Skip to main content

ปราณบุรี - Day 2



    " Everything has its beauty but not everyone sees it "

    -- Confucius


ใบไม้ใบบาง
สำอางพริ้วไหว
เล่นล้อลมไป
รื่นใจเบิกบาน



    วันที่สอง... ไร้นามตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น รีบออกไปถือโอกาสสูดอากาศบริสุทธิ์ ที่อวนด้วยกลิ่นอายพงไพรเล็กๆ ริมระเบียงที่หาไม่ค่อยได้ในเมือง และรีบวิ่งไปที่เรือน internet ตามประสา (ผู้ที่มีงานให้สะสางมาก) โชคดีที่พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานแสนใจดีช่วย clear งานให้ทำให้ทุกอย่างเบาลงกว่าปกติ


สราญลมพัด
ระบัดแผ่วหวาน
ไล้แผ่นผิวธาร
เนิ่นนานนิรันดร์



    อากาศยามเช้าสบายนัก ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านทำให้ทุกอย่างดูนิ่งสงบ ได้เห็นคนงานของรีสอร์ทค่อยๆ เอาเบาะใส่รถเข็นมาวางทีละเบาะๆ คนสวนมาตัดเล็มต้นไม้ และ พนักงานทำความสะอาดมากวาดตามทางเดินทำให้เข้าใจว่าเพราะความพยายามขนาดนี้ไง ถึงทำให้รีสอร์ทดูสวยเฉกเช่นนี้ได้อยู่ทุกวัน


นั่งพักกันไหม
ปล่อยใจใฝ่ฝัน
ผ่านคืนผ่านวัน
แบ่งปันเรื่องราว



    พอได้เวลาพวกเราก็ไปทานอาหารเช้ากัน อาหารเช้ามีหลากหลายพอควรแต่ไร้นามไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาซักเท่าไหร่เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับการเดินตักหลายๆ รอบ (อิอิ) หมดเวลาอาหารก็ไปเข้าร่วมประชุมเรื่องวิสัยทัศน์และแผนการของบริษัท ซึ่งทำให้ไร้นามรู้สึกดี โดยเฉพาะที่จะมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในกลไกที่จะช่วยผลัดดันให้แผนการเป็นไปได้ ไร้นามชอบธุรกิจของบริษัท เพราะเป็นกลไลที่พัฒนาประเทศ ถึงแม้ว่างานของเรานั้นจะเป็นเหมือนงานปิดทองหลังพระก็ตาม


ให้ใจชื่นชม
รื่นรมย์ภาพหนาว
เพลินฝนพร่างพราว
ดาดาวพบพา



    หลังจากประชุมกันเสร็จพวกเราก็มีกิจกรรม team building สุดโหด (จริงๆ) กิจกรรมใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่ง แต่ก็จบลงด้วยความสนุกสนาน งานนี้ทำให้ฉันย้อนคิดถึงสมัยเข้าค่ายของนักเรียน PhD ที่ได้รับทุน EPSRC ที่สก๊อตแลนด์ กิจกรรมหลายๆ อย่างคล้ายๆ กันเช่นพวก spider web ทีมฉันได้คะแนนรวมที่หนึ่ง (มีคนแซวมาว่าก็ในทีมมีดอกเตอร์กี่คนล่ะนั่น) แต่คะแนนด้านความสร้างสรรที่สอง สภาพตอนเสร็จงานก็มอมแมมอย่างที่เห็น (จริงๆ เสื้อกะกางเกงช่วงบนจะเปียกๆ เพราะโดนน้ำสาดมานิดหน่อย ส่วนเข่าลงมาโดนสาดแป้งมอมแมมพอดู)


แบ่งปันเกิดก่อ
เติมต่อศึกษา
เรื่องราวนานา
นำมาเรียบเรียง



    แล้วก็ไปทานอาหารกลางวันทั้งๆ ที่มอมแมม (หลายๆ คนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า) แต่ไร้นามไม่เปลี่ยนเพราะมีความมุ่งหมายจะไปลุยต่อ งานนี้ต้องขอบคุณ "พี่ฟ้า" นางฟ้าใจดีที่เป็นพี่ที่ทำงาน และเป็นคนท้องถิ่นผู้อาสาพาไร้นามเที่ยวรอบๆ บริเวณนั้น ภาพข้างล่างคือรถกอล์ฟไฟฟ้าที่ทาง รีสอร์ท มีบริการสบายๆ ให้นั่งไปโน่นไปนี่ พวกเราเรียกรถให้พาเราออกจากบริเวณ reception ไปบริเวณจอดรถ (จริงๆ มีรถหลายแบบ ตกเย็นกลับมามืดๆ ไร้นามก็เรียกรถกอล์ฟจาก reception ให้ไปส่งที่ห้องพัก อิอิ)


เพลินเอยลมพริ้ว
เล่นริ้วสายเสียง
สรรส่งสำเนียง
พอเพียงเพลินใจ



    จุดหมายแรกที่เรามาเที่ยวกันก็คือไปล่องเรือชมธรรมชาติ สถานที่แห่งนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ไร้นามชอบบรรยากาศที่ได้เห็นระหว่างนั่งรถที่ยอดเขาแถวนี้แปลกๆ คือดูเป็นตะปุ่มตะป่ำ นั่นล่ะมังที่ทำให้คนชอบเข้าใจผิดกันว่าคำว่าสามร้อยยอดมาจากชื่อเขา พอได้คุยกับคนท้องถิ่นจึงทราบว่าคำว่าสามร้อยยอดเป็นคำเพี้ยนมาจาก "สามร้อยรอด" คือสำเภาจีนมาล่มที่นี่สมัยก่อนแล้วมีคนรอดประมาณสามร้อยคน


เพื่อนเอยเพื่อนรัก
มาทักรู้ไหม
ฉันแสนดีใจ
ที่ได้พบเจอ



    และแล้วเรื่องน่าแปลกแต่จริงก็เกิดขึ้นกับชีวิตไร้นาม... ไร้นามได้พบว่าโลกเรานี้ช่างกลมนัก เพื่อนในกลุ่มที่มาเที่ยวด้วยกัน (ภรรยาของผู้บริหารท่านหนึ่ง) กลับกลายเป็นเพื่อนไร้นามสมัยเรียนประถม... "รุ่ง" เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในแก๊งค์เด็กสี่คน คือ เมย์, อุ๊ (ไร้นาม), จ๊ะ (ที่แวะมาเยี่ยม blog ไร้นามประจำในชื่อว่า Ja) และ รุ่ง... คุยไปคุยมายิ่งน่าแปลกใจใหญ่ที่รุ่งจบ Finance มาจาก London และเคยอยู่อังกฤษเป็นเวลาห้าปีเท่าๆ กับไร้นาม แต่เราไม่เคยเจอกันที่อังกฤษเลย


ภาพเงาสะท้อน
พาย้อนเสมอ
ภาพเงาของเธอ
พบเพ้อผูกพัน



    หลังจากล่องเรือชมทิวเขาผาแดงแล้วพวกเราก็ไปตะลุยปีนเขาไปชมถ้ำไทรกัน งานนี้ได้แผลถลอกมาเล็กน้อยแต่ก็สนุก พวกเราไปกันเกือบถึงปากทางก็เจอพี่ที่จะช่วยพาชมถ้ำชักชวนให้เราลองชิมผลไม้แถวนั้นอร่อยทีเดียว เสร็จแล้วพวกเราก็เข้าถ้ำ งานนี้เป็นการเดินถ้ำที่สนุก (ปนน่ากลัว) เพราะพี่ที่นำเที่ยวเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง แล้วค่อยกลับออกมาทานอาหารที่ร้านถ้ำไทรแสนอร่อยริมทะเลข้างหน้าถ้ำชมอาทิตย์ตกและแสงไฟจากเรือหาปลาหมึกที่สุดขอบน้ำ แล้วค่อยกลับรีสอร์ทกันด้วยความชื่นบาน


ใบไม้ใบบาง
พบทางแห่งฝัน
จึงเลิกไหวหวั่น
แม้วันปลิดปลิว





Create Date : 15 สิงหาคม 2549

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...