Skip to main content

Cambridge 2024 - Town



คิดถึง
เคมบริดจ์
...จึงกลับมา...




กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น



ตามหา
เรื่องราว
ที่เคยฝัน




บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป็นเมืองที่ปลอดภัยนักศึกษา อาจารย์เต็มเมือง กลางคืนก็ไม่น่ากลัว / ภาพที่สองเป็นภาพหน้าสถานีรถไฟ Cambridge North เป็นสถานีรถไฟแห่งใหม่ทางตอนเหนือ สมัยเรียน 20 กว่าปีก่อนยังไม่มี แต่ทางเหนือมาสถานีรถไฟทางใต้คงจะไกลไป เค้าก็เลยสร้างขึ้น บริเวณทางเหนือที่เปิดขึ้นใหม่เค้าทำเป็น Science Park หรือบางคนก็เรียกเคมบริดจ์ Science Park ว่า Silicon Fen (สรุปคือเมืองเคมบริดจ์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีสถานีรถไฟมาจอดถึง 2 สถานี) / ภาพที่ 3 ถ่ายตรงทางเดินเข้าเมืองจากฝั่ง West ตอนใต้มาตามถนน Silver Street สมัยก่อนจะเป็นทางเดินฟุตบาทเฉยๆ สมัยนี้มีสกูตเตอร์ไฟฟ้าให้เช่าแบบนี้กระจายๆ ตามฟุตบาทในเมืองเก๋มากๆ / ภาพข้างบนเป็นวิวตรง Silver Street ข้ามแม่น้ำสายหลักของเมืองคือ River Cam จะมีเรือ Punting (เรือที่นี่ใช้หลักการ Punt /คือเอาไม้ถ่อเรือแบบดันกะพื้นดินใต้น้ำให้เรือเดินไปข้างหน้า - ที่นี่ไม่ได้พายเรือนะคะ) / ส่วนภาพข้างล่างคือโชคดีมาช่วงเทศกาลอีสเตอร์ อันนี้เพื่อนบอกว่าเป็นวันอาทิตย์ใบลาน เค้าเดินกันมาเป็นทางร้องเพลงกันเพราะมากๆ จะบอกว่าสมัยเรียนไม่เคยเจอ เพราะช่วงนี้สมัยเรียนก็จะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี... ก็หนีเที่ยวโน่นนี่ไม่ค่อยอยู่เมืองเคมบริดจ์ แหะ แหะ



ภาพงาม
ในความ
ทรงจำนั้น




วันที่ไปเช็คอินที่คอลเลจ คุณ Potter บอกว่า "ยินดีต้อนรับที่กลับมาหลังจากไม่ได้กลับมา 20 ปี แต่เดี๋ยวยูกลับไปเดิน ยูอาจจะรู้สึกว่าเพิ่งจากเคมบริดจ์ไปเมื่อวานนี้เอง" ตอนแรกก็ งงๆ นิดหน่อย ว่าจะไม่เปลี่ยนเลยเหรอ แล้วพอไปเดินเล่นก็พบว่าอะไรๆ แทบไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ มีที่แปลกใหม่นิดหน่อยก็เช่น โบสถ์มีทำ Cafe ข้างในให้ได้กินสโคนไปชมวิวสวยๆ ข้างในไปได้ (และให้เล่น Wifi ฟรีอะไรได้) แบบภาพข้างบน แต่ร้านค้าเก่าๆ ในเมืองยังคล้ายๆ เดิม ร้าน Fudge แสนอร่อยที่แจกให้ชิมฟรีทุกครั้งที่เดินผ่านเมื่อ 20 ปีก่อน ก็ยังแจกอยู่เหมือนเดิม สมัยเรียนชิมฟรีตลอดไม่เคยซื้อเลย คราวนี้เลยแวะมาอุดหนุนหน่อย เข้ามาเค้าก็สาธิตการทำ Fudge ให้ดูตามภาพข้างล่าง สงสัยมากๆ ว่าทำไมเมืองไทยไม่มี Fudge แสนอร่อยแบบนี้ขายบ้าง มันเป็นขนมอร่อยมากๆ เลย!



ยังไม่
เปลี่ยนผัน
จนวันนี้




ข้างบนเป็นภาพงานนิทรรศการภาพศิลปะสวยๆ ที่ให้เข้าชมฟรี งานนิทรรศการแบบนี้ และ Museum อีกมากมาย มีให้ชมฟรีเต็มเมืองไปหมดอยู่เช่นเคย ผู้คนที่เมืองนี้จะใจดีและเป็นมิตรมากๆ อย่างภาพวาดสวยๆ เหล่านี้ ฉันลองถามเจ้าหน้าที่ว่าจะถ่ายรูปได้ไหม (หลายแห่งจะไม่ยอมให้ถ่ายรูป) อันนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าตามสบาย แถมมาถามอีกว่าจะให้ถ่ายรูปให้ไหม แต่ฉันเกรงใจก็บอกว่าไม่เป็นไร / ส่วนภาพข้างล่างคือ Round Church โบสถ์ทรงกลมยุคโบราณ ที่เมืองเคมบริดจ์มีอะไรๆ เก่าแก่เยอะมาก แค่ตัวมหาลัยเองก็อายุมากกว่า 800 ปี สถานที่สวยงามมากมายจนฉันสงสัยมากๆ ว่าทำไมที่นี่ไม่ได้เมืองมรดกโลกซักที ทั้งๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สวยงาม และ ยิ่งใหญ่ในตัวมันเองมากกว่ามรดกโลกหลายๆ แห่งที่ฉันได้ไปเยี่ยมชมด้วยซ้ำ

มีเพื่อนเคยถามฉันว่าไปเที่ยวมาเยอะหลายๆ เมืองทั่วโลก มีเมืองไหนที่คิดว่าเป็นเมืองที่ดีที่สุด / ฉันตอบเพื่อนแบบไม่ต้องคิดมากเลยว่า "เคมบริดจ์" - เพื่อนหาว่าฉัน bias เพราะฉันเรียนจบปริญญาเอกจากที่นี่ แต่ฉันก็ยืนยันกับเพื่อนว่าเมืองเคมบริดจ์นี่คือเป็นเมืองที่ดีมากๆ เมืองนึงเลยจริงๆ นะ / แล้วเพื่อนคนนั้นตอนมาเที่ยวอังกฤษก็แวะมา (เพราะฉันเชียร์สุดๆ 555) พอเที่ยวเสร็จเพื่อนก็ feedback กลับมาว่า เมืองเคมบริดจ์เป็นเมืองที่ดีจริงๆ ด้วย @^_^@



เมืองแสน
อบอุ่น
เปี่ยมน้ำใจ




สิ่งที่พิเศษกว่าสมัยก่อนคือ สมัยนี้เคมบริดจ์มีร้านอาหารและโรงแรมที่ได้ขึ้น Recommend ใน Web มิชลินแล้ว! ข้างบนคืออาหารร้าน Mercado Central ซึ่งได้มิชลินแต่ยังใจดี อาหารอร่อยมากๆๆๆๆ ร้านกันเองยินดีต้อนรับสุดๆ แม้ไม่ได้ Booking ไปก่อน แนะนำร้านนี้เลยนะคะสำหรับใครที่แวะเที่ยวเคมบริดจ์ / ส่วนข้างล่างคือโรงแรม Hotel Du Vin Cambridge เพราะทริปนี้วางแผนอยู่นานกว่ากำหนดการ Reunion ที่พักในคอลเลจเลยไม่พอ (เค้าให้พักแค่ 2 วัน) ก็ต้องจองโรงแรมข้างนอกอยู่เพิ่มต่อ เลยตัดสินใจลองจองโรงแรมที่ได้รับการแนะนำบนเพจมิชลิน ประทับใจที่พักมากๆ ค่ะ พนักงานที่โรงแรมนี้มีน้ำใจ เช่นอยากได้นมสดมาใส่น้ำชาเพิ่มจากที่เค้าจัดให้ฟรีในตู้เย็นก็โทรไปขอ เค้าก็เอามาให้เยอะมากๆ (ฟรี) ตอนมาเช็คอินก็มาตั้งแต่ 10 โมงเช้าเพราะขี้เกียจเข้าเมืองไปๆ กลับๆ กะแค่จะฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วไปหาเพื่อนร้านอาหารข้างๆ โรงแรม เค้าก็ใจดีบอกว่าไหนๆ มาแล้วก็ให้เข้าพักได้เลยจะได้สบายๆ (โรงแรมทีอื่นจะไม่ใจดีขนาดนี้) ห้องพักมีอ่างอาบน้ำ Bath Tub ขนาดใหญ่ อุปกรณ์อาบน้ำเป็นของ L'occitane หอมๆ อย่างดี แนะนำค่ะ!



ยิ้มแย้ม
ละไม
ดั่งน้องพี่




นัดกินข้าวกะเพื่อนสมัยเรียนเราก็นัดกันที่ร้าน Browns (ภาพด้านบน) เป็นร้านเก่าแก่ที่พวกเรานักเรียนเคมบริดจ์จะแซวกันว่าเป็นร้านรับแขกบ้านแขกเมือง คราวนี้เลยมากินที่นี่อีกครั้งรำลึกความหลังกับเพื่อนคนอังกฤษที่รู้จักกันสมัยเรียน / ภาพข้างล่างคือภาพตรง Market Square ที่ฝากท้องของฉันสมัยเรียน ที่นี่เป็นตลาดจะขายของราคาไม่แพง อาหารโปรดของฉันคือเคบับ ที่สมัยก่อนเป็นร้านโทรมกว่านี้ สมัยนี้ร้านเคบับทันสมัยขึ้นมากๆ แถมมีรูปปั้นเก๋ๆ มาตั้งเพิ่มขึ้นด้วย (สมัยก่อนไม่มี) วิวที่นี่ยังเหมือนเดิม คือเป็นตลาดที่สะอาดและดูดี ฉันชอบมาซื้อผลไม้ การ์ดอวยพร (เวลาเพื่อนๆ มีโอกาสพิเศษ) กับดอกไม้ที่ตลาดตรงนี้สมัยเรียน มีความทรงจำที่ย่านนี้มากมายจริงๆ



ผู้คน
ปันแบ่ง
ซึ่งไมตรี




ภาพข้างบนเป็นภาพอาหารอังกฤษแท้ๆ ของร้านที่เปิดใหม่ตรงถนน King's Parade ฉันนัดกินข้างกับอาจารย์ที่ปรึกษาปริญญาเอกที่นี่ อาจารย์ส่งร้านมาให้เลือกเยอะมาก (รวมถึง Option ว่าหรือจะไปกินข้าวที่ต่างเมืองแล้วอาจารย์จะขับรถพาไปให้ - อาจารย์ยังใจดีสุดๆ เช่นเดิม) แต่ฉันเลือกร้านนี้เพราะอยู่กลางเคมบริดจ์ ด้วยความอยากกินข้าวที่เคมบริดจ์แถมร้านนี้ได้ดูวิวสวยๆ หน้า King's College ด้วย (ถ้าเล็งภาพดีๆ อาจจะเห็นเงารางๆ ในกระจกนะคะ - ถ่ายภาพแล้วมันสะท้อนเลยเห็นไม่ชัด แต่ตอนกินจะเห็นวิวชัดสวยเลย) / ภาพข้างล่างอีกสองภาพมากจากที่เดียวกัน อันล่างนี้คือภาพหน้ามิวเซี่ยมขนาดใหญ่ที่ให้เข้าชมฟรีในเมืองเคมบริดจ์ชื่อว่า Fitzwilliam Museum เดินไปถ่ายตอนกลางคืนก็ดูสวยดี ส่วนภาพข้างล่างสุดคือตอนที่แวะเดินไปดูตอนกลางวันข้างในยังสวยมากๆ เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีงานแสดงใหม่ๆ เพิ่มขึ้น สมัยเรียนตอนคิดงานวิจัยไม่ออก ก็จะมาเดินเล่นที่นี่ (เค้าให้เข้าชมฟรี!) ก็จะเห็นพวก Innovation ยุคโบราณว่าคนสมัยก่อนเค้ายังสร้างโน่นประดิษฐ์นี่ได้ ทำไมเราจะทำ Innovation (ทางด้าน Computer Technology) ที่เป็นนวัตกรรมยุคเราไม่ได้ล่ะ สรุปคือได้แรงบันดาลใจในการทำนวัตกรรมทันสมัยจากมิวเซี่ยมโบราณ แฮร่...



จึงมี
สิ่งดีดี
อยู่เรื่อยมา





Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค...

Bhutan #1

ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ลมหายใจฟาดผ่านท้องนภา สร้างเมฆาลงมาปกพื้นดิน ให้จิตจินต์เกินกว่าพร่ำรำพัน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ฉันเลยชวนคุณแม่ไปหาที่พักผ่อนร่างกายในดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า (ประเทศภูฏาน) ที่ๆ อากาศน่าจะดีกับสุขภาพเพราะอยู่ในปุยเมฆที่ศาสตร์ทางจีนเชื่อว่าเป็นลมหายใจมังกร เมื่อนกยักษ์บินโฉบผ่านเทือกเขา ก็เห็นเงาสะท้อนภาพสุขสันต์ เทือกเขาเขียวหมอกสีขาวนับอนันต์ เป็นของขวัญธรรมชาติในแดนดิน สนามบินแห่งชาติพาโร เป็นสนามบินที่ได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุด ตอนแรกฉันแปลกใจที่คุณกัปตันจอดเครื่องบินรออยู่ที่ประเทศบังคลาเทศอยู่นานหลายชั่วโมง แต่แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อเครื่องบินกำลังจะบินลงสนามบินและเห็นปีกเครื่องบินเฉียดเทือกเขาหิมะลัยฝ่ามวลเมฆลงจอดในพื้นที่เล็กๆ ที่เค้าบอกว่าเป็นที่กว้างที่สุดในภูฏาน (เลยมาทำสนามบินนานาชาติ) ดังภาพประกอบด้านบนๆ สายน้ำสีมรกตระรินไหล ผ่านพงไพรก่อเริ่มเกิดทรัพย์สิน ให้ผู้คนบนเขาเข้าทำกิน ตั้งฐานถิ่นนานมาจนน่าชม ประเทศภูฏานมีภูเขาสีเขียวๆ ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมดเยอะมาก ภาพด้านบนๆ ที่ไม่ค่อยมีต้นไม้คือบริ...