Skip to main content

Nevada


จิตรกรผู้ใดในโลกหล้า
วาดผืนฟ้าด้วยสีฟ้าทาเติมฝัน
ระบายริ้วปุยเมฆขาวพราวกำนัล
ให้คงอยู่คู่นิรันดร์ห่มผืนดิน


ระหว่างทำงานพอมีเวลาว่าง (หยุดเสาร์-อาทิตย์) พวกเราก็ชวนกันไป Las Vegas รัฐ Nevada ขับรถกันไปเป็นเวลา 10 ชั่วโมงออกจากโรงแรมกันตั้งแต่ตอนเย็นวันศุกร์ ระหว่างทางจะเป็นบรรยากาศทะเลทราย ภาพประทับใจ (ที่ไม่ได้เก็บภาพมา) คือได้เห็นแสงสีของ Las Vegas และค่อยๆ เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า


จิตรกรผู้ใดในผืนโลก
เปลี่ยนมุมโศกให้งดงามด้วยงานศิลป์
ทะเลทรายแห้งแล้งเกินจิตจินต์
เปลี่ยนเป็นถิ่นทำกินให้ผู้คน


มาเวกัสคราวนี้ฉันไปพักที่โรงแรม Luxor ส่วนตัวคืออยากมาพักที่นี่อยู่แล้วเพราะเคยดูสารคดีเรื่องการสร้างตึกให้ห้องพักอยู่ในแนวเฉียงๆ ของพิระมิดและการสร้างลิฟต์โดยสารให้ขึ้นลงในแนวเฉียง ซึ่งถือเป็นงานทางด้านวิศวกรรมที่น่าประทับใจ


เมื่อมนุษย์พยายามสร้างสวรรค์
ก็รังสรรใส่ทุกสิ่งที่สุขสม
รวบรวมเอาทุกทุกอย่างที่รื่นรมย์
ลงทับถมจนคนเห็นเป็นภาพลวง


สิ่งที่มีชื่อเสียงอีกอย่างของเวกัสก็คืออาหาร Buffet ตามโรงแรม ที่มีอาหารให้เลือกหลากหลายและมีคุณภาพดีเช่นภาพข้างบนเป็นสตอร์เบอรี่ลูกโตๆ พร้อมขนมที่ให้ตักได้ไม่อั้น ภาพด้านบนเป็นร้านอาหาร Mandalay Bay ซึ่งเป็นเครือเดียวกันกับ Luxor [มีทางเชื่อมเดินไปถึงกันได้ ระหว่างทางเชื่อมก็มีอะไรน่าสนใจให้เดินชมเช่นภาพข้างล่างคือ Gallery ภาพถ่าย]


คลื่นมวลชนในห้วงแห่งมายา
จะเห็นค่าของชีวิตไหมให้ห่วง
บนเส้นทางที่ต่อสู้ต่างชิงช่วง
ต้องติดบ่วงลวงหลงน่าปลงใจ


อีกจุดหนึ่งที่ดังและทุกคนเหมือนต้องไปดูคือไปดูน้ำพุดนตรีที่หน้า Caesar Palace ทีมงานข้าพเจ้าพลัดหลงกันที่นี่เพราะคนเยอะมากๆ ระหว่างตามหากัน (แบบตามหาไปดูโน่นดูนี่ไป) เลยได้มีโอกาสอยู่ดูน้ำพุดนตรี 3 รอบและพบว่าแต่ละรอบเล่นคนละเพลงกันและเปิดจังหวะน้ำพุไม่เหมือนกัน


สิ่งจำลองทั้งมวลมาเรียงราย
ด้วยมุ่งหมายสร้างสรรความหวั่นไหว
ให้ประทับติดตรึงถึงฤทัย
ว่ายิ่งใหญ่งดงามถึงเพียงนี้


เมืองนี้เหมือนเป็นเมืองที่ไม่หลับไหลลงง่ายๆ ฉันกับเพื่อนๆ เดินเล่นกันจนเลยเที่ยงคืนแต่ผู้คนก็ยังเดินกันอยู่เต็มกลางถนน บ้างก็เต้นรำไปกับเสียงดนตรี (ดังภาพข้างล่าง ที่คนเดินไปเดินมาก็เข้าไปร่วมเต้นด้วย) โรงแรมและบ่อนคาสิโนหลายๆ แห่งก็เปิดไฟสว่างไสวเชิญชวนให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชม


ราตรียาวพราวพร่างด้วยความฝัน
หยุดนิรันดร์เวลาลวงเลิกห่วงหา
เพราะติดบ่วงวนเวียนของชะตา
จนกว่าจะเดินจากมาพบภาพจริง


หลังจากอยู่ที่เวกัสเป็นเวลาสองวันพวกเราก็เดินทางกลับ คราวนี้เป็นการเดินทางฝ่าทะเลทรายในตอนกลางวัน ภาพประทับใจระหว่างเดินทางคือภาพกังหันลมเต็มภูเขาเพื่อปั่นกระแสไฟฟ้า พลังงานธรรมชาติที่เค้าว่ากันว่าเป็นการสร้างพลังงานไฟฟ้าโดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม :)


ในอีกโลกมีมนุษย์ผู้สร้างสรร
เอาความรู้มาแบ่งปันน่าศึกษา
ทะเลทรายกลับก่อเกิดซึ่งคุณค่า
เมื่อนำมาใช้ให้เป็นอย่างเช่นนี้


นอกจากงานวิศวกรรมที่สร้างกังหันลมกลางภูเขาแล้ว ตามทุ่งโล่งกว้างก็ลง "ทุ่งกังหันลม" ได้เช่นกัน เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ากังหันลมแต่ละอันขนาดใหญ่มากๆ ต้องขอชื่นชมผู้สร้างและทีมงานซ่อมบำรุง (เพราะในทุกงานวิศวกรรมนั้นต้องมีการสร้างและการดูแล)


เมื่อผู้คนรวมแรงเป็นหนึ่งเดียว
ล้วนกลมเกลียวสร้างงานสร้างศักดิ์ศรี
จึงก่อเกิดเรื่องราวและสิ่งดี
อยู่ทุกที่ที่คนตั้งใจทำ




Create Date : 14 กันยายน 2558

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...