Skip to main content

China 2024

 

ถิ่น ณ นิยม….. วิเคราะห์ชมไซร้
ล่วงลุหทัย….. ปิติยินดี

Blog นี้รวมภาพท่องเที่ยวเมืองจีนด้วยตนเองเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา และก็ถึงคิวคำฉันท์ คราวนี้เลยขอแต่งด้วย จิตรปทาฉันท์ 8 ที่เป็น ครุ-ลหุ-ลหุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ครุ นะคะ / ภาพด้านบนสุดขอเปิดตัวด้วยสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจไปเมืองจีนคืออยากไปดูกำแพงเมืองจีน หนึ่งในมรดกโลกที่ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วย (เดี๋ยวจะเล่าละเอียดพร้อมลงภาพเพิ่มเติมในส่วนข้างล่างต่อไป) ส่วนภาพที่สองคือสนามกีฬารังนกย่าน Olympic Park ที่ตั้งใจจะไปดูแต่เจอเค้าปิดล้อมสถานที่ไม่ให้เข้าไปใกล้ๆ เหมือนมีงานสำคัญ เลยต้องยืนถ่ายรูปจากอีกฝั่งถนนว่ามาแวะดูละแต่ได้เห็นไกลหน่อย / ภาพข้างล่างคือถนนหนทางในเมืองปักกิ่งที่เดินแล้วเค้าปลูกต้นไม้สวยๆ พอใบไม้เปลี่ยนสีแล้วบรรยากาศดีมากๆ

ฉันท์จิตปทาฯ….. ลหุพาศรี
คู่ ภ ณ ดี…………. ครุเติมความ

เมืองจีนเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรมโบราณ ทั้งการทำระบบอะไรๆ ต่างๆ ให้ทันสมัย / ที่ประทับใจคือระบบ “รถไฟ” ภาพข้างบนคือภาพสถานีรถไฟความเร็วสูงของจีนที่เหมือนกับสนามบินเลยทีเดียวคือมีบอร์ดประกาศว่ารถไฟที่จะออกไปเมืองไหนอยู่ Gate เท่าไหร่ เวลาจะไป boarding ที่ Gate สำหรับคนต่างชาติอย่างเราๆ ก็ต้องเอา Passport ไป scan (ด้วยตนเอง) ที่ช่อง Auto ของคนต่างชาติ ระบบรถไฟความเร็วสูงที่จีนใช้ passport หรือ ID (ของคนจีน) แทนตั๋วเลย ตอนซื้อต้องคีย์เลข passport/ID เข้าระบบ ตอนเข้า-ออก Gate ก็ใช้ passport scan ตรงๆ ได้เลยประตูอัตโนมัติก็จะเปิด และ เราก็ไปนั่งในที่ๆ เราจองได้ – ส่วนข้างล่างเป็นภาพวิวข้างนอกจากสถานีรถไฟ Qinghe ที่ทั้งถนน ทั้งที่จอดรถรอบๆ สถานีรถไฟเค้าทำใหญ่โตกว้างขวาง จัดสถานที่ได้อลังการมากๆ

พาหนะใด……… ยุสมัยข้าม
เรืองรวิงาม…….. สิ อร่ามล้ำ

รถไฟฟ้าความเร็วสูงจีนทันสมัยและวิ่งเร็วมากๆ ที่สำคัญคือไม่แพง อย่างเส้นทางปักกิ่ง-กำแพงเมืองจีนด่าน Badaling อันนี้ที่ฉันนั่งถ้าเดินทางธรรมดาอาจจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่นั่งรถไฟความเร็วสูงใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง และ ตั๋วราคาถูกมากๆ คือ 80-90 กว่าบาทต่อเที่ยว แต่ต้องเข้าไปแย่งที่ทริปดอทคอมนิดนิง เพราะตอนแรกจะเดินทางอีกวันแต่จองไม่ได้เพราะตั๋วรถไฟความเร็วสูงเต็มต้องจองตอนเปิดให้จองของรอบวันนี้หลังเที่ยงคืนของวันก่อนหน้าก็เข้าระบบยิงจองเลย จองเสร็จผ่านไป 5 นาที refresh เข้าไปจองดูก็พบว่าเต็มแล้ว พอมานั่งจริงๆ ก็รู้คือคนเยอะมากๆ รถไฟไม่มีที่ว่างจริงๆ คนนั่งเต็มและรถไฟเค้าก็ขบวนยาวมากๆ และก็ออกทุกชั่วโมง มาเห็นผู้คนของเมืองจีนแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่ามวลชนจริงๆ (ทำให้นึกถึงสมัยก่อนที่อากงเคยอยู่เมืองจีนก่อนมาเมืองไทยไม่รู้ยุคนั้นเป็นอย่างไร)

ภูมิตระหง่าน……… ยุ บุราณนำ
เพียงพินิพร่ำ……… มก พาดตัว

มากำแพงเมืองจีนทั้งทีเลยอยากลองอะไรให้ครบคือลองขึ้นด้วยกระเช้า ได้นั่งกับครอบครัวที่พาลูกเล็กมาเที่ยวเด็กๆ ชาวจีนดูตื่นเต้นดีใจทำให้บรรยากาศการเที่ยวสนุกเลย กำแพงเมืองจีนอยู่สูงมากๆ บนภูเขา (ตามภาพข้างบน) ค่าขึ้นกระเช้าเที่ยวเดียว 100 หยวน และ ค่าเข้าอีก 40 หยวน ทุกอย่างต้องจ่าย Alipay หมด เค้าไม่รับเงินสด และ ไม่รับบัตรเครดิต พอมาถึงก็มาเดินข้างบนแบบเจอคนเยอะมากๆ 😆 (ดังภาพข้างล่าง) จะหามุมถ่ายรูปสวยๆ แบบภาพที่คนอื่นเอามาลงก็หามุมไม่ได้เลย เพราะด่านนี้มาง่ายที่สุด (นั่งรถไฟความเร็วสูง+นั่งกระเช้า) แต่พอเดินออกมาจากจุดกระเช้าลงเรื่อยๆ คนก็น้อยลง มุมสวยๆ ตามภาพบนสุดคือถ่ายวิวที่มองออกไปแล้วเห็นภูเขามังกรคดเคี้ยว

หมู่คณะคน………… สิ ผจญทั่ว
เที่ยว ดุจ ทัวร์ …….. นร รื่นเริง

ตอนแรกตั้งใจจะเดินกลับ แต่คนเดินกันช้ามากๆ ดุจดั่งต่อคิว คำนวนเวลาแล้วคงไม่ไหว หลังจากเดินไป 3 ป้อมแล้วคนแน่นมากๆ (ดั่งภาพข้างบน) เลย เปลี่ยนใจไปนั่งรถ Pulleys สไลด์ลงจากกำแพงเมืองจีนเลยดีกว่า (ดั่งภาพข้างล่างๆ) ซึ่งสนุกมาก ราคา 60 หยวน (เที่ยวเดียว) เค้าทำแบบทางคดเคี้ยววนไปมาให้ได้ดูวิวด้วย (ตอนแรกคิดว่าจะลงเฉยๆ) รถก็มีระบบ safety ระดับนึง มีตัวล็อค มีที่วางเท้า อย่างดีมั่นคงใช้ได้อยู่ และบางช่วงก็เร็วมากๆ

ใน ขณะ นั้น…….. จิต บันเทิง
ชื่น พินิ เชิง……... อุระ สราญ

ภาพข้างบนคือตอนนั่ง Pulley ลงมาจากกำแพงเมืองจีน (จะมองเห็นกำแพงเมืองจีนอยู่ข้างหลัง) พอลงมาข้างล่างก็เดินกลับไปที่ด่าน Badaling ได้ ช่วงนี้จะเป็นตัวด่านระหว่างภูเขาที่มีกำแพงทอดขึ้นทางเหนือ และ ทางใต้ ข้างทางมีร้านรวงเต็มไปหมด (ดั่งภาพข้างล่าง) จะถูกเรียกตลอดทาง ข้าพเจ้าเดินเยอะมากจนรองเท้าพัง (เพราะบางที่ช่วงเดินข้างบนกำแพงต้องฝืนต้านการ slide ตัวและการเบียดๆ ของผู้คน) รองเท้ากีฬาถึงกับพื้นหลุด แต่โชคดียี่ห้อที่ใช้เค้าเย็บดีมีพื้นรองเท้าอีกชั้นไม่ทะลุ แนะนำใครจะมาเดินกำแพงเมืองจีนให้เช็คสภาพรองเท้าดีๆ นะคะ

พิศ ศิริ ชม……… นว นมนาน
สัตว์ คิริ กาล…… ฯพณฯ ผ่อนกาย

เห็นคนมุงๆ ตรงโน้นตรงนี้ในโซนข้างล่างกำแพงเมืองจีน เลยเดินไปมุงกับเค้าบ้าง พบว่าในบ่อหลังกำแพงด้านล่างหลายบ่อมีน้องหมีสีดำตัวอ้วนฟูนอนหลับสบายอยู่ (ภาพข้างบน) คนจีนเค้าก็มุงกันเงียบๆ ไม่ตะโกนโหวกเหวกเพื่อพยายามปลุกอะไรดูมีมารยาทดีกันทีเดียว / ส่วนภาพข้างล่างเป็นอาหารจีนฟรีที่ Lounge สนามบินปักกิ่ง อร่อยมาก เป็น Lounge อีกแห่งที่รู้สึกว่าทำอาหารได้ดี welcome และมีโซนให้ชาร์ตอุปกรณ์ มีห้องอาบน้ำอะไรครบถ้วน / ส่วนภาพข้างล่างสุดหลังบทกวีคือตอนรอรถไฟสนามบิน สถาปัตยกรรมเค้าเก๋ดีเลยถ่ายรูปเก็บมา เมืองจีนมีทั้งโบราณๆ และ ทันสมัยๆ (จุดนั่งรอรถไฟ หรือภายในรถไฟเองของจีนก็จะมีที่ชาร์จแต่เป็น USB ธรรมดา ให้ชาร์จฟรีๆ โชคดีมีหัวต่อ convert เป็น USB-C ชาร์จไอโฟนได้แต่แบบจะชาร์จช้าๆ หน่อย)

ยามรวิผ่าน………. ปะทะฉานฉาย
แต้มผลิระบาย……ผิวะแผ่นดิน

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...