Skip to main content

Osaka

 

คราที่แล้ว

ไม่ได้มา

เลยมาชม

..

ปราสาทโอซาก้า: เพราะสมัยก่อนตอนมาทำงานเคยจองตั๋วเครื่องบินมาเมืองโอซาก้า แต่ในแผนมีไปเมืองเกียวโตก่อนและก็ไปประทับใจเมืองเกียวโตจนอยู่ที่นั่นเกินกว่าแผนทำให้ต้องตัดปราสาทโอซาก้าออกไป แบบคิดไว้ว่าคราวหน้ามาญี่ปุ่นจะแวะปราสาทโอซาก้าให้ได้! คราวนี้เลยบินจากโตเกียวมาแวะที่นี่อีกครั้ง (แบบจองตั๋วเครื่องบินในประเทศตอนมาถึงญี่ปุ่นแล้ว 555)



ร่วมรื่นรมย์
ถึงถิ่นเก่า
เงาความหลัง



รอบนี้เพราะเป้าหมายคือปราสาทโอซาก้าเลยตัดสินใจจองโรงแรมห้าดาวแบบติดปราสาทให้มองเห็นวิวเป็นปราสาทโอซาก้าเลยจะได้ไม่พลาด ภาพด้านบนสุดเป็นภาพวิวปราสาทที่เห็นจากห้องพักในเวลากลางคืน ภาพด้านบนเป็นภาพตอนไปนั่งดื่มเครื่องดื่มฟรีของโรงแรมชมวิวปราสาทบนชั้นรับรอง และก็ได้เดินเข้าไปเยี่ยมชมปราสาท ซึ่งมีทั้งหมด 8 ชั้น มีลิฟท์ให้ขึ้นหรือจะเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ก็ได้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ทำดีมากๆ มีประวัติตั้งแต่โนบุนากะ ถึงยุคฮิเดโยชิคนที่สร้างปราสาทโอซาก้าและรวบรวมญี่ปุ่นเป็นปึกแผ่น เค้าทำประวัติเป็นช่องๆ และเวลากดดูก็เป็นเหมือนภาพเคลื่อนไหวมีมิติหน่อยๆ ดูตามไปเรื่อยๆ แล้วสนุกดีเหมือนได้ดูซีรีย์



พร้อมเพลิดเพลิน
กับอาหาร
เติมพลัง




โอซาก้าเป็นเมืองที่ดังอาหารแนวทอดๆ ภาพด้านบนเป็นโอโคโนมิยากิร้านที่ได้มิชลิน Okonomiyaki Mizuno ที่อยู่ย่านโดทงบุริ ร้านนี้ต้องต่อแถวรอนานเป็นชั่วโมงเหมือนกันแต่ถือว่าคุ้มค่า เค้าจะทำอาหารให้ดูตรงหน้าสดๆ ราคาไม่แพงให้เครื่องอะไรเต็มที่และที่สำคัญคืออร่อย! ส่วนภาพข้างล่างคือทาโกยากิอันนี้ก็เป็นอาหารดังโอซาก้าเหมือนกัน ซื้อมาชิมระหว่างเดินชมวิวที่เพื่อนบอกให้เดินมาดูหนุ่มกูลิโกะ แต่รู้สึกเฉยๆ รสชาติไม่อร่อยเท่าที่เคยซื้อร้านนึงที่อยู่ในสวนที่โตเกียว (ที่โตเกียวข้างนอกจะกรอบๆ เลย ที่นี่จะนิ่มๆ อาจจะเป็นเพราะคนเยอะทำขายเร็วเลยทาโกยากิข้างนอกเลยไม่ทันกรอบ หรือไม่ก็อาจจะเป็นสูตรของทางโอซาก้า) 



มาประทัง
ให้อิ่มท้อง
ลิ้มลองไป




อีกวันผิดแผนอีกเช่นเคยตอนแรกจะไปเมืองฮิเมจิชมปราสาทมรดกโลก แต่ว่ารถไฟมีปัญหาขึ้นประกาศว่า delay ไม่มีกำหนด ข้าพเจ้าซื้อตั๋วเข้าไป Platform แล้วด้วย แต่รอนานเป็นชั่วโมงสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจทิ้งตั๋ว JR ชินคันเซ็นที่ไปเมืองฮิเมจิ แล้วออกมาเที่ยวในโอซาก้าต่อเพราะดูเวลาแล้วเดี๋ยวจะกลับมาไม่ทัน flight บินตอนเย็น เลยเยี่ยมชมวัดโบราณ วัดเทนโนจิอายุ 1,400 ปีเค้าบอกว่าเป็นวัดพุทธศาสนายุคแรกของญี่ปุ่น ค่าเข้าชมไม่แพง 300 เยนเท่านั้นแล้วไปปีนหอขึ้นไปชมวิวให้เหนื่อยเล่น ไปชมมรดกโลกสุสานโมซู (ภาพด้านล่าง) ที่อยู่ตอนใต้ของเมืองโอซาก้า สุสานจักรพรรดิ์และเชื้อพระวงศ์เค้าทำเป็นรูปกุญแจแต่ว่าใหญ่อลังการมากใหญ่กว่าปิระมิดอียิปต์ตอนอยู่บนพื้นดินเลยดูไม่ออกเห็นเป็นเหมือนภูเขา แต่ถ้ามีภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นเลยว่ายิ่งใหญ่มากๆ มรดกโลกอันนี้ดูแลโดยสำนักราชวังให้เข้าชมฟรี มีนิทรรศการฟรีให้ดู แล้วก็กินราเม็งมิชลินร้าน Mugito Mensuke ภาพด้านล่างสุด ร้านนี้ต้องต่อคิว 1 ชัวโมง (ภาพด้านล่าง) แต่ถือว่าคุ้มอร่อยใช้ได้เลยราคาไม่แพง เวลาซื้อจะต้องกดตั๋วที่ตู้เป็นภาษาญี่ปุ่น พนักงานจัดคิวช่วยอธิบายว่าให้กดเบอร์ 1 เป็นเมนูแนะนำ ไข่ออนเซ็นทำดีมากๆ ไม่เคยกินไข่ออนเซ็นที่ไหนอร่อยเท่าของร้านนี้มาก่อน และเค้าก็มีน้ำฟรีเสริฟให้ ร้านนี้แนะนำ



วัฒนธรรมที่มีแต่เก่าก่อน
จารบทเรียนที่คอยสอนผ่านสมัย
ให้ได้เห็นให้ได้ชมหากใส่ใจ
เป็นสิ่งให้เรียนรู้ไว้ให้จารจำ

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...