Skip to main content

Pisa - Vatican


สรรศิลป์สืบแดนสรวง
แม้กาลล่วงยังตระการ
บอกเล่าเรื่องวันวาน
สร้างตำนานในตนเอง

อีกเมืองที่ฉันได้มีโอกาสไปเยือนในทริปนี้คือเมืองปิซ่า แต่ด้วยความที่ภาพมีไม่มากนัก blog อันนี้เลยขอผสมภาพของสองเมืองคือ ปิซ่า และ นครรัฐวาติกันเข้าด้วยกัน ภาพด้านบนสุดคือ Piazza dei Miracoli ที่จะมีหอระฆังอยู่ด้านหลัง แต่ด้วยความที่สร้างแล้วเอน ก็เลยไม่ได้เอาระฆังขึ้นไปวาง ส่วนภาพด้านบนคือภาพวิวระหว่างเดินทาง ตอนเช้าอากาศเย็นๆ มีสายหมอกและทิวเขาสวยดี

เอนเอียงจนแตกต่าง
อาจมีบ้างที่วังเวง
แต่ก็น่ายำเกรง
ด้วยบรรเลงสไตล์ตน

ภาพด้านบนและด้านล่างเป็นภาพบริเวณรอบๆ หอเอนปิซ่าที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวอย่างสวยงาม หอแห่งนี้มีชื่อเสียงพิเศษเพราะนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง คุณกาลิเลโอ ใช้พิสูจน์ทฤษฏีว่าหินสองอันแม้น้ำหนักไม่เท่ากันแต่เมื่อโยนลงมาจะตกถึงพื้นพร้อมกัน /หมายเหตุ: ภาพด้านล่างเป็นภาพด้านหลังหอเอน เดินไปดูแล้วเห็นว่าหอเอนเยอะมาก (ต้องบูรณะบ่อยๆ)

งามงดลดาฟ้า
ตระการตาที่ได้ยล
ริ้วเมฆพริ้วงามจน
ดุจสายชลบนนภา

ภาพด้านบนเป็นภาพตึกราบ้านช่องด้านหลังของหอเอน ภาพนี้สวยตรงท้องฟ้า วันนั้นต้องยอมรับว่าท้องฟ้าสวยจริงๆ ส่วนภาพด้านล่างต่อไปนี้เป็นต้นไป ก็จะเป็นภาพจากนครรัฐวาติกัน รัฐที่เป็นอิสระใจกลางกรุงโรมประเทศอิตาลี (ปล. ภาพกรุงโรมจะโพสคราวหน้า) ภาพแรกคือภาพทางเดินข้างในตึกโรงจอดรถที่สร้างขึ้นมาใหม่ เป็นบันไดเลื่อนสวยงามทันสมัยก่อนที่จะเข้าถึงตัวนครรัฐวาติกัน

ถึงถิ่นดินแดนนี้
เป็นถิ่นที่อยากเสาะหา
เรื่องราวความเป็นมา
มีคุณค่าน่าทรงจำ

เดินทางมาถึงนครรัฐวาติกัน หนึ่งในสถานที่ที่ทำให้อยากมาอิตาลีแห่งหนึ่ง วันนี้(ด้วยความบังเอิญ)เป็นวันพิเศษ มีคนเยอะมากต่อแถวกันยาวเหยียดเข้ามหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ โชคดีที่อากาศดีเลยทำให้บรรยากาศสดใสแม้ผู้คนจะแออัดมากๆ ผิดปกติก็ตาม (และก็ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่อยู่ๆ ได้เข้าไปอยู่ในมวลชนมหาศาลขนาดนี้ไปอ่านประวัติที่นี่แล้วพบว่าลานกว้างจุคนได้เกือบแสนคน)

ผู้คนหลั่งไหลมา
แดนสูงค่าที่เลิศล้ำ
น้อมจิตน้อมใจนำ
ให้ดื่มด่ำศรัทธาชน

เดินฝ่าฝูงชน (ภาพด้านบนถ่ายตอนอยู่ใกล้ๆ แล้วนะ) สุดท้ายสามารถเข้าไปใกล้ๆ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ได้ (ภาพด้านล่าง) ด้วยความมึนงงว่าทำไมผู้คนถึงมาที่นี่กันเยอะขนาดนี้ในวันนี้ คนที่มาก็มีหลายรูปแบบทั้งบาทหลวง นักเรียน คนเอเซีย คนยุโรป ถือกล้องถ่ายรูปถ่ายโน่นถ่ายนี่กันใหญ่

เมื่อที่มีระเบียบ
ก่อความเงียบแม้สับสน
สงบดั่งหลุดพ้น
แม้ฝูงชนหลั่งไหลมา

ด้านบนเป็นภาพคุณทหารยามเท่ห์ๆ ที่ยืนรักษาประตูด้วยความสงบเหมือนเป็นดินแดนที่ไม่ค่อยมีคน (ในขณะที่ด้านนอกมีผู้คนมหาศาล) ทำให้ได้บรรยากาศสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ ทำให้คิดถึงมัสยิดหรือวัดเซน ในเมืองใหญ่ๆ ที่สร้างใหญ่โตตระการตาแต่ก็รักษาความสงบได้อย่างงดงาม

ยามที่เสียงขับขาน
รู้เบิกบานสร้างหรรษา
เมื่อพบความจริงว่า
ได้พบพากับผู้ใด

และแล้วฉันก็ได้รู้ว่าทำไมคนถึงเยอะ เพราะเป็นวันพิเศษที่สมเด็จพระสันตะปาปา มาให้คำอวยพรปีใหม่นะเอง ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ฉันก็เคารพและศรัทธาในผู้นำสูงสุดของศาสนาอื่นๆ เช่นกัน (เลยไปยืนร่วมรับพรด้วย) ปีนี้คงเป็นปีที่โชคดีทีเดียว ^^

ร่ำลาวาติกัน
แดนแห่งฝันด้วยจิตใส
แย้มยิ้มอิ่มฤทัย
ด้วยฝันไว้ได้เอื้อมชม




Create Date : 05 มีนาคม 2556

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...