก (โคลงสี่สุภาพ)

๏ ร้อยลำธารคละเคล้า..............เย้าสมุทร
วายุสรวลสัมปยุต......................พิสุทธิ์ฟ้า
ผสานเฉกเอกรุทธ์.....................ธรรมโลก
สารสิ่งเคียงใต้หล้า....................ข้าไร้ควรฤๅ ๚

๏ ทิวเขาจุมพิตห้วง-.................สรวงสวรรค์
ปลายคลื่นกลื่นกระทบกัน...........ระรอกแพร้ว
พงศ์ผกาหากลืมพันธุ์.................ทัณฑพาสน์
ด้วยห่อนเคารพแล้ว..................ไม่คล้องเครือวงศ์ ๚

๏ แสงสุรีย์ส่งต้องแผ่น-..............ปฐพี
จุมพิตแผ่วพรมนที.....................ศศิไล้
ฤๅจุมพิตจักมี...........................คุณค่า
หากจูบเธอนั้นไซร้....................มิได้ให้ฉัน ๚ะ๛

-- ผาณิต วัชรวิชญ์ (2004)

--------------------------------------------------------------------------------------------------

All that is gold does not glitter,
Not all those who wonder are lost;
The old that is strong does not wither,
Deep roots are not reached by the frost.
From the ashes a fire shall be woken,
Alight from the shadows shall spring;
Renewed shall be blade that was broken,
The crownless again shall be king.

ทองนั้นใช่ ต้องพราว วับวาวแสง
ผู้แสวง เที่ยวท่องไกล ใช่คนหลง
เฒ่าสูงวัย ผู้คงแกร่ง ใช่แก่ลง
รากลึกคง ไร้ภัยหนาว หยัดยืนยัง
ถุลีเถ้า คุเร้าไฟ ให้สาดแสง
จากมืดแจ้ง ด้วยทิวา วสันต์สั่ง
ดาบเคยหัก หลอมตีใหม่ ให้พลัง
และราชันย์ ไร้บัลลังก์ จักหวนคืน

Comments

Popular posts from this blog

Dubai

  เมืองใน เขตร้อน ทะเลทราย สมัยก่อนเคยมา Dubai เร็วๆ แวะตอน Transit แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวละเอียด คราวนี้เลยลองมา Dubai แบบยาวๆ หน่อย เลยทำให้มีเวลาดูอะไรๆ มากขึ้น ภาพแรกด้านบนคือย่านตลาดเก่า Heritage Village ที่ขายของท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม ภาพที่สองด้านบนคือภาพสถานีรถไฟฟ้าทันสมัยที่สามารถเดินทางได้สบายด้วยบัตร Nol Card (ซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต) ส่วนภาพด้านล่างคือป้ายรถเมล์ทันสมัยติดแอร์เย็นๆ เดิดูปลอดภัยมากๆ สร้างจน กลับกลาย เป็นสวรรค์ ภาพข้างบนคือภาพข้างในรถเมล์ที่นอกจากจะนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำๆแล้ว ยังบอกละเอียดว่าตอนนี้อยู่ป้ายรถเมล์ไหน กำลังจะไปไหนและคาดว่าจะถึงที่ไหนในอีกกี่นาทีเป๊ะมากๆ (ยังไม่พอคือเชื่อมข้อมูลกับ App ได้เป๊ะมากๆ ดูรถเมล์รออะไรๆ คือเดินทางสบายระดับหนึ่ง) – ภาพข้างล่างคือไปเยี่ยมชม Museum of the future เมื่อคน ตั้งใจ ร่วมมือกัน ภาพข้างบนคือหุ่นยนต์ผลิตน้ำหอมใน Museum of the future / ส่วนข้างล่างคือลองแวะไปใช้บริการสปา ของ ร.ร. Armani ที่อยู่ข้างในตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสปาที่ หรูหราอลังการ สบายมากๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเพราะพอเข้าไปก็เอามือถือไปเก็บในล็...

ภูเก็ต - Day 1

ระยะทาง... เป็นห้วงห่างสร้างความหมาย ผ่อนอารมณ์พอระบาย จนยิ้มง่ายกับชีวิต วันหยุดอาทิตย์ก่อน ไปภูเก็ตมา นับเป็นการเดินทางไปเยี่ยมดินแดนไข่มุกอันดามันอันลือชื่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟังเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมาชื่นชมให้ฟังถึงความงดงามของที่นี่มานาน การเดินทางคราวนี้จุดหมายหลักคือมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย (ทั้งคู่) ทำให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันสมัยวิศวะเกษตรกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เสียดายที่หลายๆ คนมาไม่ได้จึงมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมขบวนการกันอยู่เพียง 4 คน... โชคชะตา... แม้ฝืนกล้าท้าลิขิต ลวงเวลามาเป็นมิตร ก็เพียงจิตคิดห่างไกล วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ลงขันเช่ารถกัน จุดหมายแรกคืออุทยานแห่งชาติสิรินาถแป๊บนึงแล้วก็ขับเข้าเมือง หลงทางกันพอควรทำให้พลาดสถานที่ที่ตั้งใจเที่ยวไป แล้วก็หิวตาลายหาข้าวเช้าติ่มซำกินกันแล้วก็เดินเล่นเล็กน้อยในตัวเมือง เสร็จแล้วก็ตรงไปยังที่พัก งานนี้ต้องขอบคุณติ๊ก เพื่อนผู้น่ารักที่เคยไปเรียนปริญญาโทที่เคมบริดจ์รุ่นเดียวกันกัน ที่เอื้อเฟื้อจัดหาสถานที่ให้ ที่พักเป็นโรงแรมสีขาวสะอาดสะอ้านชื่อ rawai beach resort ที่หาดราไวย์... สายลมร้อน... มิอาทรตอนอ่อ...

Rome

ภาพเก่าเงาสะท้อน ให้มองย้อนถึงวันวาน ความหลังอันหอมหวาน จึงจดจารลงทรงจำ กรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าจะได้มาซักครา และแล้วในที่สุดก็ได้มา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอะไรเยอะมาก ฉันถ่ายรูปมาหลายร้อย และคัดรูปมาลงเพียงสิบกว่าภาพ มีหลายภาพที่คัดมาแล้วตัดออกด้วยความเสียดาย -- เพราะก็ไม่อยากทำ blog ด้วยภาพเยอะนัก :) ภาพงามความตรึงใจ ยังสวยใสให้ดื่มด่ำ จนต้องมาเพ้อพร่ำ ใส่ถ้อยคำ... จารกวี ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวริมแม่น้ำไทเบอร์ตอนพระอาทิตย์ตก ภาพถัดลงมาเป็นอาหารเย็นของที่นี่ ภาพถัดลงมาเป็นวิวสระน้ำของโรงแรมที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง และภาพด้านบนคือ Colosseum หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากมากรุงโรม @^_^@ สูงส่งเกินบรรยาย สื่อความหมายสร้างศักดิ์ศรี สร้างสรรอย่างพอดี ให้คนมีความทรงจำ หินที่สร้างขึ้นมาเป็นโครงดูแล้วเริ่มผุกร่อนเป็นหลุมๆ ลงไป (ดั่งภาพด้านบน) มีการบูรณะก่อสร้างบ้าง แต่ก็ต้องทึ่งว่าสมัยก่อนชาวโรมันคงยิ่งใหญ่มาก ขนาดสร้างสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายที่อาณาจักรที่ยิ่งให...