Skip to main content

Venice


นครแห่งนที
ปล่อยวารีให้รินไหล
สายน้ำผันผ่านไป
หล่อเลี้ยงไว้ซึ่งชีวิต



ชีวิตคนเราเหมือนค่อยๆ เดินตามความฝัน นครเวนิสเป็นเมืองที่ฉันอยากมาเยี่ยมชมสักครั้งตั้งแต่สมัยเด็กๆ และแล้วในที่สุดก็ได้มา...

ผู้คนร่วมสร้างฝัน
มุ่งหมายมั่นขีดลิขิต
สร้างเมืองดั่งนิมิตร
เลือกใกล้ชิดกับธารา



ฉันชอบเวนิส อาจเป็นเพราะฉันชอบเมืองเคมบริดจ์ที่ๆ มีแม่น้ำและมีการ punting กันเป็นประจำ และฉันก็ชอบสต๊อกโฮมที่มีลักษณะเป็นเกาะๆ มีแม่น้ำมากมาย เวนิสเป็นเหมือนส่วนผสมของทั้งสองเมืองเข้าด้วยกัน เป็นเกาะเล็กๆ น่ารักๆ เดินทางด้วยเรือ และเต็มไปด้วยวัฒนธรรม

ผ่านวันคืนเดือนปี
งดงามดีด้วยรักษา
เมืองเก่าแต่นานมา
สร้างคุณค่าด้วยดูแล

สะพาน Bridge of Sighs ที่เวนิส เป็นสะพานต้นแบบของสะพาน Bridge of Sighs ที่เคมบริดจ์ ที่เวนิสาสะพานแห่งนี้เป็นทางเดินของนักโทษก่อนเข้าคุก(ที่มีลักษณะสร้างอยู่บนเกาะที่มีน้ำล้อมรอบ) โดยหน้าต่างของทางเดินคือแสงสุดท้ายที่พวกเค้าจะเห็น (เลยต้องทอดถอนใจ) ส่วนที่เคมบริดจ์มีคนเล่าว่าเค้าสร้างให้นักศึกษาไปทอดถอนใจก่อนจะเดินไปเข้าห้องสอบ

น้ำท่วมนทีนอง
ตามครรลองเป็นกระแส
ทางเดินก็ยกแคร่
ไม่ยอมแพ้กับเภทภัย

ก่อนที่จะเดินทางมาเวนิส มีข่าวว่าน้ำท่วมสูงทีเดียว ตอนแรกฉันก็กังวลว่าเมืองจะเป็นอย่างไร พอมาถึงก็เห็นว่าไม่เป็นไร เพราะผู้คนใช้ชีวิตกับน้ำ เค้าบอกว่าตอนน้ำท่วมเค้าก็เอาแคร่ยกมาทำทางเดิน (แต่ตอนนี้เก็บแล้วเพราะน้ำลง) การเดินทางในเมืองก็ใช้เรืออยู่แล้วเค้าก็เลยอยู่กับน้ำกันได้สบายๆ

อาหารถิ่นพื้นเมือง
ทำต่อเนื่องมาแต่ใด
เลิศรสเย้ายวนใจ
จนจารไว้ในทรงจำ

ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง "หนีตามกาลิเลโอ" อาจจะจำได้ถึงตอนนางเอกมาทำงานที่ร้านอาหารอิตาลี นี่แหล่ะคือร้านนั้น ร้านอาหารเล็กๆ ในตรอกซอกซอยหนึ่งของนครเวนิส อาหารอิตาลีที่นี่อร่อยมากๆ ภาพด้านล่างเป็นสปาเก็ตตี้หอยลาย ดูเรียบง่ายแต่อร่อยจริงๆ (และเป็นเพียงจานเรียกน้ำย่อย)

เมืองเก่าเงาแห่งศิลป์
ใส่จิตจินต์เข้าน้อมนำ
นายช่างผู้ใดทำ
จนเลิศล้ำงามเกินใคร

เวนิสเป็นนครที่สวยงาม มีสัญลักษณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นหน้ากากคาร์นิวัล หรือสะพาน Rialto [ภาพด้านบน] หรือบริเวณห้องรับแขกของยุโรปจัตุรัสซานมาร์โก้ [ภาพด้านล่าง] ที่ถูกขนานนามเช่นนี้โดยพระเจ้านโปเลียนเพราะความสวยงามตระการตาของที่แห่งนี้ และทำให้กองทัพที่ยกไปทำสงครามที่อิสตันบูล (หรือคอนสแตนติโนเปิลในสมัยก่อน) ส่งทรัพย์สมบัติที่ได้มาบูรณะอย่างเต็มใจ

เสกศิลป์วาดผสม
ช่างชวนชมให้สนใจ
ศิลป์เก่าปนศิลป์ใหม่
งามวิไลให้ตรึงตา

มาเวนิสก็ต้องลองนั่งเรือกอนโดล่า [ภาพด้านล่าง] เรือที่นี่มีกฏว่าตัวเรือจะเป็นสีดำแกะสลักเป็นลายงดงามและมีที่นั่งเบาะนุ่มๆ ให้ได้นั่ง คนพายเรือจะยืนพายตรงด้านหลัง (คล้ายๆ การยืน punting ที่เคมบริดจ์) และเค้าก็จะพาเราเที่ยวชมเมืองจากวิวแม่น้ำลำคลองในนครเวนิส เรือนี้เป็นที่นิยมมากจนมีคนเลียนแบบไปหลายแห่งเช่นในโรงแรมเวเนเซี่ยน (ซึ่งคือชื่ออิตาลีของเวนิส) ที่มาเก๊าเป็นต้น

เรือล่องท่องนที
เกินวลีพรรณนา
สร้างศิลป์ก่อคุณค่า
บนธาราให้ทรงจำ




Create Date : 27 มกราคม 2556

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...