หนึ่งหยาดน้ำรินถิ่นนี้
พรมพร่างตรงที่แห้งไร้
เป็นกว่าหนึ่งในดวงใจ
ให้ปวงชนไทยเทิดทูน
การไปชมนิทรรศการที่ Impact เมืองทองเป็นการผจญภัยอย่างหนึ่ง ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ครอบครัวไร้นามพยายามไปกันแต่พบว่าหาที่จอดรถไม่เจอเลยได้แต่ขับกลับ (หลังจากขับวนกันไปกว่าชั่วโมง) ครั้งที่สองคุณพ่อ คุณแม่ตามประสาที่เกษียณแล้วก็ไปกันวันพุธที่ 31 แล้วก็ประทับใจ (แต่ไร้นามไปไม่ได้เพราะต้องไปทำงาน) พอวันอาทิตย์ที่ 4 มิ.ย. ก็มีโอกาสได้ไปซักที...
บนแดนแผ่นดินถิ่นท่าน
ชื่นบานใต้ดวงแสงสูรย์
อุ่นใจด้วยด้วยทรงเกื้อกูล
อาดูรไพร่ฟ้าข้าชีวิน
ด้วยความที่เป็นนิทรรศการที่เคยมีกำหนดการว่าจะเป็นวันสุดท้ายทำให้มีผู้คนคึกคักกว่าสองครั้งก่อนที่บ้านไร้นามมากัน แต่ตอนนี้รู้ทันว่ามีที่จอดใหม่ขนาดใหญ่ใต้ Challenger Hall เลยทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถสักเท่าไหร่ ภาพแรกที่เห็นคือผู้คนมากมายใส่เสื้อสีเหลืองเดินกันเต็มถนน...
หกสิบกว่าปีเวียนครบ
น้อมนบพระคุณไม่สิ้น
ด้วยน้ำพระทัยเกินจินต์
ปันให้แดนดินถิ่นไทย
จุดหมายแรกที่ไร้นามตั้งใจไปก็คือการจองบัตรละครเพลงพระมหาชนก เนื่องจากพยายามจองทาง internet แล้วไม่ได้ ไปต่อแถวเกือบชั่วโมงแต่ก็พลาดบัตรรอบบ่ายสองไป (ไปถึงประมาณเที่ยง) มีแต่รอบทุ่มนึงซึ่งไม่แน่ว่าจะได้ไหม (เพราะไม่ใช่ต้นๆ คิว) สงสารคุณพ่อคุณแม่มาต่อคิวร้อนๆ ด้วยเลยตัดสินใจไม่ดูไปเดินนิทรรศการอย่างเดียวดีกว่า แต่ก็เสียดายพอควร...
ข้าขอน้อมนบกราบกราน
บนบานแก่ปวงเทพไท้
โปรดจงปกป้องดวงใจ
อย่าให้ผองภัยกร่ำกราย
นิทรรศการจัดเป็นสองส่วน ส่วนแรกที่ Challenger Hall คือนิทรรศการพระราชประวัติ มีเก้าห้อง ไล่เรื่อยไปตามภาพที่นำมาให้เพื่อนๆ ชม ส่วนที่สองคือ นิทรรศการที่ตึกเก่าไล่ตั้งแต่ของภาคเอกชน และก็ป่า น้ำ ดิน และจบลงที่การแสดง musical เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งไร้นามไม่ได้นำรูปมาเพราะกล้อง battery หมดไปซะก่อนอย่างน่าเสียดาย...
นับล้านชาวไทยเข้าร่วม
ท้นท่วมมุ่งสร้างความหมาย
ไม่เหนื่อยทั้งใจและกาย
เพื่อนายเหนือหัวยอมทน
การเดินชมนิทรรศการคราวนี้ทำดีมากคือบังคับให้เดินทางเดียวไหลไปเรื่อยๆ ตามกระแสคน ทางเดินกว้างขวางและแต่ละห้องมีความงามตระการตา อากาศเย็นสบายทั้งๆ ที่เราอยู่ในคลื่นมหาชน ทุกห้องที่ก้าวเข้าไปให้ความรู้สึกน่าทึงในความทุ่มเทของผู้จัดอย่างมาก...
ทุกหยาดน้ำตาแห่งปิติ
น้อมสติทั่วทุกแห่งหน
ทราบซึ้งตรึงใจทุกคน
ที่ตนเกิดใต้พระบารมี
จากโถงด้านหน้าที่มีบ้านทรงไทยงดงามเดินเข้าสู้ห้องโถงใหญ่สีแดงเข้มห้องแรกกล่าวถึงการสืบราชสันตติวงศ์ เป็นพระราชประวัติของรัชกาลที่ 1-8 ซึ่งทำได้อย่างอลังการน่าประทับใจมาก ทุกรัชการมีประราชประวัติละเอียดพร้อม TV สารคดี มาถึงห้องที่ 2 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ที่จัดได้อย่างน่ารัก ทำเอาไร้นามหยุดยืนดูสารคดีอยู่นานพอดู...
ธ เปรียบยิ่งกว่ามหากษัตริย์
ทั่วรัฐแซ่ซ้องซึ่งศักดิ์ศรี
ทรงเป็นเช่นพ่อที่ปรานี
ให้ลูกได้มีที่ภูมิใจ
ห้องที่สามกล่าวถึงสมเด็จพระบรมราชินีฯ ให้แสงสีการเล่นน้ำพุอย่างสวยงาม ต่อด้วยห้องที่สี่พระปฐมบรมราชโองการที่ให้คนได้นั่งพัก (กับพื้นพรมแดง) ดูวีดีโอที่ท่านขึ้นครองราช ตามด้วยห้องที่ห้าอัครศาสนูปถัมภกที่กล่าวถึงทุกๆ ศาสนาได้อย่างกลมกลืน พร้อมด้วยภาพสมัยทรงผนวช และทางเดินกึ่งป่าที่พาผู้ชมไปพบกับบรรยากาศภาพและเสียงของศาสนาต่างๆ...
เกิดมาข้ามีชีวิตหนึ่ง
ได้ซึ้งซึ่งคุณอันยิ่งใหญ่
สิ่งนี้หามิได้ในที่ใด
มีเพียงแดนไทยที่โชคดี
ห้องที่หกเสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฏร เป็นระบบ multimedia ที่ต้องไปรอเข้าคิวพอเข้าไปแล้วเป็นเหมือนขบวนรถไฟที่สองข้างทางเป็นกระจกสะท้อนภาพเรื่องราวซึ่งทำได้ดีมาก ห้องที่เจ็ดคนของแผ่นดินมีภาพพระราชกรณียกิจที่น่าประทับใจ ตามด้วยห้องที่แปดพระอัจฉริยภาพที่ไร้นามชอบมากๆ ภาพวาดงดงาม งาน 3D ซุ้มดนตรีที่เดินผ่านด้านใต้แล้วได้ยินเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ต่างๆ ภาพทรงเรือบนใบเรือ และอีกมากมายที่บรรยายไม่หมด และห้องสุดท้าย ห้องที่เก้าเทิดไว้เหนือเกล้าชาวไทยที่เปิดให้ร่วมถวายพระพร...
หนึ่งหยาดน้ำรินดินรับ
เข้าประทับจับใจทุกถิ่นที่
ทั่วทั้งชาติชุ่มชื่นฟื้นชีวี
จึงพร้อมน้อมฤดีแด่ราชา
Create Date : 12 มิถุนายน 2549
Comments