Skip to main content

Interlaken <=> Schilthorn

00

ฟ้าใสไร้เมฆ
เป็นเฉกเช่นนี้
เพียงมองสิ่งดี
ที่มีเรียบง่าย


01

ไปสวิสก็ต้องขึ้นเขาสัมผัสหิมะหน่อย แต่ด้วยเวลาที่มีไม่มากฉันเลยเลือกขึ้นเขาแบบง่ายๆ คือพักที่เมือง Interlaken และเดินทางไปกลับ โดยเลือกพักโรงแรม Bellevue ซี่งเป็นโรงแรมที่ประทับใจที่สุดในทริปสวิสครั้งนี้ ห้องพักวิวสวยริมแม่น้ำอาเร่ พนักงานน่ารัก อาหารเช้าอลังการ แถมมี apple และลูกอมให้หยิบฟรีตรง reception ใครมองหาที่พักที่ Interlaken แนะนำนะคะ

02

รู้ความมุ่งมั่น
จัดสรรผ่อนคลาย
เกิดความสบาย
ดั่งร่ายมนตรา


03

การเดินทางไปขึ้นเขา Schilthorn จาก Interlaken นั้นทำได้หลายวิธี ฉันลองเลือกขาไปเส้นทางนึง ขากลับอีกเส้นทางนึงเพื่อการชมวิวที่ต่างกัน ตอนไปฉันเลือกนั่งรถไฟจากสถานี Interlaken OST ไปยังเมือง Lauterbrunnen แล้วขึ้น BLM ไป Grutschalp แล้วต่อรถรางชมวิวเพราะวิ่งเรียบริมผาผ่าน Winterregg ไป Murren

04

แล้วชมทิวทัศน์
ภาพชัดบนฟ้า
ยิ้มแย้มเต็มตา
คุณค่าอารมณ์


05

เมือง Murren อยู่ระหว่างทางขึ้นเขาเส้นทางที่ฉันเลือกต้องเดินตัดผ่านหมู่บ้าน พอเดินออกจากสถานี BLM ถ้าใครชอบธรรมชาติให้เลือกเดินแยกทางซ้ายจะเห็นวิวหมู่บ้านอยู่ขวามือและภูเขาอยู่ซ้ายมือซึ่งสวยทีเดียว แต่เมืองนี้ฉันไม่ค่อยประทับใจผู้คนเท่าไหร่อาจจะเพราะเป็นเมืองทางผ่านขึ้นเขาผู้คนเลยไม่ค่อยมีระเบียบวินับเหมือนเมืองสวิสอื่นๆ

06

ปลดปล่อยเรื่องราว
รวดร้าวขื่นขม
สิ่งทุกข์ระทม
กาลถมทับหาย


07

ต่อจาก Murren ก็ขึ้นกระเช้าไปเรื่อยๆ คนเยอะมาก อาจจะเป็นเพราะอากาศดีและเป็นวันเสาร์เลยต้องรอหลายเที่ยวเป็นชั่วโมงทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับทำให้แผนการเดินทางพลาดไปพอสมควร เช่นตอนแรกวางแผนว่าจะไปนั่งทานอาหารร้านที่มีวิว 360 องศา บนเขาก็ต้องยกเลิกไปไม่งั้นกลับไม่ทัน ภาพข้างบนเป็นเงาของกระเช้าเล็กๆ กับหน้าผาสูงๆ มองวิวแล้วหวาดเสียวทีเดียวตอนขึ้นมา

08

แล้วเปลี่ยนชีวิต
ลิขิตเป้าหมาย
เรื่องราวดีร้าย
กลับกลายปล่อยวาง


09

เสียดายที่ฉันมาขึ้นเขา Schilthorn ตอนช่วง Fall (กลางเดือนตุลา) คืออากาศเพิ่งจะเริ่มหนาวๆ ทำให้มีหิมะบนยอดเขาไม่เยอะ ยังเห็นพื้นที่ภูเขาสีน้ำตาลใต้หิมะชัดเจนอยู่ แต่จุดประสงค์ที่เลือกมาที่นี่เป็นเพราะขึ้นง่าย นั่งกระเช้าขึ้นมาได้ถึงยอดเขาเลย สามารถเดินชมรอบๆ เห็นวิวเทือกเขามรดกโลกชัดเจน มีพิพิธภัณฑ์ 007 ให้ดูเพลินๆ เพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังก็ได้ประสบการณ์ดี

10

ปุยขาวพร่างพรม
ชื่นชมตามทาง
ภาพฝันสล้าง
ชะล้างจิตจินต์


11

พอตัดสินใจไม่นั่งกินข้าวในร้าน (ที่ทำพื้นหมุนๆ ให้กินไปชมวิวไป 360 องศา) ฉันเลยตัดสินใจเดินออกนอกรั้วตามแนวทางเดินบนแนวยอดเขาไปชมวิวหิมะแบบใกล้ชิดบ้าง จากตัวอาคารจะมีจุดชมวิวและจุดนั่งพักเป็นระยะๆ ฉันพบว่าถึงแม้จะหวาดเสียวตอนเดินเล็กน้อยเพราะไม่มีรั้วกั้น แต่การชมวิวทิวเขาสองข้างและจุดที่เรายืนเป็นยอดสูงนั้นให้ความรู้สึกอิสระเสรีดีทีเดียว

12

เก็บเกี่ยวอารมณ์
ชืนชมฟ้าดิน
เติมเต็มรดริน
มิสิ้นทรงจำ


13

ตอนกลับฉันเลือกลงกระเช้าตรงลงมาที่เมือง Stecheiberg เลย โดยระหว่างทางก็ชมน้ำตกไหลลงมาตามหน้าผาแบบภาพข้างบน แล้วนั่งรถบัสสาย 141 ประมาณ 10 นาทีต่อไปเมือง Lauterbrunnen แล้วนั่งรถไฟกลับไปที่เมือง interlaken ชมทิวทัศน์แม่น้ำที่เป็นหิมะละลายใสๆ ไหลเป็นเพื่อนตลอดแนวทางรถไฟ (อารมณ์คล้ายๆ ตอนไปเที่ยวหิมาลัย คือตามทางจะมีน้ำหิมะละลาย และสวยใสมากๆ)

14

อิ่มเอมเปรมปรี
สิ่งดีงามล้ำ
สร้างภาพดื่มด่ำ
เกินคำบรรยาย


15



Create Date : 10 ธันวาคม 2561

Comments

Popular posts from this blog

Saraburi

อุ่นไอแดดแผดริ้วไล้ผิวโลก ลบทุกข์โศกวาดสิ่งใหม่ใส่เติมฝัน เปิดท้องฟ้าจากมืดมิดพลิกงามพลัน สมเฉกชั้นธรรมชาติวาดระบาย เมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสไปทำบุญที่สระบุรีและแวะเที่ยวฟาร์มโชคชัยกับทาง Software Park และ สวทช. ตอนทำบุญก็ทำบุญเพลินไปเล็กน้อยเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา เพิ่งรู้ตัวว่าควรถ่ายรูปบ้างก็ตอนเที่ยวฟาร์มโชคชัยดังนั้น Blog คราวนี้เลยมีแต่ภาพฟาร์มโชคชัยเป็นหลักนะคะ หมู่ปักษาโบยบินบนห้วงฟ้า ยึดนภาดั่งเช่นเป็นจุดหมาย สร้างเสรีเป็นของตนจนปล่อยคลาย ไม่เสียดายพื้นดินบินขึ้นไป ฟาร์มโชคชัยจัดไว้ดีพอสมควรคือแบ่งทัวร์เป็นกลุ่มๆ แล้วนั่งรถไปชมจุดการแสดงประกอบการบรรยายเป็นจุดๆ และให้เวลาเดินในแต่ละจุดพอสมควร ทำให้ได้สัมผัสชีวิตการทำฟาร์มโคนมแบบมีกลิ่นอาย Cowboys เล็กๆ เพราะมีการแสดงการดูแลฝูงวัวและอื่นๆ ให้ได้ชม ธรรมชาติวาดไว้ใส่ชีวิต ขีดลิขิตความงามตั้งแต่ไหน เพียงปลดปล่อยสายตาทอดออกไป อยู่ใกล้ๆ ไม่ไกล... ความงดงาม ส่วนที่ฉันชอบที่สุดในการเที่ยวฟาร์มคือการไปดูสวนสัตว์(เด็กๆ) และได้ให้อาหารสัตว์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองป้อนนมน้องวัวที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่วัน คนคิดทำฟาร์มฉลาดทีเดียวที่ทำให้น้องวัวม...

Derwent Valley Mills

หุบเขา อุตสาหกรรม อันตระการ หนึ่งในทริปนี้ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ BritRail คืออยากทดลองนั่งรถไฟตามเส้นทางมรดกโลก UNESCO World Heritage: Derwent Valley Mills ที่มีหลายจุดตามแนวรถไฟในแผนที่ด้านบน แต่ด้วยเวลาจำกัดทริปนี้หลักๆ เลยแวะแค่สองเมืองคือ Derby และ Belper (ที่เหลือคือชมวิวตามแนวทางรถไฟดังรูปภาพบนสุด และ ล่างๆ) ที่ Derwent Valley Mills ได้มรดกโลก เพราะเคยเป็นย่านอุตสาหกรรมที่ทันสมัยตามแนวแม่น้ำ Derwent อย่างเป็นระบบในยุคก่อน มีตำนาน เล่าขาน จรดจารได้ ด้วยความที่ผ่านนี้เป็นเมืองอุตสาหกรรม ตามรายทางจะเห็นวิธีการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินของยุคก่อน จนถึงวิธีการผลิตไฟฟ้าแบบสะอาดของยุคใหม่ เช่นกังหันลม (ตามภาพข้างบน) และ Solar Cells (ซึ่งถ่ายภาพไม่ทัน) / ส่วนภาพข้างล่างคือภาพสถานีรถไฟ Belper ซึ่งเหมือนอยู่ในร่องหุบเขา ด้านบนๆ จะเป็นระดับถนนและแนวบ้านจะเข้าเมืองต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นเนินเขาไปที่ระดับถนน เวลารถไฟมาในบริเวณนี้คือจะมีถนนตัดทางรถไฟอยู่ด้านบนเป็นระยะๆ ตามแบบในภาพ ให้ผู้คน รุ่นหลัง เรียนรู้ไว้ เมือง Belper เห็นในแผนที่ (ข้างบน) จะไม่รู้ว่าเป็นต่างระดับ แต่พอเดินก็พบว่าเป็นหุบเขาขึ้น...

Cambridge 2024 - Town

คิดถึง เคมบริดจ์ ...จึงกลับมา... กลับมาอังกฤษรอบนี้เป็นเพราะคิดถึงเมืองเคมบริดจ์ พอคอลเลจมีจดหมายเชิญให้คน Matriculation ปี 1999 กลับมา Reunion เพราะครบรอบ 25 ปีที่ลงทะเบียนเรียนที่เคมบริดจ์ และด้วยเหตุนี้ ทริปอังกฤษคราวนี้เลยตัดสินใจมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ถึง 4 วัน เพราะมีทั้งกิจกรรม Reunion ศิษย์เก่า ทั้งนัดพบปะเพื่อนฝูง-ครูบาอาจารย์ และ มีที่ๆ อยากจะดูนั่นดูนี่ของเมืองเคมบริดจ์ให้สมกะความผูกพัน (เพราะเคยอยู่ที่นี่ถึง 5 ปี) แล้วพอจัดทำภาพก็พบว่าทำเคมบริดจ์ blog เดียวนั้นไม่พอ เลยจะทำ blog ให้เมืองเคมบริดจ์ 2 อันนะคะ แบ่งเป็น Town & Gown (ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเมือง และ ส่วนที่เกี่ยวกับตัวมหาลัย) เพราะเคมบริดจ์เป็นเมืองมหาวิทยาลัย คือทั้งเมืองเป็นมหาวิทยาลัย Town & Gown จะอยู่ผสมๆ กัน เป็นมหาลัยขนาดใหญ่และอบอุ่น ตามหา เรื่องราว ที่เคยฝัน บรรยายภาพก่อนนะคะ ภาพบนสุดเป็น Great St. Mary's Church โบสถ์หลักกลาง City Center ของ Cambridge จะอยู่ตรงใกล้ๆ Market Square วิวบริเวณนี้จะสวยมากๆ ใครมาเที่ยวเมืองเคมบริดจ์แนะนำนะคะ แถวนี้เดินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองเคมบริดจ์เป...