Skip to main content

Cambridge 2024 - Gown



เคยร่ำ
เคยเรียน
...อยู่ที่นี่...




Blog เคมบริดจ์ชุดที่สอง ต่อจาก Town ก็เป็น Gown นะคะ คือรวมภาพสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับ University of Cambridge ในเมืองเคมบริดจ์ (ที่ๆ เมือง และ สถานศึกษา - Town & Gown อยู่ผสมๆ กัน อย่างลงตัว) ภาพบนสุดเป็นภาพห้องสมุดใน Newnham College ที่ๆ ข้าพเจ้าใช้เวลาอ่านหนังสือในนี้บ่อยๆ สมัยเรียนเดี๋ยวนี้เค้าขยายจนใหญ่โตกว่าเดิม แต่ภาพนี้ถ่ายในมุมส่วนเดิมจุดที่ชอบไปจองโต๊ะนั่งอ่านหนังสือ / ภาพที่สองด้านบนคือภาพห้องบรรยายในส่วนต่อขยายใหม่ของ College (College คือที่ๆ กินอยู่นะคะ แต่ก็มีจัดกลุ่ม จัดบรรยายพิเศษอะไรด้าน คล้ายๆ ระบบ House ของ Hogwarts) / ส่วนภาพข้างล่างคือ Porter's lodge ที่ทำใหม่ของ Newnham (ที่ๆ มา Check-in รับกุญแจห้องพัก ฝากกระเป๋า ฯลฯ คล้ายๆ โรงแรม) คุณ Porters คอยดูแลความปลอดภัยและสารทุกสุกดิบให้แทบทุกอย่าง (สมัยเรียนจะมาติดต่อที่นี่บ่อยๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นมารับ-ส่งจดหมาย / มาฝาก-ยืมอะไร / คล้ายๆ จุด reception ของโรงแรม)



ได้พัก
อย่างดี
ยามศึกษา




ภาพด้านบนเป็นภาพตึกแรกที่มาพักอยู่ถึง 3 ปี (แต่มีย้ายห้อง) ปีแรกที่มาถึง ได้พักที่ห้องชั้น 3 ที่มีหน้าต่างยื่นออกมาจากหลังคาห้องแรกสุดทางซ้ายมือ (Rosalind Franklin ตึก A) ข้างในชั้นนึงจะมี 4 ห้อง (ห้องส่วนตัว) เปิดประตูมาแชร์ห้องน้ำกัน 4 ห้อง (ห้องน้ำอย่างดีมี Bath Tub ด้วย) และ ชั้น 2-3 จะแชร์ห้องครัวขนาดใหญ่ด้วยกัน (ห้องครัวแชร์กัน 8 ห้อง) ส่วนตัวพักอยู่ที่นี่ตอนเรียนปริญญาโท / พอเรียนต่อปริญญาเอก ขอย้ายไปอยู่ชั้น 1 ซึ่งเป็นห้องแนว Family แต่ถ้า Family มาอยู่ไม่ครบ ก็จะเปิดให้แชร์กัน 2 คน ตอนนั้นเลือก Roomate เป็นคน Ireland ทำปริญยาเอกเหมือนกัน จะเป็นห้องที่มีห้องนอนแยกกันเป็นพื้นที่ส่วนตัว 2 ห้อง แล้วแชร์ห้องครัวกับห้องน้ำและห้องเก็บของกับเพื่อนแค่คนเดียว สบายและเป็นส่วนตัวมากๆ / ส่วนข้างล่างคือห้องที่ได้พักคราวนี้ที่ College จัดให้ของตึกที่สร้างใหม่ Dorothy Garrod คือมีห้องน้ำในตัวเลย ห้องสวยเหมือนโรงแรม เช่นมีตู้เย็นๆ เล็กๆ ให้ในห้อง สะดวกสบายขึ้นเยอะ มาเรียนเคมบริดจ์ไม่ต้องห่วงว่าจะพักลำบาก ที่มหาลัยมีที่พักของ College ต่างๆ ที่จัดให้ดีมากๆ (ส่วนตัวชอบ Newnham ที่สุด)



วิวสวย
ชดชื่น
น่าตื่นตา




อย่างที่เกริ่นไว้ใน blog ก่อนๆ ว่ากลับมาอังกฤษคราวนี้คือการกลับมางาน Reunion ของคนที่ Matriculation ปี 1999 (ครบรอบ 25 ปี ในปี 2024 พอดี /ทางอังกฤษถือว่ารอบ 25 ปีเป็นฤกษ์มงคล เรียกว่าเป็น Silver Jubilee) ก็มีพิธีการหลายอย่างที่เข้าร่วม หลักๆ เลยที่ขาดไม่ได้ก็คือการทาน Formal Hall นั่งโต๊ะยาวๆ ตามภาพข้างล่าง แล้วเค้าก็จะมาที่เสริฟอาหารแบบ Fine Dining ทีละชุด มื้อนี้เค้าจัดพิเศษคือเอาเมนูอาหารที่เคยเสริฟเมื่อ 100 ปีก่อน (ปี 1924) มาเสริฟให้ทาน - เคมบริดจ์เป็นมหาลัยที่อายุ >800 ปี ดังนั้นข้อมูลเรื่อง 100 ปีก่อน ถือว่าเป็นข้อมูลยุคใหม่หาค้นเอามาทำซ้ำกันได้ง่ายๆ / ลืมบรรยายภาพข้างบนว่าเป็นวิวหน้าต่างห้องพัก เป็นทางเข้าหลักของนิวแน่มสมัยก่อนเรียกว่า Pfeiffer Arch / ส่วนข้างล่างคือ Dinner ที่ Clough Hall



ตำรา
มากมาย
ให้ได้ชม




ภาพข้างบนคือห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambrige University Library) จริงๆ ไม่ควรเรียก "ห้อง"สมุด แต่ควรเรียกตึกสมุดมากกว่า เพราะคือทั้งตึก (อันนี้แค่ส่วนหน้า ข้างในมีเข้าไปลึกๆ อีก) เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ มีหนังสือหายากที่สุดในโลกเก็บอยู่มากมายเพราะนอกจากจะเก็บงานวิจัยรางวัลโนเบลมากมายที่คนเคมบริดจ์ได้รับแล้ว ยุคนึงที่อังกฤษล่าอาณานิคมก็มีกฎว่า ถ้าไปเจอหนังสือหายากในโลก ให้ทำ Copy หนังสือเล่มนั้นมาส่งที่ห้องสมุดเคมบริดจ์ และ หนังสืออะไรที่มีคนส่งมาให้อังกฤษ ก็ให้ทำสำเนาส่งมาเก็บที่นี่ด้วย จนขนาดว่า สมัยสงคราม ถึงแม้อังกฤษกับเยอรมันจะรบกันดุเดือด ทิ้งระเบิดกันรุนแรง แต่มีคนเล่าว่าคุณฮิตเลอร์กำชับให้กองทัพเยอรมันว่าห้ามทิ้งระเบิดลงที่นี่ถึงแม้ตึกจะสูงเด่น เคมบริดจ์เลยไม่โดนระเบิดและยังคงมีหนังสือเก็บอยู่ครบถ้วน เวลาเข้าข้างในชั้นบนๆ จะเป็นห้องเก็บหนังสืออัดแน่น ที่เวลาจะดูต้องหมุนเลื่อนชั้นหนังสือออกมา ส่วนตัวคือยังไม่เคยเห็นห้องสมุดที่ไหนทำเนี๊ยบกว่าที่นี่เลย (และ ในนี้มีร้านอาหาร ที่ทำน้ำชาและ ขนมเค้กอร่อยมาก สามารถ ถือหนังสือเล่มที่ไม่ได้ถูกห้าม* ไปอ่านไปกินขนมไปได้ /*จะมีหนังสือบางเล่มเป็นหนังสือหายาก ที่เค้าจะให้นั่งอ่านข้างในโซนนึงในห้องสมุดเท่านั้น) / ภาพด้านล่างเป็นภาพคณะ Computer Laboratory ที่ฉันเรียน PhD ตอนปี 2-3 และทำงานต่อเป็น Post-doc Research Associate Fellow อีกหน่อย (ตอนปี 1 เรียนอยู่ที่ New Museum Site กลางเมือง) ตึกนี้เปิดมา 20 กว่าปีละ เป็นตึกแรกๆ โซน West ยังดูทันสมัยอยู่เลย



หลายอย่าง
ยังคง
อนุรักษ์




ข้อดีของการเป็นศิษย์เก่ามหาลัยคือมีบัตรศิษย์เก่า (Camcard) ทำให้ได้เข้าโซนต่างๆ ที่เป็นส่วนของมหาลัยฟรี (ป.ล. เป็นมหาลัยที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเยอะมากๆ เลยมีการเก็บเงินค่าเข้าหลายๆ จุด 555 /หาเงินกันเก่ง) อย่างภาพด้านบนคือใช้บัตร Camcard เดินผ่าน King's College ซะหน่อย จริงๆ ก็ไม่มีอะไร ถือถุง Shopping หนัก เลยมาเดินผ่านเป็นทางลัดไปโซน The Back กลับ College ตัวเอง และ แวะชมที่นี่นิดนึงเพราะเป็น College เพื่อนสนิท (เคยมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวที่นี่ด้วย) / ภาพข้างล่าง มาอยู่ Cambridge 4 วัน - วันที่ออกมาเดิน Shopping พบว่าเค้ารับปริญญากันพอดี (ป.ล. Cambridge จะจัดงานรับปริญญาทุกเดือน เพื่อความสะดวก เพราะ Senate House ที่ๆ ทำพิธีรับปริญญามีขนาดเล็ก และพิธีจะแบบอวยพรพวกเราทีละคน เลยค่อนข้างจัดแบบกันเอง บัณฑิตที่จบก็เลยสามารถเลือกได้ว่าจะสะดวกรับปริญญาช่วงเดือนไหนแล้วก็จองกลับมารับปริญญากันได้ ดังนั้นจะมีโอกาสที่จะเห็นคนรับปริญญาเวลามาเยี่ยมชม)



ยังคง
ให้พิงพัก
อย่างเหมาะสม




มาคราวนี้แวะมาเยี่ยมเพื่อน และ อาจารย์ - มาคราวนี้อาจารย์พาเดินชมห้องนั่งเล่นของเฟลโล่ว์ของ Trinity Hall (College ของอาจารย์) ตามภาพด้านบน และ โซนกินข้าวของทรินิตี้ฮอลล์ ตามภาพข้างล่าง ที่เคมบริดจ์ปกติแต่ละ College จะมีห้องพักผ่อนของแต่ละกลุ่มแยกกันเป็นโซนๆ เช่น Undergraduate นักศึกษาปริญญาตรีจะมีห้องพักรวมเรียกว่าห้อง JCR (Junior Common Room) ถ้าเป็น Graduate ก็จะมี MCR และ พวก Fellow หน่อยก็จะมีห้อง SCR (Senior Common Room) จะมี facility โน่นนี่เพื่อการรวมตัว เช่นที Newnham MCR ก็จะมีเปียโน โซฟา ทีวี จำได้ว่าสมัยตอนยังไม่มีทีวีที่ห้อง (เพราะอยู่อังกฤษมีทีวีต้องเสียค่า license) ก็จะมานั่งดูบอลที่ห้อง common และพบว่าถ้านัดกินน้ำชาห้องจะแน่นๆ แต่ถ้านัดดูบอล อังกฤษ-เยอรมัน บอลโลก มีคนมานั่งดูแค่ 2-3 คน! สมเป็นเมืองนักวิจัยจริงๆ คนเคมบริดจ์ไม่ค่อยสนใจดูบอล 555 เป็นเมืองเดียวในอังกฤษที่ไม่คึกคัก / เพราะมีอีกนัดที่ อังกฤษ แข่งบอลโลกกับประเทศไหนซักประเทศ (จำไม่ได้แล้ว) ตอนนั้นมีไปประชุมที่มหาลัยสเตอริงซึ่งอยู่สก๊อตพอดี ขนาดไม่ใช่อังกฤษ เค้าก็ปิด Lecture Theater หยุดการประชุม ถ่ายทอดสดให้พวกเราเชียร์บอลกันเฮฮาเลย



ยังเป็นเมือง
มหาลัย
ที่รื่นรมย์




มาเคมบริดจ์รอบนี้โชคดีอีกอย่างชื่อเป็นช่วง Cambridge Festival คือมีงานเปิดคณะต่างๆ แสดงเทคโนโลยี ประมาณ 2 สัปดาห์ (จัดทุกปี) เลยได้ไปเยี่ยมชมหลายๆ แห่ง (ที่ปกติจะปิดไม่ให้เข้า) เป็นงานเปิดมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์โซนคณะต่างๆ ให้เข้าชมฟรี! มีให้เล่นเกมรับของรางวัล โน่นนี่ สนุกมากๆ เลยไปเดินเล่นอยู่พักนึกเลย (สมัยเป็นเรียนอยู่ที่นี่ก็จะชอบเดินชมงาน Cambridge Festival ทุกปีเหมือนกัน เพราะจัดสนุก และ มีของแจกเพียบ @^_^@) / ป.ล. ส่งท้าย บรรยายภาพข้างล่างสุดหน่อย คือไปเยี่ยมชมคณะวิศวะที่เรียนที่นี่สมัยปริญญาโท (ก่อนตัดสินใจย้ายคณะไปเรียนปริญญาเอกที่คณะคอมพิวเตอร์ - ที่มหาลัยเคมบริดจ์จะมีคณะ Computer เป็นคณะเลย/ไม่ใช่ภาควิชาในคณะวิศวะ เพราะเป็นหนึ่งในที่ๆ กำเนิด Computer ของโลก)



เป็นที่บ่ม
สร้างสรรค์
ทั้งศาสตร์-ศิลป์



Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...