Skip to main content

Melaka #2


มนต์ใดให้ใจปอง
ระลึกตรองมองจุดหมาย
กาลเปลี่ยนเพียรมิวาย
สิ่งเรียบง่ายคลายกังวล



วันที่สองฉันรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูทะเล (ที่อยู่ไกลจากโรงแรมพอสมควร - ใช้เวลาเดินไปประมาณครึ่งชั่วโมง /รวมเวลาถามทาง) ฉันตัดสินใจไปดูทะเลที่หมู่บ้านโปรตุเกส แต่ถ้าใครอยากไปก็จะบอกว่า ที่เที่ยวตรงนี้ ถ้าไม่มีเวลาว่างจริงๆ ก็ไม่แนะนำนะคะ เพราะไม่ค่อยมีอะไร วันนี้ตอนเช้าท้องฟ้าแจ่มใส แดดร้อนแต่เช้าไม่เหมือนอากาศเมื่อวันก่อน ฉันก็เลยตัดสินใจว่าจะย้อนเดินกลับไปดูที่เที่ยวที่เดินเมื่อวานด้วย


มีกินอย่างเปรมปรี
รู้สึกดีไม่สับสน
ก็เพียงปัจจัยคน
บนถนนของหนทาง



ภาพด้านบนถัดไปสองภาพเป็นอาหารมื้อเช้าบักกุ๊กเต๋พร้อมน้ำชาร้อนๆ มากันเป็นเซตน่ารักดีจากร้านอร่อยในมะละกา ร้านนี้คุณลุงคนขายจะตะโกนโน่นนี่อยู่ตลอดเวลาและมีคนเข้ามาตลอด ส่วนภาพข้างบนเป็นภาพถ่ายทางเดินในโรงแรมเพราะสีสวยดี (นานทีมีรูปตัวเองเพราะเที่ยวคนเดียว ^^)


มองแล้วทอดถอนใจ
ระบายไปในความต่าง
เก็บเกี่ยวสายใยบาง
แล้วค่อยสร้างวางสิ่งดี



ภาพด้านบนถัดไปสองภาพเป็นภาพสถานีรถบัส Melaka Sentral [ที่นี่เหมือนตัวอักษร "C" เขียนด้วย "S" หลายตัว] ส่วนภาพข้างบนเป็น Tourist Information Center ในย่านใจกลางแหล่งท่องเที่ยว ที่ตรงนี้บรรยากาศดีพอสมควรตั้งอยู่ริมน้ำกับซากโบราณสถาน วันที่ไปเดินมีคนนั่งสมาธิข้างๆ แบบตั้งอกตั้งใจ


มิเคยจะกังวล
ละเลยหม่นปลดคลายคลี่
กลับใจให้ยอมพลี
แล้วก็มีเรื่องอุ่นใจ



ภาพด้านบนถัดไปสองภาพเป็นโบสถ์เซนต์ฟรานซิสเซเวียกับธงประเทศมาเลเซีย ภาพนี้เล็งอยู่นานอยากให้ได้ภาพที่ธงสะบัดให้เต็มผืนแต่ก็ไม่ค่อยโอเค เพราะไม่งั้นธงจะบังโบสถ์ ส่วนภาพข้างบนเป็นภาพจัตุรัสฮอลแลนด์กับตึกสีปลาแซลมอนในวันฟ้าใสๆ


มากน้อยก็รูปนาม
ลองคิดตามก็ทราบใช่
กลเกมหลอกลวงไป
ให้หลงไหลในสิ่งลวง



พอท้องฟ้าสดใสนักท่องเที่ยวก็มากันเยอะมาก (เวลาถ่ายรูปต้องพยายามหามุมหลบนักท่องเที่ยว) จริงๆ ตึกราบ้านช่องก็เหมือนเดิม ต่างกันตรงที่แดดสวยหรือไม่สวยก็เท่านั้นเอง ทำให้ฉันนึกถึงชีวิตสมัยเป็นนักเรียนอังกฤษที่จะรู้สึกสดชื่นเวลาแดดออกอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว


มะเอยมะละกา
ละลานตาดั่งแดนสรวง
กาลเก่าเงาภาพลวง
พาย้อนทวงถึงก่อนกาล



ที่นี่จะมีสัญลักษณ์อีกอย่างคือรถสามล้อประดับดอกไม้สวยๆ เปิดเพลงเพราะๆ ชักชวนให้คนไปนั่งเที่ยวชมเมือง หรือจะไปขอถ่ายรูปกับเค้าก็ได้เหมือนจะคิดไม่แพงประมาณ 2RM (20 บาท) ตอนแรกฉันก็กะว่าจะไปนั่งเล่นอยู่เหมือนกันแต่ดูเวลาแล้วไม่ทันก็เลยต้องรีบเดินทางต่อ (ที่ไม่ทันเพราะส่วนหนึ่งคือมัวแต่ไปชิวๆ ริมทะเลเพลินไปหน่อย) ภาพด้านล่างเป็นภาพ Tourist Information Center แถวๆ ที่เที่ยว Modern หน่อยๆ เช่นหอคอยมะละกาและย่านห้างสรรพสินค้าทันสมัย ส่วนภาพล่างสุดเป็นบ้าน Welcome สู่เมืองที่ได้มรดกโลกจากยูเนสโก้


มาแล้วพบเรื่องราว
ร่วมสืบสาวคราววันวาน
เก็บลงตรงจิตจาร
เพิ่มตำนานผ่านกวี





Create Date : 13 กันยายน 2554

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...