Skip to main content

Kyoto #1


ประวัติศาสตร์...
จารึกร้อยเรื่องราว
ระบายจนพร่างพราว
สกาวในใจชน



ก่อนเดินทางกลับบ้าน ฉันตัดสินใจจับรถไฟชินคันเซ็นความเร็วสูงเดินทางจากเมืองที่ไปทำงานไปยังเกียวโต เมืองที่ฉันอยากไปมานาน ระยะทางประมาณหกร้อยกิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางเพียงสามชั่วโมง


ประเพณี...
ขัดเกลาเข้าฝึกฝน
สร้างคนให้เป็นคน
นำดลจนใจงาม



ที่พักของฉันเป็นเรียงกังอยู่ย่าน Ginza ข้างๆ Yazaka Shrine เดี๋ยวค่อยเล่าเรื่องที่พักใน blog หน้า (เพราะตอนไปถึงก็เอากระเป๋าไปฝากแล้วออกเที่ยวเลย) จุดหมายแรกที่ไปก็คือปราสาท Nijo

ความทรงจำ...
ตรงดูไม่มองข้าม
เพียงภาพเงาติดตาม
นิยามแล้วผ่านไป

Nijo Castle เป็นอีกที่หนึ่งที่ลูกค้าญี่ปุ่นแนะนำว่าห้ามพลาดถ้าฉันชอบอะไรที่เป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นจริงๆ ให้ไปให้ได้ และฉันก็ไม่ผิดหวัง ที่นี่ในปราสาทมีทางเดินเป็นพื้นเสียงนกไนติงเกลที่ฉันอยากได้ยินมานาน (ซึ่งเสียงเพราะเหมือนนกร้องจริงๆ) และได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี

เสียงดนตรี...
บทกวีอยู่ใกล้ใกล้
ยิ้มแย้มในฤทัย
อิ่มใจกับอารมณ์

เสร็จจาก Nijo ฉันก็เดินทางต่อ ลองนั่งรถเมล์ในโตเกียวไปที่ปราสาท Kinkakuji ที่ๆ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโต (ดังภาพด้านบน) ฉันเห็นปราสาทนี้บ่อยๆ ในอิกคิวซัง เลยคิดว่าซักวันต้องมาเห็นของจริงให้ได้และในที่สุดก็มาถึง @^_^@

เสี่ยงทาย...
มุ่งหมายถึงสิ่งสม
ตั้งมั่นให้เฉียบคม
แก้ปมให้คลี่คลาย

แล้วฉันก็เดินทางต่อไปที่สวน Zen ที่ก็ได้ UNESCO World Heritage อีกแห่ง -- สวน Ryoan-ji (จริงๆ หลายๆ สถานที่ ที่ฉันไปเยี่ยมในเมืองโตเกียวก็ได้มรดกโลกกันเกือบทั้งนั้น)

ราตรี...
มาเยือนพร้อมความหมาย
ความงามที่เรียบง่าย
ระบายลงคืนวัน

โชคดีที่ทำความรู้จักกับคนไทยในเกียวโต ฉันเลยได้ทราบข้อมูลว่ามีการจัดงาน Light-up แสงสีเสียงตามวัดต่างๆ ตอนกลางคืน ฉันเลยเดินตามมวลชนไปที่วัด Kodai-ji และก็ได้ดูแสงสวยๆ ภูเขาทั้งลูกเล่นกับแสงไฟสีต่างๆ ต้นซากุระกลางคืน หลายสิ่งหลายอย่างตระการตามากกว่าจินตนาการ

พงไพร...
แต้มไว้ด้วยสีสัน
งามงดเกินรำพัน
รังสรรค์ดั่งแดนสรวง

แค่เพียงวันแรกฉันก็มีความทรงจำดีๆ มากมายในเกียวโต ขนมอร่อย บ้านเมืองผสมโบราณๆ และความทันสมัยอย่างลงตัวจนน่ารัก ผู้คนอนุรักษ์ประเพณีของท้องถิ่น ฉันไม่ลังเลเลยที่จะให้คะแนนที่นี่ว่าเป็นสถานที่ ที่ฉันชอบมากๆ ติดหนึ่งในห้าเมืองน่าประทับใจที่ฉันได้เดินทางมาพบเจอ




Create Date : 05 มิถุนายน 2556

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...