Skip to main content

Manchester

 

กลับมา
เมืองนี้
อีกครา

เมืองแมนเชสเตอร์เป็นเมืองที่เคยมาหลายรอบ ทั้งสมัยทำงานวิจัย ทั้งสมัยทำงาน แต่ด้วยความที่มาธุระทุกครั้งแบบ business trip เลยไม่เคยออกไปกิน-เที่ยวนอกเส้นทาง (คือกิน-เที่ยวกับคนที่มาพบตลอด) ปีนี้เลยตัดสินใจมา Manchester อีกครั้งเพราะ หนึ่งอยากมาสนาม Old Trafford เพราะเป็น F.C. Manchester United มานานกว่า 20 ปี และ สองคือเมืองนี้ได้เป็น UNESCO Creative City ด้าน Literature

เพื่อหา
โรงละคร
แห่งความฝัน

ดังนั้นจุดหมายแรกที่มาคราวนี้ คือการมาเที่ยวชม Theatre of dreams ดีใจที่ได้เข้าไปชม Museum ประวัติศาสตร์ทำให้ย้อนเวลาถึงสมัยก่อนโดยเฉพาะช่วงปีที่ได้ Triple champs ที่อดหลับอดนอนตามเชียร์ทุกนัดขนาดไปกับการทำงาน นักเตะที่ชอบที่สุดคือ David Beckham (ซึ่งชื่นชมเค้าตั้งแต่สมัยที่เค้าโดนโห่ไปเล่นไปก่อนที่เค้าจะกลับมาดัง – สงสารที่โดนกระแสเกินไปและนับถือที่เค้าสู้ไม่ยอมแพ้และเท่าที่ติดตามคือเค้าเป็นคนที่นิสัยดีระดับหนึ่ง) ดีใจที่ทั้งแมนยู ทั้งเบคแฮม ต่างพิสูจน์ตัวเองได้ เมื่อล้มก็ Rise again (กลับขึ้นมาใหม่ได้)

ดั้นด้น
ค้นคว้า
จนถึงวัน

การมาคราวนี้ด้วยความไม่มี Business host ที่จัดที่พัก เชิญกินอาหาร หรือให้นั่ง transportation แล้วเบิกค่าเดินทาง เลยเป็นการเที่ยว Manchester แบบอิสระ ค้นข้อมูลว่าเดินทางยังไง และตัดสินใจซื้อตั๋ว Tram แบบเหมาจ่ายสองโซน (เพื่อให้ไปถึงสถานี Old Trafford ทางทิศตะวันตกเพื่อไปดูสนามแมนยู ตามภาพโทนสีแดงๆ ข้างบน และ สถานี Etihad Stadium ของ Manchester City แถมด้วยเพราะครั้งนึงสโมสรนี้เคยมีเจ้าของเป็นคนไทย)

มาพบ
สิ่งผูกพัน
ประทับใจ

ทริปนี้ด้วยความที่กลัวแผนผิดพลาด และไม่อยากพลาดการไปเยี่ยมชม Manchester United เลยตัดสินใจบินออกจากอังกฤษที่สนามบิน Manchester พร้อมตัดสินใจค้างที่นี่คืนนึงเพื่อทำให้มีเวลาที่อยู่เมืองนี้ 2 วัน ข้อดีคือทำให้ได้เห็นเมืองนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน และได้เดินชมโน่นชมนี่ละเอียดขึ้นเช่นได้เห็นจุดเติมน้ำดื่มฟรีที่สถานีรถไฟตามภาพข้างบน (แต่ไม่ได้ลองใช้) หรือจุดให้ยืมจักรยานของเมืองตามมุมต่างๆ ตามสองภาพข้างบน

เดินชม
เรื่อยๆ
ตามอารมณ์

ภาพข้างบนเป็นทางเดิน/ทางวิ่งที่เชื่อม City Center ไปทางโรงแรม (มาคราวนี้พักโรงแรม The Lowry เพราะเป็นโรงแรมที่แนะนำใน Michelin Guide และได้ยินว่าคุณมูรินโญใช้โรงแรมนี้เป็นที่พักหลักสมัยเป็นโค้ชแมนยูเลยอยากรู้ว่าที่พักที่นี่เป็นอย่างไร) ถ่ายวีดีโอโรงแรมนี้ส่งที่บ้าน แต่พบว่ามัวแต่ถ่ายวีดีโอเลยไม่ค่อยได้ถ่ายภาพ โดยรวมคือเฉยๆ เพราะเจอโรงแรมอื่นๆ ในทริปที่ดีกว่าโรงแรมนี้ (ส่วนตัวคิดว่าโรงแรมนี้เคี่ยวๆ ไปนิดนึง) / ส่วนภาพข้างล่างคือ Free bus ที่วิ่งให้ฟรีจุดหลักๆ ในเมือง (แต่ไม่ได้ขึ้นเพราะซื้อตั๋ว Tram แบบเหมาจ่ายแล้ว) ดังนั้นการออกแบบเมืองนี้คือโอเค

หาความ
รื่นรมย์
ในเมืองใหญ่

มา Manchester คราวนี้ได้ลองชิมร้านมิชลินสองร้าน ที่นึงเป็นอาหารสเปน El Gato Negro (ภาพข้างล่าง) สั่งอาหารสไตล์ Tapas สั่งมาเป็นจานเล็กๆ หลายๆ จาน (ภาพที่ถ่ายคือบางส่วน) ร้านนี้ได้นั่งบริเวณบาร์ก็จะเห็นวิธีการทำอาหารจานโน้นจานนี้ เสียดายยังไม่อร่อยเท่าร้านสเปนที่น้อตติ้งแฮม (ตั้งใจมาทานอาหารสเปนอีกรอบเพราะประทับใจมาจากร้านโน้น) ส่วนอีกร้านที่ไปลองคือร้านฝรั่งเศสที่เสริฟทีละชุด 63 Degree เมนูที่ชอบคือซุปเห็ดทรัฟเฟิลที่เป็นเมนูแนะนำ of the day ลองสั่งแล้วอร่อยใช้ได้ (ภาพล่างๆ)

แวะร้าน
มิชลิน
กินกันไป

อีกที่นึงที่ไปแวะชมคือพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีหลายที่เปิดให้เยี่ยมชมฟรี! ข้างบนเป็น People’s history museum – the national museum of democracy มีการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ระบอบประชาธิปไตยในอังกฤษ มีอุปกรณ์เทคโนโลยีโน่นนี่ให้เล่น เช่นภาพข้างบนเค้าให้เรานั่งใส่หูฟังแล้วจอข้างล่างจะเป็นเกมให้เราเป็นแรงงานโรงงานทำไม้ขีดต้องบังคับและถ้าทำผิดพลาดก็เกิดเพลิงไหม้หรือโดนปรับ ให้เห็นชีวิตสมัยยังสวัสดิการไม่ดี และก็พาเดินดูไปเรื่อยๆ ว่าทำไมคนแต่ละอาชีพ แต่ละเมืองถึงอยากได้ตัวแทนไปกำหนดระเบียบกฎเกณฑ์(กฎหมาย) จนเกิด House of common สภาล่างของอังกฤษขึ้นมา ถ้าใครมีเวลาและสนใจระบอบประชาธิปไตยแนะนำมิวเซี่ยมนี้นะคะ

ดื่มด่ำ
สิ่งพอใจ
ในต่างแดน

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม

เส้นทางเจ้าหนอน

1. กลอน 6 ๏ หนอนน้อยน้อยอ้วนท้วนใส เกิดใหม่ใบเจาะเลาะหม่ำ ท้องกิ่วหิวบอกออกทำ กินนำหม่ำเอื่อยเรื่อยมา ๚ 2. โคลง 5 พัฒนา ๏ ฝนตกแล้ว..........แดดออก ฟ้าเปลี่ยนหลอก......ไม่ล้า สิ่งภายนอก...........ไร้ค่า เพียงท้องท้า..........หม่ำไว ๚ 3. อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ๏ สัญชาตญาณพา......คณนาสิหายไป หมดแล้วก็ใบใหม่.......พละไร้มิหยุดลง ๚ 4. กาพย์ยานี 11 ๏ เพียรเอยหนอนเพียรทาน.......หม่ำอาหารอย่างมั่นคง กล้อนกัดแทะบรรจง..............เจตจำนงค์มิหลงไป ๚ 5. โคลง 4 สุภาพ ๏ คนเห็นหนอนเกลียดด้วย......กินใบ กำจัดเจ้าทันใด...................ไม่เลี้ยง ผลาญชีวิตปลิดไป...............สมจิต สร้างสิทธิ์ให้หนอนเพี้ยง.........หลบหน้าหลีกไป ๚ 6. ร่ายสุภาพ ๏ หนอนน้อยหลบหลีกมา......ตั้งตาเพียรหม่ำไป...........คนใจร้ายมิสน ตัวตนสำคัญกว่า.................คุณค่าคือเติบโต............ไม่โลเลไม่ท้อ ไม่หยุดเพื่อตัดพ้อ...............ดั่งท้าชะตา ตนเฮย ๚ 7. กลอน 7 ๏ ถึงจุดหยุดหม่ำเจ้าพลันห่อ ถักทอดักแด้ดั่งแพรไหม หลบลี้หนีหายสลายไป เป็นเพียงกลุ่มใยสายบางบาง ๚ 8. โคลงดั้นวิวิธมาลี ๏ วันคืนผันผ่านแล้ว..........แคล้วไป ใยห่อค

Bhutan #1

ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า ลมหายใจฟาดผ่านท้องนภา สร้างเมฆาลงมาปกพื้นดิน ให้จิตจินต์เกินกว่าพร่ำรำพัน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ฉันเลยชวนคุณแม่ไปหาที่พักผ่อนร่างกายในดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า (ประเทศภูฏาน) ที่ๆ อากาศน่าจะดีกับสุขภาพเพราะอยู่ในปุยเมฆที่ศาสตร์ทางจีนเชื่อว่าเป็นลมหายใจมังกร เมื่อนกยักษ์บินโฉบผ่านเทือกเขา ก็เห็นเงาสะท้อนภาพสุขสันต์ เทือกเขาเขียวหมอกสีขาวนับอนันต์ เป็นของขวัญธรรมชาติในแดนดิน สนามบินแห่งชาติพาโร เป็นสนามบินที่ได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุด ตอนแรกฉันแปลกใจที่คุณกัปตันจอดเครื่องบินรออยู่ที่ประเทศบังคลาเทศอยู่นานหลายชั่วโมง แต่แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อเครื่องบินกำลังจะบินลงสนามบินและเห็นปีกเครื่องบินเฉียดเทือกเขาหิมะลัยฝ่ามวลเมฆลงจอดในพื้นที่เล็กๆ ที่เค้าบอกว่าเป็นที่กว้างที่สุดในภูฏาน (เลยมาทำสนามบินนานาชาติ) ดังภาพประกอบด้านบนๆ สายน้ำสีมรกตระรินไหล ผ่านพงไพรก่อเริ่มเกิดทรัพย์สิน ให้ผู้คนบนเขาเข้าทำกิน ตั้งฐานถิ่นนานมาจนน่าชม ประเทศภูฏานมีภูเขาสีเขียวๆ ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมดเยอะมาก ภาพด้านบนๆ ที่ไม่ค่อยมีต้นไม้คือบริ