Skip to main content

ฤดูหนาว

ฤดูหนาวปีแรกของฉันที่แดนไกล สิ่งที่ฉันชอบที่สุด คือช่วงชีวิตที่ได้ไปอยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งชื่อ Melbourne กับคุณยายแสนใจดีชาวอังกฤษอายุ 89 ปี พร้อมกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นอีกคนที่ชื่อ ชิโตเสะ สาเหตุทั้งหมดที่ฉันไปที่นั่นก็คือ ฉันไปเข้าร่วมโครงการ host family ให้เด็กต่างชาติเรียนรู้วัฒนธรรมอังกฤษสำหรับช่วง Christmas อันแสนเงียบเหงา

เปิดตา...
มองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
จากที่เคยสุดเอื้อมไกล
กลับคว้าไขว่ใช่เพียงเงา


ไม่น่าเชื่อว่า Debby แม้อายุจะมากแล้ว ก็ยังแสนแข็งแรงขับรถมารับฉันที่ท่ารถของเมือง แล้วก็พาฉันไปอยู่ที่บ้านอันอบอุ่นนั่นในช่วงฤดูหนาว ความอบอุ่นที่กล่าวถึงนั่นไม่ได้มาจาก heater เพราะบ้านหลังนี้เป็นระบบเก่าที่ใช้แก๊ส จึงไม่ค่อยอุ่นนัก แต่เรามีเตาไฟและผ้านวม แต่ความอบอุ่นมาจากน้ำใจของคนที่นี่

การได้มาที่นี่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ชีวิตของคนอังกฤษ จริงๆ แล้วพวกเค้าเป็นคนที่น่ารัก ครอบครัวที่อบอุ่นทีเดียว และก็รู้เรื่องราวมากมาย ของประเทศต่างๆ ในโลก โดยเฉพาะ Debby ผู้ซึ่งสมัยสาวๆ เคยเดินทางเกือบทั่วโลก และเคยมาประเทศไทย (ทางเรือ) แล้วประทับใจ นั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เค้ารับเด็กเอเซียอย่างพวกเรามาดูแลอย่างดี

ด้วยความที่เป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้าน ทุกๆ คืนแต่ละบ้านก็จะชวน Debby ไปงานปาร์ตี้ Chirstmas บางวัน พวกเราวิ่งเข้าวิ่งออกกันหลายงาน (กลางวันสองที่ กลางคืนสองที่) การไปแต่ละที่ก็ได้ของขวัญเต็มเลย (พวกเค้าเตรียมของขวัญให้ฉันด้วยเพราะ Debby บอกล่วงหน้าว่าจะพาฉันไป)

กลางคืนเราก็กลับบ้านมา ช่วยกันทำอาหารแบบอังกฤษ ทำขนมแบบอังกฤษ ล้างจานแบบอังกฤษ (แช่แล้วเช็ด) แล้วก็คุยกัน เล่าเรื่องราวของแต่ละคน ในวงไพ่นกกระจอก (Debby เป็นคนชวนเล่น Debby บอกว่าเรียนรู้สมัยไปฮ่องกงตอนสาวๆ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งฉันและชิโตเสะต่างก็เล่นเป็น - อุ๊บ! คือไร้นามมีความรู้รอบตัวนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ) พวกเราสามคนสามชาติก็เลยเล่นไพ่จีนคุยกันได้หลายๆ คืนในหมู่บ้านเล็กๆ นั่นที่อังกฤษ

ฉันจำได้ว่าฉันป่วยหนักเพราะอากาศหนาว แล้ว Debby มาดูแลให้อย่างดี ในขณะไล่เลี่ยกันชิโตเสะ ก็กำลัง(คิดว่าตัวเอง)อกหัก เพราะแฟนเค้าไม่ได้บินมาหาที่อังกฤษตามที่ตกลง (มารู้กันวันหลังๆ ว่าเค้าจองเครื่องไม่ได้ แล้วก็แกล้งอยากทำให้ดีใจทีหลัง) พอเจออะไรเยอะแยะ พวกเราก็สนิทกันขึ้นมา พอแฟนมาหาก่อนปีใหม่ ชิโตเสะเลยกลับไปก่อน ฉันเลยได้ใช้เวลาอีกวันสองวันอยู่กับ Debby ก่อนที่จะกลับ Cambridge ยังจำได้ว่า Debby สอนฉันหัดกวนแยมผิวส้มสนุกทีเดียว

พอตอนฉันกลับ Debby อาสาขับรถข้ามเมืองมาส่งทั้งๆ ที่หิมะตก (เพราะฉันไม่ค่อยสบาย เค้าเลยไม่อยากให้ไปขึ้นรถบัสลำบาก) ฉันซาบซึ้งมาก เพราะต้องขับมาไกลพอดู (ห่างกันประมาณชั่วโมงครึ่งได้) พอมาถึง Debby ก็หอบเอากระปุกแยมยิวส้ม (Marmalade) ขวดน่ารัก และก็ผลไม้จากสวนหลังบ้านห่อเป็นของขวัญมาให้ ฉันประทับใจมากเลยเพราะเข้าแอบทำให้ทั้งหมด หลังจากนั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนทางจดหมายกัน

ลมหนาว...
ใช่พร่างพราวด้วยความเศร้า
เพราะในหนึ่งความเงียบเหงา
อาจมีเรายิ้มละไม

แค่เพียง...
ลองฟังเสียงของคนใกล้
อาบความสุขจากหัวใจ
กระซิบไปเป็นเพื่อนกัน

ไม่นาน...
ก็จะผ่านอีกความฝัน
ความหนาวเหน็บเก็บกำนัล
เพื่อรอวันดอกไม้บาน

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...