ระรอกทราย
พรายระยับ
ประทับซึ้ง
ช่วงก่อนแอบหนีไปเที่ยวกับเพื่อนสาวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยประถมในดินแดนที่ไม่เคยไป และหนึ่งในที่หมายนั้นก็คือประเทศที่อยากไปมานาน... อียิปต์ ดินแดนที่ยิ่งใหญ่แต่โบราณ
ในห้วงหนึ่ง
ซึ่งอารมณ์
บ่มคุณค่า
จุดหมายที่ตั้งใจเดินทางไปเยี่ยมชมให้ได้นอกจากแม่น้ำไนล์ (ภาพด้านบน) แล้ว... ก็คือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก... ปิระมิตทั้งสามและสฟิงค์แห่งเมืองกิซ่าที่กรุงไคโร
มองภาพเก่า
เงาคะนึง
ตรึงอุรา
แต่น่าเสียดายนักที่ประเทศอียิปต์ในยุคปัจจุบันนั้นไม่ได้งดงามอย่างที่ฉันจินตนาการไว้ อดีตประเทศมหาอำนาจของโลกที่ใครๆ เคยเกรงขามในยุคโบราณ การมาประเทศนี้ทำให้ฉันคิดถึงสมัยที่ฉันเคยไปเยือนกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (เมืองคอนสแตนติโนเปิลเก่า) ผู้คนมีสองฐานะอย่างชัดเจนร่ำรวยและยากจน บรรยากาศต่างกันลิบลับกับประเทศในยุโรปจนน่าสะท้อนใจ
ให้พบพา
เวลาเดิน
ยลเพลินใจ
อาจเป็นเพราะฉันมีเพื่อนสนิทสมัยเรียนเคมบริดจ์เป็นคนฐานะร่ำรวยพอควร ของประเทศอียิปต์ทำให้ฉันมีภาพพจน์ในใจถึงเมืองที่สวยงามประมาณนครดูไบ แต่กรุงไคโรกลับไม่ได้เจริญในรูปแบบนั้น บ้านอิฐแดงๆ ฝุ่นเต็มถนน รถเก่าๆ หลายคันวิ่งกันขวักไขว่ในอากาศร้อนแต่ไม่เปิดแอร์เพื่อประหยัดค่าภาษีที่ต้องจ่ายให้รัฐ(ถ้าติดแอร์) ดูไปช่างตัดกันกับภาพคฤหาสน์หรูหราของเศรษฐีน้ำมันที่เป็นหมู่บ้านใหญ่ๆ เป็นจุดๆ อย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อกาลเปลี่ยน
ทุกสิ่งเวียน
เป็นไตรลักษณ์
ในย่านที่ยากจนผู้คนแต่งตัวซ่อมซ่อและทำงานหนักเพื่อให้ได้เบี้ยเลี้ยง ในย่านที่ร่ำรวยผู้คนแต่งตัวสวยงามด้วยสีสันละลานตา เหมือนจะสะท้อนให้เห็นถึงความลักลั่นย้อนแย้งอย่างน่าชม
พบประจักษ์
สลักแน่น
ปลดสงสัย
แต่สิ่งที่เหลือไว้ก็เป็นภาพประวัติศาสตร์ของความยิ่งใหญ่ ศิลปกรรม และงาน Art Works ที่เป็นเอกลักษณ์ตระการตา เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศนี้มีมนต์เสน่ห์ในตัวของตนเอง
ให้หยุดคิด
จิตตรึกตรอง
มองลงไป
ดินแดนแห่งทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเคยยิ่งใหญ่ ในปัจจุบันอาจดูเหมือนลดบทบาทลง แต่ในอนาคตด้วยทรัพยากรน้ำมันและอุตสาหกรรมหลายอย่างที่ได้เห็นคงกลับมามีบทบาทขึ้นมาได้ไม่ยากเกิน
จนปลดใจ
ให้ปล่อยวาง
อย่างที่ควร
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553 |
Comments