Skip to main content

Bradford

 

ชีวิต
เฉกเช่น
ฉากละคร

เมือง Bradford เป็นเมืองที่ตอนแรกไม่ได้อยู่ในแผนว่าจะมาพักค้างคืน (กะมาดูแว๊บๆ แบบไปเช้า-เย็นกลับ) สาเหตุที่จะมาเมืองนี้เป็นเพราะ UNESCO ให้เมืองนี้เป็น City of Film และอ่านรีวิวดูส่วนนึงคือเป็นเมืองที่เหมาะกับการถ่ายทำภาพยนต์เลยอยากมาดูหน่อยว่าลักษณะเมืองนี้เป็นเมืองยังไง ตอนแรกกะจะพักที่ Leeds แล้วมาที่นี่เพราะที่ Leeds มีทั้งโรงแรมที่ได้มิชลิน และ ร้านอาหารที่ได้มิชลิน ส่วนที่เมืองนี้ไม่มีอะไรที่ได้รางวัลมิชลินเลย แต่สุดท้ายระหว่างวางแผนก็เห็นภาพรีวิวเมืองนี้แล้วชอบเลยเปลี่ยนใจลองมาพักที่นี่ดู และ ก็ประทับใจโรงแรมที่นี่ราคาไม่แพงและได้ห้องวิวสวยอย่างไม่น่าเชื่อ (ภาพวิวจากหน้าต่างคือตามภาพข้างล่างเห็นหอนาฬีกาที่เค้าเปิดไฟเล่นหลายๆ สีส่องพอดี) ได้เห็นวิวท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนสี และ พอมาพักที่เมืองนี้ก็ได้มีเวลาเดินชมวิวทั้งกลางวันและกลางคืน

มีบท
แต่ละตอน
ดังภาพฝัน

Bradford เป็นเมืองที่สวยมาก ยิ่งวันที่ไปถึงช่วงเย็นมีฝนตกพรำๆ และหยุดตกตอนกลางคืน ได้เห็นท้องฟ้าใสๆ และแสงไฟกลางคืนสะท้อนน้ำเหมือนเป็นภาพยามเมืองอื่นมีงานเทศกาล แต่ที่เมืองนี้คือปกติ น่าเสียดายอย่างเดียวคือกลางคืนของเมืองนี้มีความน่ากลัวอยู่ระดับหนึ่ง เพราะเดินไปไหน-มาไหนก็เจอแต่ homeless เยอะระดับนึง ต้องเดินแบบระมัดระวัง เลยไม่ได้เก็บภาพหลายมุมเพราะไม่อยากหยุดเดินหรือยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเพราะอาจจะอันตราย ตอนแรกจะหาร้านอาหารเย็นกินแต่พอบรรยากาศไม่ดีเลยคิดว่าถ้ากินแล้วกลับดึกก็ยิ่งน่าจะอันตราย เลยเปลี่ยนแผนเป็นหาอะไรจากร้านสะดวกซื้อกลับไปกินที่โรงแรม ปรากฎว่าหน้าร้านสะดวกซื้อก็มี homeless หลายคนนั่งดักขอเงินแบบประชิดตัวบรรยากาศน่ากลัวคล้ายๆ กับที่เจอที่ Moscow เลยไม่อยากเสี่ยง สุดท้ายเลยไปเข้า supermarket ในห้างใหญ่แทน (ไม่กล้าเข้าตามรายทาง) โชคดีที่กลับโรงแรมได้อย่างปลอดภัย /เลือกเดินตามถนนใหญ่ๆ

เปลี่ยนฉาก
ทุกครา
เริ่มใหม่กัน

แต่พอออกมาเดินเที่ยวเมืองตอนกลางวัน บรรยากาศเป็นอีกแบบเลย ผู้คนคึกคัก Homeless ก็หลบไปอยู่ตามมุมตึกไม่มาประชิดตัวทำให้เดินเล่นสบายใจ เลยออกมาเดินหาอะไรกินรองท้องตอนเช้านิดนึงเห็นรีวิวบอกว่ามีร้านกาแฟในร้านหนังสือ Waterstones ที่วิวสวยมากๆ เลยลองมาดู ปรากฎว่าสวยสุดๆ ตั้งแต่เห็นตัวตึกเลย (ภาพด้านบน) ใครจะคิดว่านี่คือร้านหนังสือ พอเข้าไปในร้านก็อลังการ (ภาพล่างๆ) ชั้น 1 ขายหนังสือ ส่วนชั้น 2 เป็น Cafe ที่ตกแต่งแนว Modern (ภาพข้างล่าง) เลือกนั่งได้ว่าจะดูวิวข้างนอกริมกระจกใสๆ ที่เปิดหมดจนถึงพื้น หรือจะดูวิวข้างในร้านหนังสือ (ข้าพเจ้าเลือกดูวิวร้านหนังสือเพราะชอบมากๆ) ที่สำคัญและไม่ได้คาดหวัง คือขนมที่นี่อร่อยมาก! แนะนำนะคะถ้าใครมาเมืองนี้

มีภาพ
นับอนันต์
ให้พบเจอ

ที่น่าสนใจคือเมืองนี้เป็นเมืองที่มีสถานีรถไฟที่เป็นชุมทางเลยถึงสองแห่งคือด้านเหนือและด้านใต้ของตัว City Center แต่ทางเข้าออกทั้งสองแห่งจะซับซ้อนนิดนึงต้องเดินๆ ไปตามทางลาดๆ ถึงจะถึงสถานี และระหว่างสองสถานีนี้ไม่มีทางรถไฟเชื่อมกัน เมืองนี้มีลักษณะเป็นเนินเขาขึ้นๆ ลงๆ บางช่วง และเป็นที่ราบบางช่วง ทำให้ดูมีมิติ เสียดายที่หลายแห่งในเมืองปิดกิจการ น่าจะเป็นผลกระทบที่เศรษฐกิจอังกฤษทรุดเลยทำให้เมืองมี Homeless เยอะ เมืองนี้สวยสมกับที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งใน UNESCO Creative Cities ด้าน City of Film จริงๆ

ชื่นชม ฉากภาพ ตระการตา
ตึกรา งดงาม เกินพร่ำเพ้อ
ประทับแสง สีไฟส่อง หลงละเมอ
เป็นภาพฝัน ให้พบเจอ บนแดนดิน

Comments

Popular posts from this blog

Dubai

  เมืองใน เขตร้อน ทะเลทราย สมัยก่อนเคยมา Dubai เร็วๆ แวะตอน Transit แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวละเอียด คราวนี้เลยลองมา Dubai แบบยาวๆ หน่อย เลยทำให้มีเวลาดูอะไรๆ มากขึ้น ภาพแรกด้านบนคือย่านตลาดเก่า Heritage Village ที่ขายของท้องถิ่นเชิงวัฒนธรรม ภาพที่สองด้านบนคือภาพสถานีรถไฟฟ้าทันสมัยที่สามารถเดินทางได้สบายด้วยบัตร Nol Card (ซื้อได้ด้วยบัตรเครดิต) ส่วนภาพด้านล่างคือป้ายรถเมล์ทันสมัยติดแอร์เย็นๆ เดิดูปลอดภัยมากๆ สร้างจน กลับกลาย เป็นสวรรค์ ภาพข้างบนคือภาพข้างในรถเมล์ที่นอกจากจะนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำๆแล้ว ยังบอกละเอียดว่าตอนนี้อยู่ป้ายรถเมล์ไหน กำลังจะไปไหนและคาดว่าจะถึงที่ไหนในอีกกี่นาทีเป๊ะมากๆ (ยังไม่พอคือเชื่อมข้อมูลกับ App ได้เป๊ะมากๆ ดูรถเมล์รออะไรๆ คือเดินทางสบายระดับหนึ่ง) – ภาพข้างล่างคือไปเยี่ยมชม Museum of the future เมื่อคน ตั้งใจ ร่วมมือกัน ภาพข้างบนคือหุ่นยนต์ผลิตน้ำหอมใน Museum of the future / ส่วนข้างล่างคือลองแวะไปใช้บริการสปา ของ ร.ร. Armani ที่อยู่ข้างในตึก Burj Khalifa ที่สูงที่สุดในโลก เป็นสปาที่ หรูหราอลังการ สบายมากๆ (ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในเพราะพอเข้าไปก็เอามือถือไปเก็บในล็...

ภูเก็ต - Day 1

ระยะทาง... เป็นห้วงห่างสร้างความหมาย ผ่อนอารมณ์พอระบาย จนยิ้มง่ายกับชีวิต วันหยุดอาทิตย์ก่อน ไปภูเก็ตมา นับเป็นการเดินทางไปเยี่ยมดินแดนไข่มุกอันดามันอันลือชื่อเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟังเพื่อนๆ ชาวต่างชาติมาชื่นชมให้ฟังถึงความงดงามของที่นี่มานาน การเดินทางคราวนี้จุดหมายหลักคือมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย (ทั้งคู่) ทำให้เพื่อนๆ ที่สนิทกันสมัยวิศวะเกษตรกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เสียดายที่หลายๆ คนมาไม่ได้จึงมีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมขบวนการกันอยู่เพียง 4 คน... โชคชะตา... แม้ฝืนกล้าท้าลิขิต ลวงเวลามาเป็นมิตร ก็เพียงจิตคิดห่างไกล วันแรกที่มาถึงพวกเราก็ลงขันเช่ารถกัน จุดหมายแรกคืออุทยานแห่งชาติสิรินาถแป๊บนึงแล้วก็ขับเข้าเมือง หลงทางกันพอควรทำให้พลาดสถานที่ที่ตั้งใจเที่ยวไป แล้วก็หิวตาลายหาข้าวเช้าติ่มซำกินกันแล้วก็เดินเล่นเล็กน้อยในตัวเมือง เสร็จแล้วก็ตรงไปยังที่พัก งานนี้ต้องขอบคุณติ๊ก เพื่อนผู้น่ารักที่เคยไปเรียนปริญญาโทที่เคมบริดจ์รุ่นเดียวกันกัน ที่เอื้อเฟื้อจัดหาสถานที่ให้ ที่พักเป็นโรงแรมสีขาวสะอาดสะอ้านชื่อ rawai beach resort ที่หาดราไวย์... สายลมร้อน... มิอาทรตอนอ่อ...

Rome

ภาพเก่าเงาสะท้อน ให้มองย้อนถึงวันวาน ความหลังอันหอมหวาน จึงจดจารลงทรงจำ กรุงโรมประเทศอิตาลี เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานานว่าจะได้มาซักครา และแล้วในที่สุดก็ได้มา เมืองนี้เป็นเมืองที่มีอะไรเยอะมาก ฉันถ่ายรูปมาหลายร้อย และคัดรูปมาลงเพียงสิบกว่าภาพ มีหลายภาพที่คัดมาแล้วตัดออกด้วยความเสียดาย -- เพราะก็ไม่อยากทำ blog ด้วยภาพเยอะนัก :) ภาพงามความตรึงใจ ยังสวยใสให้ดื่มด่ำ จนต้องมาเพ้อพร่ำ ใส่ถ้อยคำ... จารกวี ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวริมแม่น้ำไทเบอร์ตอนพระอาทิตย์ตก ภาพถัดลงมาเป็นอาหารเย็นของที่นี่ ภาพถัดลงมาเป็นวิวสระน้ำของโรงแรมที่มองเห็นได้จากหน้าต่าง และภาพด้านบนคือ Colosseum หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากมากรุงโรม @^_^@ สูงส่งเกินบรรยาย สื่อความหมายสร้างศักดิ์ศรี สร้างสรรอย่างพอดี ให้คนมีความทรงจำ หินที่สร้างขึ้นมาเป็นโครงดูแล้วเริ่มผุกร่อนเป็นหลุมๆ ลงไป (ดั่งภาพด้านบน) มีการบูรณะก่อสร้างบ้าง แต่ก็ต้องทึ่งว่าสมัยก่อนชาวโรมันคงยิ่งใหญ่มาก ขนาดสร้างสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายที่อาณาจักรที่ยิ่งให...