" Patience is the companion of wisdom. " -- Saint Augustine |
ตั้งแต่เล็กๆ ฉันเหมือนเป็นคนที่ค่อนข้างมีความอดทนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องของ "การรอคอย" เวลาที่มีนัดอะไร ถ้าฉันต้องเป็นฝ่ายรอฉันก็ไม่ค่อยจะเบื่อนัก จำได้ว่าตอนเด็กๆ มัธยมปลาย เคยไปเข้าค่ายฟิสิกส์โอลิมปิกเป็นตัวแทนภาคกลาง จะมีช่วงรอโน่นรอนี่ที่ค่อนข้างนาน นั่นก็เป็นครั้งแรกที่ฉันเริ่มแต่งบทกวีเรื่อยๆ เปื่อยๆ เป็นชิ้นเป็นอันระหว่างรอ...
เก็บดาดาวพราวพร่างกลางห้วงฟ้า
กอปรเวลามาร้อยรอยภาพฝัน
กำเนิดภาพทราบซึ้งตรึงนิรันดร์
ก่อนคืนวันผันผ่านกาลเปลี่ยนแปร
นับแต่นั้นมาฉันไม่เคยรู้สึกเบื่อการรอคอยเลย ถ้ามีจังหวะว่างต้องรอคอยอะไรนานๆ หลายๆ ครั้งฉันก็แต่งบทกวี (แต่หลายๆ ครั้งก็นั่งเฉยๆ ดื่มด่ำกับความเงียบสงบที่นานๆ ทีจะแวะเวียนเข้ามาทักทาย) ถ้าพูดถึงการรออะไรที่จับต้องได้ ครั้งที่รอนานที่สุดก็คือการรอเครื่องเที่ยวบินที่กรุงกาต้าร์ (รอประมาณหนึ่งวันเต็มๆ โดยไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้ขึ้นเที่ยวไหน เพราะไร้นามโดนเจ้าหน้าที่ที่ด่านที่นั่นกักตัวยึด passport เลยต้องไปเคลียร์กัน - ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าทำไมเค้าถึงยึด passport ตรงด่านไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นเป็นผู้หญิงไทยเดินทางคนเดียวหรือเปล่าก็เลยโวยวายพอควร - งานนั้นต้องขอบคุณบัตรนักเรียนมหาลัยเคมบริดจ์ที่พอเอาไปให้เค้าดู ก็เลยรอดมาได้ แต่ก็โชคร้ายที่เครื่องบินเที่ยวถัดไปก็ delay ฯลฯ)
แล้วเดินทางผ่านห้วงมหรรณพ
ทราบสงบบ่มอารมณ์ห่มกระแส
ปล่อยตัวตนวนว่ายมิหน่ายแล
เพราะทราบแน่ว่าแค่ไหนแต่ไรมา
แต่การรอคอยมิได้มีแค่เพียงการรอคอยสิ่งที่จับต้องได้อยู่อย่างเดียว หลายๆ อย่างในชีวิตของคนก็เป็นการรอคอยห้วงจังหวะเวลาของชีวิต หรือโอกาสที่จะก้าวเข้าไปเมื่อเหมาะสม หลายๆ อย่างหลายๆ คนอาจจะพลาดจังหวะชีวิต หรือ โอกาสอะไรไป เพราะ "ไม่รอ" หรือเพราะ "มัวแต่รอ" ก็ตาม... ไร้นามนับเป็นพวกหลังกระมังเพราะค่อนข้างจะเป็นคนที่ชื่นชอบการรอคอยนักหนา แต่การรอคอยในสิ่งที่ไม่แน่นอนที่ดีที่สุดคือการรอคอยที่มีสติรู้คือไม่ตั้งความหวัง เพราะถ้าพลาดไปก็จะรู้สึกเพียงว่า เอาใหม่ละกัน แล้วก็มองหาเรื่องราวอื่นๆ ทำต่อไป
จึงแย้มยิ้มพริ้มเพราเย้าชีวิต
ด้วยทราบจิตสิทธิ์ตนมิบ่นบ้า
เมื่อรอแล้วแคล้วคลาดพลาดเวลา
ก็มุ่งหน้ากล้าเดินเผชิญตน
เพื่อพร้อมวางสร้างฐานสานวันใหม่
ร้อยแรงใจไปเถิดให้เกิดหน
เก็บดาดาวพร่าวพร่างวางกมล
พร้อมผจญหนทางใหม่ไม่กลัวเกรง
Comments