ค้นคว้า
อ่านตำรา
จนมาถึง
ด้วยความที่มีหนังสือ UNESCO World Heritage เลยทำให้ชอบอ่านว่าที่ไหนได้มรดกโลก โดยส่วยตัวเป็นคนชอบมรดกโลกแบบที่เป็นทั้งเมือง (มากกว่ามรดกโลกสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง) เพราะจะมีเรื่องราวให้ดูเยอะกว่า ส่วนตัวเลยอยากมา Saltaire ที่ได้มรดกโลกในฐานะหมู่บ้านอุตสาหกรรมยุคต้นๆ ของโลก ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Well-being
ตื่นตะลึง
การลงทุน
ในวันเก่า
การเที่ยวมรดกโลกจะมี 2 แบบ – แบบแรกคือไปแล้วผิดหวังว่าทำไมเล็กกว่าที่คิด อารมณ์ประมาณว่ามีแค่นี้เองก็ได้มรดกโลกแล้วหรือนี่ กับ แบบที่สองคือประทับใจว่ากลายเป็นที่ๆ มีอะไรให้ดูมากกว่าที่คิด ส่วนตัวแล้วเมือง Saltaire นี่เป็นแบบที่ 2 (อาจจะเพราะตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักเพราะในยุคปัจจุบันเมืองนี้ก็ยังเป็นเมืองเล็กๆ อยู่)
ด้วยพบเห็น
การตรึกตรอง
เกินคาดเดา
สิ่งที่ประทับใจคือ เมืองนี้เติบโตขึ้นมาเพราะมีนักลงทุนที่มีจรรยาบรรณอยากเข้ามาพัฒนาสร้างธุรกิจด้านอุตสาหกรรมให้คนอยากมาอยู่แบบสร้างระบบ Social Welfare อย่างดีให้ด้วย (ที่ได้มรดกโลกเพราะถือว่าสร้างได้แบบ complete) เดินดูก็พบว่ามีการสร้างตั้งแต่ตึกอุตสาหกรรมเองขนาดใหญ่(มาก)ริมแม่น้ำและใช้พลังงานน้ำดั่งภาพด้านบน มีการช่วยลงทุนพัฒนาที่ว่าการเมือง สร้าง Hall ให้คนหมู่บ้านมีที่ประชุม (ภาพบนๆ) สร้าง Church (ภาพข้างล่าง) ให้คนที่มาอยู่ในหมู่บ้านนี้มีที่รวมใจ สร้าง Park สวนสาธารณะ ขนาดใหญ่มาก (ขนาดใหญ่เท่าตัวเมือง) และ เหมือนเอาที่ดินจุดที่เห็นวิวสวยที่สุด บริจาคทำเป็นที่สาธารณะให้คนในเมืองได้มาพักผ่อน ใน Park เองก็สร้างสนามกีฬา และ Club house ให้คนมีกิจกรรมทำวันหยุด ไปอ่านพวกป้ายต่างๆ ที่คนในเมืองชื่นชมนายทุนที่มาพัฒนาเมืองแล้วรู้สึกว่า คำว่า “นายทุน” ไม่ได้ควรจะถูกแปะป้ายว่าเลวร้ายไปหมดแบบที่คนไทยเราชอบแปะป้าย เพราะนายทุนบางคน มีความสามารถลงทุนจนสร้างสถานที่นึงขึ้นมาเป็นสรวงสวรรค์ของคนย่านนั้นจนขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกได้อย่างน่าประทับใจ
เป็นภาพเงา
การลงทุน
เพื่อประชา
ตอนไปเดินเมืองนี้สิ่งที่ประทับใจมี 2 อย่าง คือ 1. ไม่เจอ Homeless เลย เป็นเมืองที่เดินได้อย่างสบายใจ (น่าจะเป็นเพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรมและคนมีงานทำ และ 2. คือคนที่นี่จะดูมีฐานะ เพราะตอนเดิน Park เจอหลายครอบครัวพาน้องหมาน่ารักๆ แบบสวยมากๆ น้องหมามีเสื้อผ้าใส่ ออกมาเดินเล่น (ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะเกรงใจ Privacy) เจอผู้คนเดินสวนอะไรก็มีลักษณะเป็นมิตร ทักทายให้เป็นอย่างดี ดูมีน้ำใจแนวเมืองชนบทแต่การแต่งกาย การใช้รถราที่มียี่ห้อ ทำให้พอดูออกว่าคนที่นี่น่าจะมีดีฐานะค่อนข้างดีกัน
เมื่อนายทุน เปี่ยมน้ำใจ มาสร้างงาน
ร่วมประสาน หน่วยงานรัฐ ใส่คุณค่า
ภาพข้างบนเป็นตัวอย่างวิวจากทางเดินในสวนที่เป็น Slope ชั้นๆ บนเขามีทางเดินและแนวสวนประมาณ 3 ชั้นลดหลั่นลงมา จากสวนจะมองเห็นตัวเมืองและโรงงานอุตสาหกรรมพลังงานน้ำอยู่ห่างๆ ภาพข้างล่างเป็นแผนที่ เมืองนี้เรียบง่ายมาก ฝั่งขวาของแม่น้ำในแผนที่เป็นสวนขนาดใหญ่เรียกว่า Roberts Park มีขนาดเกือบเท่าตัวเมือง (ฝั่งนี้เป็นภูเขามองวิวเมืองได้) และอีกฝั่งของแม่น้ำเป็นตัวเมือง เป็นที่ราบลุ่มและมีอาคารต่างๆ มากมายที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมคล้ายๆ กันและโดนอนุรักษ์ไว้ให้เป็นเอกลักษณ์ ที่ขำๆ คือในภาพมีคนจูงน้องหมา พอมาได้ก็ได้เห็นจริงๆ ตามภาพ
จนก่อเกิด มรดกโลก ขึ้นมา
สร้างคุณค่า เป็นของจริง ให้ได้ชม
Comments