Skip to main content

Norwich

 



เดินริมธาร
ยลความนิ่ง
...ในเคลื่อนไหว...




เมือง Norwich ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน UNESCO Creative Cities ด้าน Literature (วรรณกรรม) ตอนอ่านรีวิวของเมืองนี้คือ เป็นเมืองค่อนข้างปลอดภัยยกเว้นถนนเส้นใหญ่ Prince of Wales ที่มาจาก Train Station และ ได้รับคำแนะนำว่าให้เลี่ยงไปเดินเรียบคลองริมน้ำ ตามเส้นทางในภาพด้านบน จนมาถึงประตูน้ำภาพด้านบนสุด ย่านนี้แนะนำนะคะ ไม่เปลี่ยวมีคนวิ่งออกกำลังกายเป็นระยะๆ วิวสวย มีหงส์เต็มไปหมด สงบร่มรื่น



ผ่านพงไพร
พบสิ่งใหม่
ช่างงามงด




ขึ้นมาตามถนนเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ Norwich Cathedral (ภาพที่ 3 จากด้านบน) ช่วงที่ไปเป็นช่วง Easter ที่ Cathedral เลยเหมือนมีพิธีอะไรอยู่ตามภาพด้านบนก็เลยไม่ได้เดินเข้าไปดูตรงโบสถ์หลัก (ได้แต่มองจากรอบๆ เพราะเค้าดูสวดกันอยู่แบบสงบเรียบร้อย เลยกลัวจะเป็นการรบกวน) 



ความเรียบง่าย
ความร่มเย็น
เห็นปรากฎ




ก็เลยเลือกออกไปเดินด้านใน The Cloister ของ Norwich Cathedral ซึ่งเรียบง่ายแต่สวยมาก (ดังภาพทั้งด้านบนๆ และด้านล่าง) ที่ลองถ่ายจากคนละมุมของจัตุรัสตรงนี้ ตามบันทึกเขียนไว้ว่าเป็น The Largest Cloister (มีขนาดใหญ่ที่สุด) ของอังกฤษเลยทีเดียว ที่นี่มีอายุประมาณ 900 ปี



ช่างสวยสด
จนจรดจาร
ทราบทรงจำ




ภาพด้านบนคือ St. Etherbert's Gate เป็นประตูที่ให้รถผ่านได้ ตอนเดินๆ อยู่มีรถมาพอดีต้องทำตัวลีบๆ ให้รถขับผ่านไปเพราะฟุตบาทช่วงประตูค่อนข้างจะแคบ / ภาพข้างล่างคือย่ายเมืองใหม่ ด้วยความที่ไม่อยากเดินตรงถนนที่มีคนเตือน เลยเลือกมาเดินริมน้ำอีกฝั่งข้ามสะพานคนเดิน ณ.จุดข้างล่างแทน ก็จะเห็นชีวิตผู้คนทั้งในโซนเมืองเก่าและเมืองใหม่ / ส่วนภาพล่างสุดคือมื้อกลางวันแสนอร่อยที่ Norwich มีร้านอิตาลีที่ได้มิชลินชื่อร้าน Benoli ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบทาน อาหารอิตาลีเพราะรู้สึกว่าเลี่ยนๆ ไป ปรากฎว่าที่นี่ทำแบบใส่ชีสมาเยอะแต่กลับอร่อยมากไม่เลี่ยน และพนักงานร้านนี้นิสัยดีมากๆ เป็นร้านที่แนะนำนะคะ



ลองเปลี่ยนที่ ลองท่องเที่ยว เรื่อยๆ ไป
ก็พบพาน ภาพใหม่ใหม่ ทุกเช้าค่ำ
เปิดโลกกว้าง ทางอารมณ์ ชมดื่มด่ำ

จนมาร่ำ ร่ายกวี พร้อมภาพเคียง

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...