Skip to main content

Bhutan #3

สายน้ำ
สองนที
มาบรรจบ

วันที่สามของการเดินทางมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม Punakha Dzong ที่ประทับของพระสังฆราชในฤดูหนาว ที่ตั้งระหว่างแม่น้ำโพ (Po Chu) และแม่น้ำโม (Mo Chu) มาบรรจบกันพอดี ภาพด้านบนสุดเป็นมุมที่เห็นแม่น้ำสองสาย (สองสี) ไหลมาเจอกัน ส่วนภาพด้านบนเป็นภาพถ่ายพูนาคาซองด้านข้างระหว่างเดินข้ามเข้าไปจากหน้าต่างของสะพานข้ามแม่น้ำ
น่าเคารพ
ความงดงาม
ตามที่เห็น

ที่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานมงคลสมรสของพระราชาจิกมี่ การได้เห็นคนภูฏานแต่งชุดประจำชาติเข้ามาสักการะบูชาด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเคารพสถานที่ ทำให้รู้สึกประทับใจกับภาพที่เห็นพอสมควรเลยทีเดียว (อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้บ้าง)

สิ่งเรียบง่าย
สร้างความหมาย
เกินที่เป็น

จากเมืองพูนาคาพวกเราก็เดินทางกลับไปยังเมืองพาโร (เส้นทางจะผ่านเมืองทิมพูก่อน) ระหว่างทางได้มีโอกาสแวะวัดของแม่ชี (แต่เกรงใจไม่กล้าถ่ายภาพคุณแม่ชี) ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญวันวิสาขบูชาพอดีฟังการสวดมนต์ที่มีเอกลักษณ์ของภูฏานและได้ทานขนมอร่อยๆ ภาพรอบๆ ด้านบนด้านล่างของข้อความนี้เป็นภาพถ่ายวิวบริเวณของวัดแม่ชีแห่งนี้
เพียงรู้เน้น
สิ่งดั่งเดิม
ที่เคยมี

เสร็จจากวัดคุณแม่ชีพวกเราก็แวะทานข้าวกันที่เมืองทิมพู (เมืองหลวง) วันนี้เป็นวันดีคือเป็นทั้งวันวิสาขบูชาและวันเกิดของพระราชินีของที่นี่ ตอนเย็นมีพิธีการจะจัดงานเฉลิมฉลองกันที่่จัตุรัสหอนาฬิกา (ภาพด้านล่าง) เลยได้ดูการตั้งเต้นท์ และระหว่างทางได้เห็นรถเชื้อพระวงศ์ที่จะมาร่วมงาน

ดุจดั่งคน
ที่โตได้
จากจุดเริ่ม

เสร็จจากเที่ยวในเมืองทิมพู พวกเราก็ออกเดินทางต่อไปสักการะวัดเก่าแก่ (วัดคิวชู) วัดโบราณหนึ่งในร้อยแปดแห่งทั่วดินแดนโดยรอบชมพูทวีปที่สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐ์สถานเจดีย์พระบรมสารีริขธาตุไว้เพื่อตรึงจุดสำคัญของพระยามาร (ในภูฏานมีอยู่สองแห่ง ส่วนอื่นๆ กระจายไปในหลายๆ ประเทศ)

เพียงรู้เพิ่ม
เติมความฝัน
แต่งแต้มสี

ตอนออกจากวัดคิวชู ไม่รู้จินตนาการบรรเจิดไปเองหรือเปล่าแต่รู้สึกเหมือนลำแสงที่ลอดออกมาระหว่างก้อนเมฆเป็นรูปคล้ายมังกรทยานฟ้า (ภาพข้างล่าง) เลยเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ ด้วย ^^

จากจุดเดิม
เพิ่มเสริมต่อ
อย่างพอดี

ภาพด้านบนเป็นสะพานทางเข้าของพาโรซอง ที่เป็นฉากถ่ายหนัง Hollywood ชื่อดังเรื่อง Little Buddha ส่วนภาพด้านล่างอีกสองภาพเป็นภาพวิวสวยๆ จากโรงแรมที่พักในเมืองพาโรที่มองเห็นสนามบินและพาโรซองในยามค่ำคืน

ก็จะมี
ความสุขใจ
ในตนเอง




Create Date : 24 กรกฎาคม 2555

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...