Skip to main content

Nottingham




ฟ้าไร้ฝุ่น
น้ำเงินเข้ม
...สนธยา...




ทริปนี้แวะมาเที่ยวเมือง Nottingham เพราะเมืองนี้ได้เป็น UNESCO Creative City ด้าน วรรณกรรม (Literature) เดินชมเมืองนี้ตอนพระอาทิตย์กำลังตก ท้องฟ้าค่อยๆ มืด ก็สบายๆ ฟุตบาทเค้าทำให้เดินง่ายคือราบเรียบ ขนาดเส้นทางต้องเดินขึ้นเนินนิดๆ ก็ไม่เหนื่อยเพราะทางเค้าทำแบบค่อยๆ ลาดชัน มีวัยรุ่นแบบนักศึกษาเดินผ่านเป็นระยะๆ ดูปลอดภัยดี / โรงแรมที่พักอยู่ในย่านเมืองเก่าที่ต้องเดินผ่านตึก National Judgetice Mesuem ตอนแรกอ่านรีวิวแล้วเค้าบอกว่าเป็นตึกผีดุ กะว่าจะไม่เดินผ่านตอนกลางคืน แต่พอลองๆ ผ่านตอนโพล้เพล้ก็ดูสวยดีไม่ได้น่ากลัวเลยถ่ายรูปมาฝากตามภาพข้างบนค่ะ



ช่างงามตา
เกินกว่าคำ
จะพร่ำกล่าว




ด้วยความที่ย่านกลางคืนที่นี่บรรยากาศไม่น่ากลัว (ไม่เจอคนเดินสูบบุหรี่ ไม่เจอ Homeless ตามรายทาง) ก็เลยลองเดินไปทานอาหารสเปน ที่ Bar Ibérico สถานที่คือเรียบร้อยบรรยากาศดี เหมือนมีนักศึกษามานั่งกินกัน ร้านนี้ได้รางวัลมิชลินด้วย สั่งอาหารสเปนแนว Tapas คือมาเป็นจานเล็กๆ อาหารอร่อยมากๆ จัดมาเต็ม จานแรกปิ้งย่างตามภาพข้างบนโน้นเนื้อแกะย่างไม้ไม่มีกลิ่นคาว จานข้างบน Paella ทะเลจัดมาเครื่องแน่นๆ ของทะเลสดกรอบ และ แซงเกรียที่สั่งมาดื่มเคียงก็ผสมมาดี ร้านนี้ประทับใจมากๆ เลยแนะนำถ้าใครไป Nottingham นะคะ / แล้วตอนเย็นกลับมาที่โรงแรม (พักโรงแรมชื่อ Lace Market Hotel) ตอนจะเข้า Wi-Fi ระบบถามให้ลงทะเบียน Email และ เดือนเกิด ใส่เข้าไปพอดีเกิดเดือนที่ไปพัก มีเมล์ Happy Birth Month มาให้ลงไปรับเครื่องดื่มฟรีที่ Bar ข้างล่างของโรงแรมได้อีก แต่คนแน่นไม่มีที่นั่งแถมคิวยาว เลยถามเค้าว่ารับเป็นกระป๋อง Can ในตู้ได้ไหม (ราคาถูกกว่าสั่ง Cocktail) แต่ขี้เกียจรอคิว พนักงานเค้าก็เต็มใจให้มาเลยเลือก Ale มากระป๋องนึงเห็นภาพเก๋ดีเป็นตึกๆ สีชมพูคือกระป๋องตามภาพข้างล่าง



ผู้คนดี
มีน้ำใจ
ในเรื่องราว




เดินเข้าๆ ออกๆ โรงแรมผ่านโซน Reception (ด้านบน) พนักงานผู้หญิงในภาพถามว่าเรามาเที่ยวคนเดียวใช่ไหมเดี๋ยวเค้าพิมพ์แผนที่ให้ (ทำมาให้ฟรีๆ) อันนี้คือภาพตอนเค้าเดินกลับไปตรง Counter แล้วไปพิมพ์แผนที่ให้ (ข้าพเจ้ากำลังรอขึ้นลิฟท์อยู่ก็เลยรอต่ออีกนิด) พอเค้าพิมพ์เสร็จก็มาร์คจุดเพิ่มให้ด้วยว่าจุดเที่ยวไหนในเมืองที่เข้าชมฟรีไม่คิดตังค์ รู้สึกได้เลยว่าคนเมืองนี้มีน้ำใจ โดยเฉพาะโรงแรมนี้ทั้งมีของขวัญเดือนเกิดให้ฟรี ทั้งใส่ใจ สมกับที่เป็นโรงแรมทีมิชลินไกด์แนะนำ (ข้าพเจ้าก็เที่ยวง่ายๆ คือกิน-พักตามที่มิชลินแนะนำ และก็เที่ยวสถานที่ตามที่ยูเนสโก้แนะนำ)



เป็นภาพพราว
ประทับมา
ในทรงจำ




ทริปนี้เพราะพักที่นี่คืนนึงเลยได้เห็นเมืองนี้ทั้งยามกลางวันและยามค่ำคืน ที่เที่ยวเมืองนี้ก็มีย่านริมน้ำตามภาพข้างบนๆ มีปราสาทโรบินฮู้ด ที่มีรูปปั้นคุณโรบินฮู้ดที่ปล้นคนรวยช่วยคนจนอยู่ข้างหน้าปราสาท (จุดนี้ต้องต่อคิวถ่ายภาพ /พยายามถ่ายหลบคนอื่นอยู่ดูเหมือนไม่มีคน แต่จริงๆ แล้วฝั่งนี้คนเพียบ 555) และ ก็ย่าย Town Hall ตามภาพข้างล่างโดยในเมืองจะมีรถรางวิ่งรอบๆ การเดินทางที่เมืองนี้ไม่ลำบากอะไร และ บรรยากาศดีไม่น่ากลัว เป็นอีกเมืองที่แนะนำค่ะ



เดินดูภาพ ชีวิตคน หลากหลายเมือง
บันทึกเรื่อง ที่พบเจอ ดั่งเพ้อพร่ำ
มาปันแบ่ง ประกอบภาพ ให้ดื่มด่ำ
เพราะหลายสิ่ง เกินถ้อยคำ จะบรรยาย


Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...