Skip to main content

Avignon

 

ชมเมือง ย่ำราตรี…
ฟ้าเปลี่ยนสี ระบายไป…
จากที่ สว่างใส…
เข้มข้นไป ทิวากาล…

ทริปนี้มาแวะเมืองนี้ 2 รอบ รอบนึงตอนกลางวันอีกรอบตอนกลางคืน พบว่าเดินตอนกลางคืนสวยกว่า เพราะเค้าส่องแสงสวยๆ หลายจุด (จริงๆ ก็ไม่ดึกมาก 5 โมงเย็นก็มืดแล้ว – กลางคืนที่ว่าคือยังไม่ถึง 6 โมงเย็นเลย) – ที่แวะมาเมืองนี้หลักๆ คือเพื่อแวะมาดูมรดกโลก UNESCO World Heritage, Historic Centre of Avignon: Papal Palace, Episcopal Ensemble and Avignon Bridge

ท้องฟ้า เมืองไร้ฝุ่น…
ดูไม่ขุ่น งามตระการ…
ตึกรา สูงตระหง่าน…
ดั่งเล่าขาน สิ่งผ่านมา…

เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ คือในช่วงศตวรรษที่ 14 ที่กรุงโรมมีการเมืองวุ่นวาย ชาวโรมันยุคนั้นเลยตัดสินใจย้าย Headquarter มาที่เมืองนี่ ทำให้ที่นี่เคยเป็นที่อยู่ของพระสันตปาปาถึง 7 ท่านก่อนที่จะย้ายกลับไปที่โรม (วาติกัน) ดังนั้นสถาปัตยกรรมที่เมืองนี่เลยอลังการ ปราสาทซึ่งเป็นที่อยู่ของ Pope สร้างขึ้นมาขนาดใหญ่โตมากๆ เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองทรงอำนาจในช่วงที่เมืองนี้เป็นศูนย์กลางศาสนานิกายโรมันคาทอลิก

อำนาจ มารวมศูนย์…
จึงเกื้อกูล รวมศรัทธา…
สร้างสรรค์ สิ่งมีค่า…
ให้คนมา ได้เยี่ยมชม…

Papal Palace (ภาพข้างล่าง) มีทัวร์รอบดึกหลังพระอาทิตย์ตกดินที่รับรองความสยองขวัญด้วย 😱 แต่ไม่ได้ไปแจมเพราะน่ากลัวเกินไป (สังเกตุดูเห็นคนรอคิวเข้าไปดูเยอะเหมือนกัน) แต่โดยทั่วไป การเดินเที่ยวเมืองนี้ไม่ค่อยน่ากลัว เพราะสถาปัตย์กรรมสำคัญ และ ตึกราสวยๆ หลายๆ แห่งจะถูกส่องไฟสว่าง และ บางแห่งมีสีสันสดใสทีเดียว

ราตรี ไม่เงียบเหงา…
ด้วยคลุกเคล้า สีสดใส…
ผู้คน คร่ำคราไป…
ให้อุ่นใจ ไม่น่ากลัว…

ภาพข้างบนและข้างล่าง เป็นบริเวณรอบๆ ปราสาท มุมโน้น มุมนี้ ที่มีลานกว้างและมีผู้คนเยอะพอสมควร มุมตรงข้ามปราสาท (ตามภาพด้านบนป ก็มีร้านอาหารที่บรรยากาศดีหลายร้าน ที่มีทั้งที่นั่งในตึก และ ตั้งโต๊ะในบริเวณลานข้างนอกตึก อากาศเย็นๆ ตอนไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงยังไม่เข้าฤดูหนาว คนเลยชอบออกมานั่งกันข้างนอกมากกว่า

ทักทาย ยามพบมิตร…
ไมตรีจิต แจกจ่ายทั่ว…
เพื่อนกัน เข้าพันพัว…
ยามสลัว ก็ไม่เกรง…

มรดกโลกอีกแห่งของเมืองนี้ก็คือ Avignon Bridge (ภาพข้างล่าง) ซึ่งที่นี่ส่องแสงไฟสว่างสดใสตลอดแนวสะพานทีเดียว มีอีกชื่อว่า Pont Saint-Bénézet ทอดข้ามแม่น้ำ Rhône (ตอนนี้สร้างถนนลอดข้าม Arch ของสะพานนี้ส่วนแรก ส่วน Arches ที่ยังเหลือก็ปล่อยให้ทอดข้ามแม่น้ำต่อไปเช่นเดิม) ข้างบนสะพานมี Chapel of Saint Nicholas อยู่ และตรงปลายสะพานจะเชื่อมกับ gatehouse และกำแพงเมือง (ภาพล่างถัดไป)

อยู่รอด มาพันปี…
เหลือที่มี รักษาไว้…
มรดก จารึกไป…
ให้คนได้ เห็นวันวาน…

ทางเดินเข้าไปในโซนสะพาน (ภาพข้างล่าง) ก็จะมีป้ายบอกละเอียดว่าสถานที่นี่เป็นมรดกโลก และ แม้จะเป็นกลางคืนก็ยังเปิดประตูให้เข้าระดับนึง แต่มีป้ายบอกกำกับว่าบริเวณนี้มี CCTV – เท่าที่เห็น ก็เหมือนกับมรดกโลกของฝรั่งเศสโซนอื่นๆ ที่ให้คนเยี่ยมชมสถานที่ได้ ส่งแสงสีสันตระการตาช่วยอีก ไม่ได้กั้นห้ามแตะ ห้ามเข้าใกล้อะไร

ส่วนอื่น ของตัวเมือง…
ก็รุ่งเรือง สนุกสนาน…
ผู้คน ช่างสำราญ…
ดูเบิกบาน ยามพบเจอ…

ตอนที่ไปมีการจัดงาน fun fair อาจจะเป็นเพราะใกล้วันเทศกาล (ฮาโลวีน) ผู้คนออกมาเล่นกันตามรายทาง ส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองพาเด็กๆ ตัวเล็กๆ มาเที่ยว เล่นเครื่องเล่น แต่ไม่ได้ถ่ายภาพเด็กๆ ตรงๆ (เกรงใจผู้ปกครอง) เห็นแบบนี้หลายเมืองเลย บางเมืองก็เดินผ่านเฉยๆ ดูเครื่องเล่นของเค้าว่ามีอะไรบ้าง ดูอาหารที่ขายว่ามีอะไรบ้าง

เป็นภาพ ที่ตราตรึง…
สีสันซึ่ง ชวนฝันเพ้อ…
ภาพงาม หลงละเมอ…
สิ่งเลิศเลอ สร้างขึ้นมา…

Comments

Popular posts from this blog

Dubai

  เมืองใน เขตร้อน ทะเลทราย สมัยก่อนเคยมา Dubai เร็วๆ แวะตอน Transit แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวละเอียด คราวนี้เลยลองมา Dubai แบบยาวๆ หน่อย เลยทำให้มีเวลาดูอะไรๆ มากขึ้น ภาพแรกด้านบนคือย่านตลาดเก่า Heritage Village ที่ขายของท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม ภาพที่สองด้านบนคือภาพสถานีรถไฟฟ้าทันสมัยที่สามารถเดินทางได้สบายด้วยบัตร Nol Card (ซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต) ส่วนภาพด้านล่างคือป้ายรถเมล์ทันสมัยติดแอร์เย็นๆ เดิดูปลอดภัยมากๆ สร้างจน กลับกลาย เป็นสวรรค์ ภาพข้างบนคือภาพข้างในรถเมล์ที่นอกจากจะนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำๆแล้ว ยังบอกละเอียดว่าตอนนี้อยู่ป้ายรถเมล์ไหน กำลังจะไปไหนและคาดว่าจะถึงที่ไหนในอีกกี่นาทีเป๊ะมากๆ (ยังไม่พอคือเชื่อมข้อมูลกับ App ได้เป๊ะมากๆ ดูรถเมล์รออะไรๆ คือเดินทางสบายระดับหนึ่ง) – ภาพข้างล่างคือไปเยี่ยมชม Museum of the future เมื่อคน ตั้งใจ ร่วมมือกัน ภาพข้างบนคือหุ่นยนต์ผลิตน้ำหอมใน Museum of the future / ส่วนข้างล่างคือลองแวะไปใช้บริการสปา ของ ร.ร. Armani ที่อยู่ข้างในตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสปาที่ หรูหราอลังการ สบายมากๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเพราะพอเข้าไปก็เอามือถือไปเก็บในล็...

ภูเก็ต - Day 1

ระยะทาง... เป็นห้วงห่างสร้างความหมาย ผ่อนอารมณ์พอระบาย จนยิ้มง่ายกับชีวิต วันหยุดอาทิตย์ก่อน ไปภูเก็ตมา นับเป็นการเดินทางไปเยี่ยมดินแดนไข่มุกอันดามันอันลือชื่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟังเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมาชื่นชมให้ฟังถึงความงดงามของที่นี่มานาน การเดินทางคราวนี้จุดหมายหลักคือมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย (ทั้งคู่) ทำให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันสมัยวิศวะเกษตรกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เสียดายที่หลายๆ คนมาไม่ได้จึงมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมขบวนการกันอยู่เพียง 4 คน... โชคชะตา... แม้ฝืนกล้าท้าลิขิต ลวงเวลามาเป็นมิตร ก็เพียงจิตคิดห่างไกล วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ลงขันเช่ารถกัน จุดหมายแรกคืออุทยานแห่งชาติสิรินาถแป๊บนึงแล้วก็ขับเข้าเมือง หลงทางกันพอควรทำให้พลาดสถานที่ที่ตั้งใจเที่ยวไป แล้วก็หิวตาลายหาข้าวเช้าติ่มซำกินกันแล้วก็เดินเล่นเล็กน้อยในตัวเมือง เสร็จแล้วก็ตรงไปยังที่พัก งานนี้ต้องขอบคุณติ๊ก เพื่อนผู้น่ารักที่เคยไปเรียนปริญญาโทที่เคมบริดจ์รุ่นเดียวกันกัน ที่เอื้อเฟื้อจัดหาสถานที่ให้ ที่พักเป็นโรงแรมสีขาวสะอาดสะอ้านชื่อ rawai beach resort ที่หาดราไวย์... สายลมร้อน... มิอาทรตอนอ่อ...

Rome

ภาพเก่าเงาสะท้อน ให้มองย้อนถึงวันวาน ความหลังอันหอมหวาน จึงจดจารลงทรงจำ กรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าจะได้มาซักครา และแล้วในที่สุดก็ได้มา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอะไรเยอะมาก ฉันถ่ายรูปมาหลายร้อย และคัดรูปมาลงเพียงสิบกว่าภาพ มีหลายภาพที่คัดมาแล้วตัดออกด้วยความเสียดาย -- เพราะก็ไม่อยากทำ blog ด้วยภาพเยอะนัก :) ภาพงามความตรึงใจ ยังสวยใสให้ดื่มด่ำ จนต้องมาเพ้อพร่ำ ใส่ถ้อยคำ... จารกวี ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวริมแม่น้ำไทเบอร์ตอนพระอาทิตย์ตก ภาพถัดลงมาเป็นอาหารเย็นของที่นี่ ภาพถัดลงมาเป็นวิวสระน้ำของโรงแรมที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง และภาพด้านบนคือ Colosseum หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากมากรุงโรม @^_^@ สูงส่งเกินบรรยาย สื่อความหมายสร้างศักดิ์ศรี สร้างสรรอย่างพอดี ให้คนมีความทรงจำ หินที่สร้างขึ้นมาเป็นโครงดูแล้วเริ่มผุกร่อนเป็นหลุมๆ ลงไป (ดั่งภาพด้านบน) มีการบูรณะก่อสร้างบ้าง แต่ก็ต้องทึ่งว่าสมัยก่อนชาวโรมันคงยิ่งใหญ่มาก ขนาดสร้างสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายที่อาณาจักรที่ยิ่งให...