Skip to main content

Darmstadt

 

เยี่ยมชม
มรดกโลก
เรื่อยมา

…เดินทางมาเมือง Darmstadt ทางรถไฟ ที่นี่มีหลายสถานี – สถานีหลัก Darmstadt Hbf, สถานีทางเหนือ Darmstadt Nord, สถานีทางตะวันออก Darmstadt Ost. – และเป็นเพราะรถไฟเยอรมันรอบที่นั่งไปมีปัญหาเลยได้ไปแวะทุกสถานี (จอดเพื่อซ่อม) อันนี้ต้องบอกว่าแปลก สมัยก่อนเวลามาเยอรมันระบบรถไฟที่นี่ดีมากๆ แต่สมัยนี้ เจอปัญหาหลายจุด เช่นเคสนี้คือถึงสถานีประตูไม่เปิดต้องรอซ่อม ~15 นาที เป็นต้น / ใน Darmstadt เองก็มีระบบขนส่งท้องถิ่น ที่ทำเก๋คือรถเมล์ที่มีป้ายบอกละเอียดว่าเที่ยวต่อไปสายไหนและจะมาถึงกี่โมง อันนี้คือภาพตามข้างทางไม่ใช่สถานีหลักด้วย

ตามหา
ด้วยความ
ใฝ่ฝัน

ตอนไปถึงเป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยทีเดียว ที่เมืองนี้ส่วนใหญ่เปลี่ยนไปเป็นโทนสีเหลือง ตึกราบ้านช่องแถบนี้จะเป็นไปตามภาพ 2 ภาพด้านบน / และทางเดินจะปูพรมใบไม้ร่วงตามธรรมชาติ ตามภาพด้านล่าง (ซึ่งเป็นเส้นทางไปดูมรดกโลก Mathildenhohe – ตามป้ายสัญลักษณ์ UNESCO จากสถานี Darmstadt Ost.)

สะสม
เรื่อยไป
นานวัน

มรดกโลก Mathildenhohe อันนี้อยู่บนเขา สามารถเดินเข้ามาได้หลายทาง ภาพด้านบนเป็นทางเข้าด้านหนึ่งที่เป็นบรรไดขึ้นไปเรื่อยๆ ทางเดินร่มรื่นระยะทางจะสั้นหน่อย ส่วนเส้นทางอื่นจะเป็นการเดิน slope ขึ้นไปเรื่อยๆ คดเคี้ยวตามถนนระยะทางก็จะยาวกว่า / พอไปถึงก็จะเห็นวิวหอคอย Wedding ที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในยุคนั้น (ภาพด้านล่าง)

ก็พลัน
เข้าใจ
อีกครา

ข้างๆ Wedding Tower ก็มีตึกที่จัดนิทรรศการ – ทางเข้าต้องเดินขึ้นไป / ที่นี่ดูตึกราข้างนอกจะเหมือนงานหยาบๆ เรียบๆ ไม่มีอะไร แต่ถ้าไปลงดูรายละเอียด เช่นพอลองเงยหน้ามองขึ้นไปบนเพดานก็จะเห็นส่วนที่สวยระยิบระยับลวดลายสีทองสลับกับสีเข้มๆ แทรกอยู่เป็นระยะๆ (ตามภาพข้างล่าง)

ความงาม
นั้นมี
หลากหลาย

อีกจุดที่สวยใน Mathildenhohe คือวิวตรง Russian Chapel (ภาพด้านบน) ที่เวลามองขึ้นไปบนหลังคาก็เห็นสีทองอร่ามเป็นลวดลายอย่างสวยงาม / ยิ่งเดินออกมาด้านหน้า Chapel จะมี Pond สีฟ้าน้ำใสแจ๋ว มีลายกระเบื้องสวยๆ (ภาพด้านล่าง) / ส่วนภาพล่างสุดเป็นทางเดิน slope เล็กน้อยตามถนนลงเขาไปเรื่อยๆ กลับเข้าไปในตัวเมือง เห็นสนามหญ้าวิวข้างทางสีเขียวสดชื่น และมีต้นไม้สีเหลืองกำลังร่วงจนใบสีเหลืองปูเป็นพรมสีสวยดีเลยถ่ายรูปมาฝากนะคะ

เรียบง่าย
ก็ทรง
คุณค่า

ซ่อนความ
ซับซ้อน
จากสายตา

พบพา
จึงเห็น
และเข้าใจ

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...